น่านสนธิกำลังยึด รีสอร์ทหรู สะปัน-บ่อเกลือ สร้างรุกป่าสงวนแห่งชาติภูคา-ผาแดง ต้นน้ำน่าน บุกยึดรีสอร์ตหรูวิวหลักล้าน อ้างดารา คนใหญ่ระดับประเทศถือหุ้น จ่อตรวจสอบอีกเพียบ
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 เวลา 16.30 น. พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน พร้อมด้วย หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอบ่อเกลือ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.7 (บ่อเกลือ) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า นำหมายศาลจังหวัดน่านเข้าตรวจค้นที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต สะปัน – บ่อเกลือ แยกห้วยหมีห้วยโทน บ้านนาโป่ง หมู่ 1 ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน หลังฝ่าฝืนประกาศ เป็นพื้นที่ถูกตรวจยึดดำเนินคดีอาญาและยึดทรัพย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565

เนื่องจากได้ก่อสร้างบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวจำนวน 12 หลัง.รุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยภูคาและป่าผาแดง เนื้อที่ 3 ไร่กว่า และได้ประกาศห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่หรือกระทำการด้วยการกระทำใดๆ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย แต่ผู้ประกอบการ ได้ฝ่าฝืนประกาศ ยังคงเปิดบริการให้แก่นักท่องเที่ยว และดำเนินการขายห้องพักให้กับนักท่องเที่ยวผ่านสื่อโซเชียล อีกทั้งยังมีการนำดาราสาวชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เข้าพักที่รีสอร์ท และมีการนำชื่อบุคคลมีชื่อเสียงในวงการต่างๆมาแอบอ้างเป็นหุ้นส่วนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งหมู่บ้านท่องเที่ยวชื่อดังของ ตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูคา-ป่าผาแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจภูธรบ่อเกลือได้ตรวจยึดไว้เพื่อประกอบหลักฐานการกระทำผิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้จากหน่วยป้องกันรักษาป่าน่านที่ 7 อำเภอบ่อเกลือ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ กรมป่าไม้ ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 3 ไร่ 3 งาน 65 ตารางวา ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปแล้ว เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ตามประจำวันข้อ 1 เวลา 22.00 น. คดียึดทรัพย์เป็นของกลางคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 สถานีตำรวจภูธรบ่อเกลือ รวมทั้งปิดประกาศ “ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่หรือกระทำการด้วยประการใดๆหากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย” แต่รีสอร์ตดังกล่าวเพิกเฉยยังเข้าไปดำเนินการเปิดกิจการให้นักท่องเที่ยวเข้าพัก รวมทั้งมีการเผยแพร่โฆษณาเชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้าพัก โดยนำผ้าไปปิดทับป้ายประกาศ

โดยในระหว่างที่ตรวจยึดจับกุม ขณะเข้าตรวจค้นบรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังกดดันเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้มือถืออัดบันทึกทั้งภาพและเสียงตลอดเวลา และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยอ้างรอผู้ใหญ่กับทางทนายความ อีกทั้งในระหว่างตรวจค้น ได้มีนักท่องเที่ยวที่จองห้องพักออนไลน์ไว้เดินทางเข้าพักอีกด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ร.ต.อ. ธนิต ธิมิตร พนักงานสอบสวน สภ.บ่อเกลือ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางรวม 11 รายการ ตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ที่ห้ามเข้าพื้นที่ที่ทำการตรวจยึดในของกลางคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ประกอบกิจการโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ่อเกลือเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดย ก่อนหน้านี้ ช่วงเวลา 14.00 น. ได้สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าท่า ทำการสั่งรื้อถอนสะพานข้ามน้ำหว้าที่หมู่บ้านสะปัน รวมทั้งสิ่งก่อสร้างที่รุกล้ำลำน้ำหว้าของรีสอร์ตหรูกลางหมู่บ้านสะปัน หมู่บ้านท่องเที่ยวชื่อดังของอำเภอบ่อเกลือ

ทั้งนี้ ป่าต้นน้ำน่าน มีความสำคัญต่อวิถีชีวิตคนไทย เนื่องด้วยป่าต้นน้ำน่านเป็นป่าต้นน้ำที่ผลิตมวลน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยากว่า 40 เปอร์เซ็นต์ จากแม่น้ำทั้ง 4 สายที่ไหลสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แตกแขนงสู่คูคลองสาขาไปยังเรือกสวนไร่นา หล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรของหลายพื้นที่ในประเทศไทยให้งอกงาม สร้างอาชีพ ความเป็นอยู่ที่ดี และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม่น้ำสายนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญของวิถีชีวิตคนไทยมาหลายชั่วอายุคนป่าต้นน้ำน่านจึงเป็นเหมือนมารดาของสายน้ำน้อยใหญ่ในประเทศ รวมถึงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ช่วยโอบอุ้มวิถีชีวิตของคนไทย แม้เป็นเวลากว่าหลายสิบปีแล้ว ที่พื้นที่บางส่วนของป่าต้นน่านเคยถูกทำลายและกลายเป็นภูเขาหัวโล้น แต่ในปัจจุบันคนในพื้นที่ หน่วยงานรัฐและเอกชนได้เห็นความสำคัญของป่าต้นน้ำน่านที่เป็นจุดกำเนิดของความสมบูรณ์ของพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ของอาชีพเกษตรกรที่เป็นอาชีพหลักของคนไทย ซึ่งการพลิกฟื้นผืนป่าน่านด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนช่วยให้ป่าต้นน้ำน่านกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง แม้ยังไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ทั้งหมด แต่การคืนชีวิตให้ผืนป่ายังคงดำเนินต่อไปด้วยความหวังและความตั้งใจ ที่ช่วยส่งเสริมให้การฟื้นฟูป่าต้นน้ำคือการร่วมแรงร่วมใจของคนในพื้นที่ที่หันกลับมาทำการทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดน่านกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ช่วยให้คนน่านอยู่ร่วมกับป่าน่านได้อย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน

สุดท้ายนี้ การที่จะกล่าวว่าป่าต้นน้ำน่านเป็นดั่งของขวัญจากธรรมชาติอันสุดวิเศษที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนไทยในหลายพื้นที่นั้นจึงไม่ใช่การพูดเกินจริง เพราะการที่ป่าต้นน้ำน่านที่กลับมาสมบูรณ์ได้อีกครั้งก็จะช่วยให้ลำน้ำสาขาอื่น ๆ มีมวลน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูกและการใช้ชีวิต ช่วยให้ผู้คนที่อยู่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำสามารถรักษาอาชีพและวิถีชีวิตได้สืบต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า พื้นที่บ่อเกลือ จ.น่าน มีการสร้าง ที่พัก และรีสอร์ท จำนวนมาก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีผู้ประกอบการบางรายได้สร้างความเดือดร้อน สถานที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การคิดราคาที่พักและบริการแพง ซึ่งได้มีการประชุมระดับจังหวัด เละหลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ทั้งเรื่องพื้นที่การก่อสร้างที่บุกรุกลำน้ำและพื้นที่ป่าไม้ ใบอนุญาตตาม พรบ. ควบคุมอาคาร โดยต้องบังคับใช้กฎหมายกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจทั้งผู้ประกอบการและประชาชน ในการจัดระเบียบที่พัก รีสอร์ท พื้นที่ สะปัน-บ่อเกลือ อย่างไรก็ตามขอประชาสัมพันธ์ถึงนักธุรกิจ หรือนักลงทุนที่สนใจทำธุรกิจบ้านพัก รีสอร์ท ที่สะปัน-บ่อเกลือ ควรตรวจสอบพื้นที่ที่จะก่อสร้างว่าถูกต้อง ไม่ลุกล้ำพื้นที่ป่าก่อน เพื่อจะได้ไม่กระทำผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น