เข่าแทบทรุดหลังไฟไหม้บ้านวอดลูกชาย ป.2 ร้องไห้ไร้บ้านอยู่

เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 7 ก.ย.66 ทาง ร.ต.อ.โสภณ ศรีสมบัติ พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านเกษตรสมบูรณ์ ม.15 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านม.15 ต.ร่มเย็น เสียหายทั้งหลังจึงได้รีบลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจจุดเชียงคำ และรถดับเพลิงจาก อบต.ร่มเย็น อบต.เจดีย์คำ ทต.เวียงรวมทั้ง ทต.ฝายกวาง จำนวน 4 คันเพื่อเข้าควบคุมเพลิงในครั้งนี้ เมื่อไปถึงทีเกิดเหตุพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้นโดยข้างบนเป็นไม้ข้างล่างเป็นปูน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงฉีดน้ำสกัดเพลิงไม่ให้ลุกไหม ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

ร.ต.อ.โสภณ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า จาการตรวจสอบเบื้องต้นนั้นบ้านหลังดังกล่าวมีผู้อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คนคือนายดนุพงษ์ เจ้าของบ้าน น.ส.นฤมล ภรรยาเจ้าของบ้านและบุตรชายซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.2 ในพื้นที่ของ ต.ร่มเย็น ทั้งนี้จากการสอบถามภรรยาเจ้าของบ้านนั้นได้ให้การกับตนว่า เมื่อช่วงก่อนเกิดเหตุทั้งภรรยาและนายดนุพงษ์เจ้าของบ้านได้ทานข้าวเย็นกันโดยหลังจากนั้นทางภรรยาได้เดินทางออกไปเที่ยวบ้านแม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลพร้อมกับลูกชาย แต่หลังจากนั้นไม่นานมีคนตะโกนบอกภรรยาเจ้าของบ้านว่าเวลานี้บ้านนายดนุพงษ์ได้เกิดไฟไหม้ทำให้ภรรยารีบวิ่งไปดูบ้านเพราะเป็นห่วงสามีทั้งนี้ได้ตะโกนเรียกไม่มีเสียงตอบรับคาดว่านายดนุพงษ์หน้าจะออกจากบ้านไปเที่ยวในละแวกใกล้เคียง โชคดีที่เหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับอันตรายสงสารแต่ลูกชายของนายดนุพงษ์ที่ร้องไห้เอ่ยปากออกมาว่าไม่มีบ้านให้อยู่แล้วสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งสายของวันนี้ตนเองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.พะเยาจะได้ลงพื้นทีเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป

ด้านนายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่าขณะนี้ตนเองทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วและได้ประสานไปยังทางนายเพชรรัตน์ พรหมเทพ นายก.อบต.ร่มเย็น นายธเนษฐ รุ่งเรือง กำนัน ต.ร่มเย็น ในการช่วยเหลือเหตุการณ์นี้ในเบื้องต้น ส่วนตนเองจะลงพื้นที่เพื่อพูดคุยสอบถามพร้อมให้กำลังใจครอบครัวของนายอนุพงษ์อีกทั้งจะได้มอบเงินช่วยเหลือในเหตุการณ์ครั้งนี้ต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น