เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2565 ที่บริเวณภายใน รร.พระนั่งดิน ต.เวียง อ.เชียงคำ จ.พะเยา พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นาย เดินทางมาให้ความรู้ในเรื่องของการเอาตัวรอดหากมีเหตุการณ์กราดยิงจากผู้ร้าย หรือในชื่อโครงการ “Active Sooter” หนี ซ่อน สู้ ซึ่งในครั้งนี้ได้มีทาง นายสำเนียง อัตไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพะเยา เขต 2 ได้เดินทางมาร่วมดูการอบรมครั้งนี้ ซึ่งก็ได้มีนายอำพล ราวกลาง รักษาการในตำแหน่ง รร.พระนั่งดิน ได้นำเด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น เกือบ 100 คนมาร่วมเข้ารับการอบรมในครั้งนี้ด้วย
พ.ต.อ.เฉลิมชาติ กล่าวว่า สิ่งสำคัญในการจำลองเหตุการณ์กราดยิงนี้คือเด็กนักเรียนรวมทั้งคณะครูจะต้องรู้วิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่ว่าหากมีคนร้ายเข้ามากราดยิง ด้วยเพราะโรงเรียนถือว่าเป็นจุดที่มีการป้องกันที่น้อยมาก ด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านมาหากหลายคนที่ได้ติดตามข่าวสารของ จ.หนองบัวลำพูที่ผ่านมานั้นจะเห็นถึงโศกนาฏกรรมที่ดูรุนแรงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทาง ผบ.ตร.ได้มีนโยบายในเรื่องของการป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตามพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งในสมัยนี้พบว่าคนวิกลจริต หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าเริ่มมีมาก ในการจัดการวางแผนเพื่อป้องกันเหตุนั้นจึงจำเป็นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จะต้องออกมาให้ความรู้แก่ครูและนักเรียนเพื่อสามารถที่จะเอาตัวรอดในเหตุการณ์ลักษณะนี้ได้เช่นกัน
ทั้งนี้ในการอบรมครั้งนี้เห็นว่าทาง รร.พระนั่งดินได้ติดตามข่าวสารจึงได้มีการร้องขอเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยในการอบรมและตนเองก็ไม่ได้ติดขัดแต่อย่างใด อีกทั้งยังเต็มใจในเรื่องของการให้ความรู้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการให้ความรู้ของเหตุการณ์ที่เด็ก ๆ อาจจะติดอยู่ในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถของผู้ปกครองหรือรถรับส่งเด็กนักเรียนเพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นโดยง่ายด้วย และหลังจากนี้หากโรงเรียนไหนต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคำเดินทางไปให้ความรู้และซ้อมเสมือนจริงก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ สภ.เชียงคำได้ทุกวันทำการ ซึ่งโรงเรียนแรกที่ได้ทำการอบรมไปแล้วนั้นคือ รร.ปิยมิตรวิทยาใน ต.หย่วน
ด้านนายสำเนียง ได้กล่าวเสริมว่า ในการที่ตนได้มานั่งดูการอบรมครั้งนี้ ถือว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคำได้ให้ความรู้ในเรื่องของการเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์กราดยิงแก่คณะครูและนักเรียนได้เป็นอย่างดี ด้วยเพราะหากไม่มีการอบรมขึ้นในลักษณะนี้และเกิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริงแล้วตัวของเด็กนักเรียนก็อาจจะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรในการรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้ รวมทั้งตนอยากให้ทุกโรงเรียนได้รับการอบรมลักษณะนี้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตประจำวันอีกทั้งตัวของคณะครูและนักเรียนจะสามารถรับมือกับเหตุการณ์จริงได้ต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น