นายหน้าสุดแสบลอยแพแรงงานต่างด้าวคนงานก่อสร้างถนนจากจังหวัดแพร่ 21 ราย หลังปลอมเอกสารสำนักงานจัดหางาน จ.เชียงใหม่ ยื่นขอทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย กับศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขา จ.เชียงใหม่ ตัวแทนแรงงานต่างด้าวเผยบางคนในกลุ่มจ่ายค่าดำเนินการให้กับนายหน้าสูงถึงรายล่ะนับหมื่นบาท หลายคนยืมเงินจากนายจ้างหักเงินเดือนผ่อนจ่ายให้รายเดือน ส่วนอีกรายนายหน้า พื้นที่ อ.หางดง ใช้เอกสารปลอมให้แรงงานต่างด้าวยืนทำบัตรฯสูญเงิน 7 พันบาทไม่สามารทำบัตรได้

นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อม เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนางสาวพู นามสมมุติ และนายจ้าง หลังนางสาวพู พร้อมกับตรวจสอบหนังสือทะเบียนใบอนุญาตทำงานของต่างด้าวฯ หลังนางสาวพูฯ ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย แต่ข้อมูลไม่ขึ้นในระบบของสำนักงาน เจ้าหน้าที่จึงได้สแกน QR code ตรวจสอบพบว่าเลขรับทะเบียนใบอนุญาตของต่างด้าวไม่ตรวจกัน จากการสอบปากคำทั้งสองทราบว่าก่อนหน้านี้ได้รับการติดต่อจากนายช้าง นามสมมุติ ซึ่งเป็นนายหน้าในพื้นที่ อ.หางดง ช่วยดำเนินการเรื่องเอกสารขอทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ในราคา 7 พันบาทเนื่องจากบัตรประจำตัวฯ ใกล้หมดอายุ แต่กลับพบปัญหาไม่มีการยื่นเรื่องที่สำนักงานจัดหางาน และปลอมเอกสารให้แรงงานต่างด้าวมายื่นทำบัตรฯ ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกบัตรฯให้ได้ ทำให้เจ้าตัวต้องกลับไปดำเนินการที่สำนักงานจัดหางานอีกครั้งต้องสูญเงิน 7 พันบาทให้กับนายหน้ารายดังกล่าวไปในที่สุด

ต่อมานายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เร่งสอบปากคำแรงงานต่างด้าว ทั้งชายหญิงรวม 21 คน พร้อมกับตรวจสอบทะเบียนใบอนุญาตทำงานของต่างด้าวฯ ที่นางสาวกิ๊บ นามสมมุติ ซึ่งเป็นนายหน้า นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมด มายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อประกอบการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว

ด้านหัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆที่ได้ยื่นเข้ามาแต่กลับไม่พบในระบบฐานข้อมูล บางรายมีข้อมูลไม่ตรง จึงได้ตรวจสอบเบื้องต้นด้วย การสแกน QR code ที่อยู่มุมล่างซ้ายของเอกสารดังกล่าวพบว่าไม่มีการอัพเดท ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน นอกจากนี้ไม่มีการแนบ หนังสือยืนยันข้อมูลแรงงานฯ และใบเสร็จรับเงินจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ มาด้วยจึงได้แจ้งให้นายหน้ารายดังกล่าว ทราบว่าได้ดาวน์โหลดเอกสารดังกล่าวจากระบบอินเตอร์เน็ท จึงได้ให้กลับไปเอาใบเสร็จรับเงินฯมายืนยัน หลังจากนั้นจึงได้อายัดเอกสารทั้งหมดไว้ก่อนเพื่อส่งให้สำนักงานจัดหางาน จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งกรณีดังกล่าวหากเจ้าพนักงานไม่ตรวจสอบด้วยความรอบคอบ หากออกบัตรประจำตัวให้ไปแล้วอาจจะโดนสอบวินัยฐานประมาทในหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารที่มีการยื่นทำบัตรฯอย่างละเอียดเพื่อป้องกันความผิดพลาด

อย่างไรก็ตามตนอยากจะเตือนกลุ่มนายหน้าบางคน ที่มีพฤติกรรมนำเอกสารปลอมมาให้แรงงานต่างด้าวมาขึ้นทะเบียน แต่ไม่สามารถถ่ายบัตรประจำตัวได้ถือว่าเป็นการหลอกลวงและซ้ำเติมกลุ่มคนดังกล่าวนอกจากจะเสียเงินให้กับนายหน้าแล้วยังเสียเวลาในการเดินทางมาทำบัตรประจำตัวฯ ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารทางราชการอีกด้วย
ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงให้ทราบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้เดินทางกลับไปก่อนเนื่องจากไม่สามารถดำเนินการให้ได้ในวันนี้และได้นอนค้างที่ศาลาหมู่บ้านหนองบัว ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด คาดว่าได้รับการประสานงานจากนายจ้างเพื่อรอทำบัตรฯ ในวันพรุ่งนี้

ล่าสุดนางสาวกิ๊บฯได้นำเอกสารการปรับปรุงข้อมูลแรงงานทั้งหมดจากสำนักงานจัดหางาน จ.เชียงใหม่ มายืนยันแล้วอย่างไรก็ตามพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารจากสำนักงานจัดหางานที่นางสาวกิ๊บฯ มายืนยัน หากพบว่าเป็นเอกสารจริงและมีการปรับปรุงข้อมูลก็จะสามารถดำเนินการออกบัตรฯให้กับแรงงานต่างด้าวทั้งหมดได้ ส่วนกรณีที่นางสาวกิ๊บฯได้ยื่นเอกสารก่อนหน้านี้เป็นคนล่ะส่วนกันหากตรวจสอบพบว่าเอกสารที่ยื่นมาแล้วเป็นเอกสารปลอมก็จะมีการดำเนินคดีข้อหาปลอมแปลงเอกสารต่อไป
ขณะที่นายสิงห์ นามสมมุติ หนึ่งในแรงงานกลุ่มดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนทำงานก่อสร้างกับบริษัทนี้ประมาณ 7 เดือนก่อนหน้านี้ไม่เคยมีบัตรแรงงานกับเขา ใช้วีซ่าทำงานมาตลอดทำให้เสียเวลาในการต่อบ่อยครั้ง จึงอยากมีบัตรฯกับเขา ตนกับเพื่อนร่วมงานทั้งหมด 20 คนตื่นตั้งแต่ตี 4 ตั้งใจนั่งรถมาจากแคมป์คนงานใน จ.แพร่ เพื่อมาทำบัตรฯแต่กลับมีการยื่นเอกสารปลอมทำให้มีปัญหาในการทำบัตรตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าถึง 9 พันบาท ซึ่งจ่ายคนล่ะครึ่งกับนายจ้าง แต่นายจ้างได้จ่ายให้ก่อนตนต้องผ่อนจ่ายเป็นรายได้คืนให้

ขณะที่นายพอย สอนมณีคำ อายุ 32 ปี แรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เข้าใจว่าเป็นอย่างไร ก่อนหน้านี้นายจ้างได้ให้มาขึ้นทะเบียนฯ ตนและภรรยา เดินทางจากแคมป์คนงานที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ มีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้ทำงานด้วยความสบายใจโดยจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการต่างๆให้กับคนล่ะ 11,000 บาท ซึ่งออกเงินกับนายจ้างคนล่ะครึ่ง แต่นายจ้างออกเงินให้ก่อนทั้งหมดโดยจะผ่อนจ่ายกับนายจ้างโดยการหักค่าแรงเป็นรายเดือน

ร่วมแสดงความคิดเห็น