แม่แตง-เวียงแหง-เชียงดาว-ปาย บันทึกร่วมมือจัดการไฟป่า กำหนดห้ามเผา 75 วัน 1 ก.พ. - 30 เม.ย. พร้อมประกาศปืดป่า 1 มี.ค. - 30 เม.ย. 66 บูรณาการทุกภาคส่วนทำแนวกันไฟ ออกลาดตระเวน
วันที่ 23 ธ.ค2565 ที่ห้องประชุมสายหมอก อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง นายชัยณรงค์ นันตาสาย นายอำเภอแม่แตง ได้มอบหมายให้ นายโชคทวี ศรีเที่ยง ปลัดอำเภอ ร่วมประชุมเพื่อทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการ ( MOU ) การแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอ และพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด ในเขตป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ โดยหน่วยงานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ส่วนราชการ ผู้นำชุมชน ท้องถิ่น 4 อำเภอ 2 จังหวัด ได้แก่อำเภอแม่แตง อำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้พื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอในเขตป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ที่ต้องการบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มี 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่บริเวณ ท้องที่บ้านห้วยน้ำดัง ตำบลกี้ดช้าง อำเภอแม่แตง – บ้านแม่แพลม ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว – บ้านสามหมื่น ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ – บ้านหัวแม่เมือง ตำบลเวียงเหนือ – หย่อมบ้านดอยช้าง ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และพื้นที่บริเวณ ท้องที่บ้านแม่หาด ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ – หย่อมบ้านหัวปาย ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ส่วนพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอ ในเขตป่าอนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ ที่ต้องการการบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2 5 พื้นที่เดียวคือ พื้นที่บริเวณ บ้านแม่เลา – แม่ไคร้ ตำบลป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ – บ้านแม่ปิง ตำบลแม่ฮี้ – บ้านแม่เหมืองหลวง – บ้านแม่ซุนสาใน ตำบลโป่งสา อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สำหรับแนวทางบูรณาการ โดยจะกำหนดช่วงเวลาการห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 โดยกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2566 เป็นระยะเวลา 75 วัน โดยจะมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยหน่วยงานภาครัฐ และในพื้นที่ที่มีการลงทะเบียนของจังหวัดเท่านั้น

นอกจากนี้ยังจะกำหนดแนวทางการบูรณาการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ร่วมกันในพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอ ในเขตป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ โดยกำหนดให้มีการจัดประชุมหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน รวมทั้ง มีการจัดกิจกรรมร่วมกัน ได้แก่ การลาดตระเวน การทำแนวกันไฟ และหากเกิดไฟป่าในเขตพื้นที่รอยต่อต้องมีการบูรณาการปฏิบัติงานดับไฟร่วมกัน
เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จากสาเหตุการเข้าไปเก็บหาทรัพยากรธรรมชาติที่เกิดใหม่ทดแทนได้ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา – แม่แสะ จะมีประกาศ ห้ามมิให้บุคคลใดเข้าไปในเขตป่าอนุรักษ์ โดยไม่มีเหตุอันควร ในท้องที่อำเภอแม่แตงอำเภอเวียงแหง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 30 เมษายน 2566 กรณีมีเหตุจำเป็นให้ประสานเจ้าหน้าที่ป่าอนุรักษ์ ทั้ง 6 แห่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชนท้องที่ โดยแจ้งชื่อและเหตุผลเพื่อขออนุญาตก่อนทุกครั้ง หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า

ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา – แม่แสะ มีการกำหนดเขตการจัดการ เขตธรรมชาติหวงห้าม (Strict Nature Reserve Zone) และเขตสงวนธรรมชาติเข้มข้น(Conservation Targets Zone) ซึ่งเป็นเขตที่มีสภาพธรรมชาติที่เปราะบาง และมีทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ เป็นที่อาศัยของสัตว์ป่าชนิดสำคัญและหายาก เป็นแหล่งสังคมพืชที่เป็นตัวอย่างที่สำคัญ ซึ่งเมื่อเสื่อมโทรมแล้วยากที่จะทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้ หรือง่ายต่อการถูกทำลายมากที่สุด จึงควรอนุรักษ์ไว้ด้วยความเข้มงวดกวดชันอย่างที่สุด โดยไม่ให้มีกิจกรรมของมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องในเขตนี้ และห้ามการพัฒนาใด ๆ จึงไม่อนุญาตให้มีการเข้าพื้นที่ดังกล่าวอย่างเด็ดขาด รวมไปถึงการปิดเส้นทางที่ไม่ได้เป็นเส้นทางสัญจรโคยปกติของชุมชน เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการป้องกันพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จึงขอความร่วมมือในการ
ประชาสัมพันธ์ข้อมูลดังกล่าวให้ประชาชนทราบและแจ้งให้ยึดถือปฏิบัติต่อไป
ด้านฝ่ายปกครอง 4 อำเภอ 2 จังหวัด ร่วมกับ หน่วยงานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในเขตป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ จะประสานความร่วมมือระหว่างกัน และจะสนับสนุนการดำเนินงาน ตลอดจนติดตามประเมินผลการดำเนินงาน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นระยะต่อไป


ร่วมแสดงความคิดเห็น