คืนสุดท้าย ประชาชนนับหมื่น ร่วมใส่ขันดอกประเพณีบูชาเสาอินทขิล

วันที่ 22 พ.ค.2566 ประชาชนชาวเชียงใหม่ และพทธศาสนิกชนนับหมื่นคน ที่พำนักในเชียงใหม่ นำข้าวตอกดอกไม้มาใส่ขันดอกถวายเป็นพุทธบูชา ในงานประเพณีบูชาเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมืองเชียงใหม่ในคืนสุดท้ายอย่างคึกคัก พร้อมกับร่วมสรงน้ำพระเจ้าฝนแสนห่าให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล

ประเพณีใส่ขันดอก บูชาเสาอินทขิล (เสาหลักเมืองเชียงใหม่) ประจำปี 2566 ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยในปีนี้จัดขึ้นวันที่ 16-22 พฤษภาคม 2566 และวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เป็นวันทำบุญออกอินทขิล โดยในปีนี้ ทางวัดได้มีการเปิดพระวิหารหลวงชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนเข้าชม ก่อนจะปิดบูรณะอีกต่อเนื่องยาว 1 ปี ที่มีมาช้านานของชาวเชียงใหม่ ตั้งแต่ครั้งสร้างเมืองจนมาถึงปัจจุบัน

ซึ่งคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของงานใส่ขันดอก ซึ่งจัดขึ้นถึง 7 วัน 7 คืนตามประเพณีที่สืบถอดกันมาตั้งแต่สร้างเมืองเชียงใหม่ จนมาถึงปีนี้อายุครบ 727 ปี ชาวเชียงใหม่ และพุทธศาสนิกชนที่พำนักอยู่ในจัหวัดเชียงใหม่นับหมื่นคน ต่างก็พาครอบครัวเตรียมข้าวตอกดอกไม้น้ำขมิ้นส้มป่อย ไปที่หออินทขิลที่ประดิษฐานเสาอินทขล หรือเสาหลักเมืองของเชียงใหม่ ซึ่งโดยรอบจะมีการเตรียมพื้นที่สำหรับถวายข้าวตอกดอกไม้ และร่วมกันสรงน้ำเสาหลักเมือง แต่ในตัวหออินทขิลนั้นไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าไป เนื่องจากถือเป็นสถานที่ศักดิ์ สิทธิ์ที่มีดวงวิญญาณของบรรพบุรุษชาวเชียงใหม่ปกปักรักษาอยู่

ประเพณีใส่ขันดอกอินทขิล วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการทำพิธีสักการะบูชาเสาหลักเมืองเสาอินทขิล รวมถึงวิญญาณของคนเมืองเหนือและบรรพบุรุษ เชื่อว่าบ้านเมืองจะพ้นภัยพิบัติและมีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น ในวันประกอบพิธีจะเตรียมดอกไม้ธูปเทียน ขันน้ำขมิ้นส้มป่อย ใส่พานหรือสลุง ทำการสระสรง หรือการสรงน้ำเพื่อสักการะบูชา

การสักการบูชาเสาอินทขิลจะเริ่มทำในวันแรม 13 ค่ำ เดือน 8 เหนือ และเสร็จในวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 9 เหนือ ประจำทุกปี เรียกว่า เดือนแปดเข้า เดือนเก้าออก เพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่บ้านเมือง ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มั่งคั่งด้วยทรัพย์สินเงินทอง ฝนตกตามฤดูกาล

พร้อมกันนี้ในประเพณีบูชาเสาอินทขิล จะมีการอัญเชิญ “พระเจ้าฝนแสนห่า” พระพุทธรูปคูเมืองเชียงใหม่ออกมาตั้งขบวนแห่ให้ประชาชนได้สรงน้ำพระไปรอบเมือง ก่อนที่จะนำมาประดิษฐานไว้ที่หน้าวิหารหลวงเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสรงน้ำพระกัน เพื่อดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น