ภาค 5 แถลงโชว์ รวบแก๊งขนต่างด้าวชาวจีน อ้างเป็นหน้าห้องรอง ผบ.ตร.

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 พ.ค.66 ที่กองบังัคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ. 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ. 5 ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมคนไทยนำพาต่างด้าวจำนวน 1 คน และคนต่างด้าวชาวจีนจำนวน 4 คน เหตุเกิดพื้นที่ สามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ. 5 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตำรวจ ชุดจับกุม ได้รับโทรศัพท์จากหญิงรายหนึ่งและผู้ชายลึกลับอีก 1 ราย อ้างชื่อว่า รองโต้ง อยู่หน้าห้องรองต่อ หรือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. จะขอเคลียร์ในเรื่องที่จับกุมต่างด้าวชาวจีน 4 คน เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมาทาง ตำรวจ สภ.เชียงแสน ได้ประชุมวางแผนจับกุม เพราะเชื่อว่าบุคคลทั้งสองแอบอ้างชื่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อวิ่งเต้นเคลียร์คดีจับกุมชาวจีน 4 คน ที่ลอบเข้าเมือง โดย น.ส.ต่าย หรือ น.ส.ธัฐธิดา (สงวนนามสกุล) โทรศัพท์เข้ามาแจ้งกับพนักงานสอบสวน เพื่อมาคุยและเคลียร์ ขอให้ช่วยเหลือผู้ต้องหาต่างด้าวชาวจีนจำนวน 4 คน โดยเสนอให้เงินสด 350,000 บาท น.ส.ต่าย ได้ออกไปเอาเงินที่รถยนต์ยี่ห้อ Ford Everest สีน้ำตาล ทะเบียน 3ขบ xxxx กรุงเทพมหานคร จ้าหน้าที่ได้แสดงตนจับกุม แล้วเข้าตรวจค้นในรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด เอฟเวอเรส สีน้ำตาล ทะเบียน กทม. พบเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 400,000 บาท บรรจุอยู่ในซองสีน้ำตาล วางอยู่ภายในรถยนต์ดังกล่าว
พบวิทยุสื่อสารจำนวน 1 เครื่อง เสื้อกั๊กติดสัญลักษณ์ตำรวจ 2 ตัว หมวกแก๊ปสัญลักษณ์ตำรวจ สีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง และธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทจำนวน 50,000 บาท จึงจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ทราบชื่อ นายสุนฉ่าย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาวบ้าน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นายพีระพล (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาวบ้าน แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม. นายรัชต์ธพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และ น.ส.ธัฐธิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาวบ้าน ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
แจ้งข้อหาทั้ง 4 คนว่า ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการให้ทรัพย์สินเพื่อจูงใจให้ปล่อยตัว หรือเปลี่ยนข้อหาก็ล้วนแต่เป็นการจูงใจให้กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 144 ส่วนนายรัชต์ธพงศ์ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มว่า แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน และมีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต

ร่วมแสดงความคิดเห็น