เลขา ป.ป.ส จับมือ ม.สงขลาฯ ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบาย
“พืชกระท่อมจากอดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต”
วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบาย “พืชกระท่อมจากอดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายวีระพล ใจจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันสำรวจและควบคุมยาเสพติด นายแพทย์วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์
ดร.สุรชาติ เพชรแก้ว ผู้แทนจากคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นางสาววรีรัตน์ ศรีสถิตวัฒนา กรรมการสภาหอการค้าไทย และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุม BSC2 ชั้น 2 อาคารปฏิบัติรวมพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำหรับ นโยบายพืชกระท่อม สำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีการขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด ผ่าน พ.ร.บ. พืชกระท่อม พ.ศ. 2565 ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจ และร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์เกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน แผนการขับเคลื่อนพืชกระท่อมในระยะถัดไป และ
การบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมทางการแพทย์และเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต
นับตั้งแต่ปี 2559 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ผลักดันให้มีการผ่อนปรนให้สามารถใช้พืชกระท่อมโดยวิถีชุมชนได้โดยไม่มีความผิด และต่อมาในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เราได้ดำเนินการเสนอกฎหมายยกเลิกพืชกระท่อมจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 และเสนอให้มี พ.ร.บ. พืชกระท่อม พ.ศ. 2565 ซึ่งได้มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยนโยบายพืชกระท่อมนี้ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประชาชนมากที่สุด
ปัจจุบัน สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) การสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมด้วยการวิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งมีโครงการวิจัยที่สำคัญถึง 22 โครงการ และได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOA) การกำกับดูแลการนำเข้าส่งใบกระท่อมร่วมกับกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และคณะอนุกรรมการประสานงานจะเร่งรัด ส่งเสริม และสนับสนุนการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา อาหาร และเครื่องสำอาง ที่เราได้ทำการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อทำการหาค่ามาตรฐานกลาง และวิจัยถึงความปลอดภัยในการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งถือว่ามีผลที่ออกมาดีมาก
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำข้อมูลกลางของประเทศด้านความปลอดภัยที่สามารถนำพืชกระท่อมมา เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ จะต้องมีมาตรฐานสินค้าตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดและเป็นไปตามมาตรฐานกลาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในระบบการค้ากับต่างประเทศด้วย
”ในอนาคตเราจะพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ จ.ระนอง ชุมพร และสุราษฏร์ธานี กับโรงงานต้นแบบ ในการผลิตสารสกัดมาตรฐานจากสมุนไพรเพื่อใช้ในการแพทย์และอาหารที่ได้มาตรฐาน GMP ขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมพืชกระท่อมให้เป็นพืชเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้ มาตรา 9 พ.ร.บ. พืชกระท่อม พ.ศ. 2565 พร้อมเตรียมออกอนุบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. 2565 อีกจำนวน 11 ฉบับ เพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศและประโยชน์ของประชาชน” เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย
ร่วมแสดงความคิดเห็น