ปฏิบัติการ Kick Off จัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล

เชียงใหม่ นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา เปิดปฏิบัติการ Kick Off ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตามนโยบายของรัฐบาลและข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย


วันนี้พุธที่ 1 พ.ย. 66 เวลา 17.00 น. นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นประธาน สนธิกำลังทุกฝ่าย “เปิดปฏิบัติการ Kick Off ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล” สืบเนื่องจากรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายสำคัญด้านการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล การรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การพนัน รวมถึงการตรวจตราการครอบครองและพกพาอาวุธปืน สถานบริการหรือสถานประกอบการที่คล้ายกับสถานบริการ และอาชญากรรมต่างๆ


และกระทรวงมหาดไทยได้มีบัญชาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการเพื่อสนองนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลโดยให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่ไม่พึงประสงค์ใน 6 เรื่องได้แก่ 1. เรื่องยาเสพติด 2. เรื่องการค้ามนุษย์ 3. เรื่องการครอบครองและพกพาอาวุธปืน 4. เรื่องการพนัน 5. เรื่องการดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพลและ 6. เรื่องสถานบริการและสถานบันเทิง โดยมอบหมายให้จังหวัดเริ่มอำเภอร่วมกันเร่งรัดจัดตั้งกลไกในการดำเนินการและการติดตาม การรายงานผลเพื่อนำนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ อำเภอกัลยาณิวัฒนาจึงได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง ตามคำสั่งอำเภอกัลยาณิวัฒนาที่ 281/2566 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2566 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้


1. เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในอำนาจหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครอง
2. เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่อำเภอกัลยาณิวัฒนา



นายวรศักดิ์ พานทองนายอำเภอกัลยาณิวัฒนา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดระเบียบสังคมและการปราบปรามผู้มีอิทธิพล การรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ การป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การพนัน การครอบครองและพกพาอาวุธปืน สถานบริการหรือสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ และอาชญากรรมต่างๆ เป็นปัญหาที่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

โดยเน้นย้ำการป้องกันและปราบปรามให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย ดังนั้นพวกเราในฐานะคนไทย โดยเฉพาะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นผู้นำนโยบายของรัฐบาลและของกระทรวงมหาดไทยมาปฏิบัติ ต้องช่วยกันขจัดปัญหาดังกล่าวให้หมดไปจากประเทศไทย เนื่องจากปัญหาเหล่านี้เป็นภัยต่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ อีกทั้งยังเป็นภัยต่อผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งหากไม่มีการป้องกันและแก้ไขที่เป็นรูปธรรม อาจนำมาซึ่งความหายนะของประเทศ



ดังนั้นการแก้ไขปัญหาเหล่านี้หน่วยงานเดียวจึงไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาใดๆได้ จะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ

อำเภอกัลยาณิวัฒนาจึงได้บูรณาการทุกภาคส่วน เปิดปฏิบัติการ Kick Off ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยในวันนี้ได้มอบหมายชุดปฏิบัติการฯ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ณ บริเวณทางแยกบ้านกิ่วโป่ง หมู่ที่ 2 ตำบลแจ่มหลวง อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 19.00 น. โดยชุดปฏิบัติการฯ ได้เรียกตรวจรถยนต์จำนวน 32 คัน


โดยทั้ง 32 คัน ผู้ขับขี่พกบัตรประชาชน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ขับขี่พกใบขับขี่ จำนวน 30 คน ไม่พกใบขับขี่จำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ตักเตือนและเน้นย้ำให้ผู้ขับขี่ทั้ง 2 ราย พกพาใบขับขี่ทุกครั้งที่ขับขี่รถยนต์ นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการฯ ยังได้เรียกตรวจรถจักรยานยนต์จำนวน 18 คัน พบว่าผู้ขับขี่พกใบขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 15 คนไม่พกใบขับขี่จำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ตักเตือนและเน้นย้ำให้ผู้ขับขี่ทั้ง 3 ราย พกพาใบขับขี่ทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์

ทั้งนี้นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา ได้แจ้งให้ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชี้แจงและทำความเข้าใจ รวมทั้งประกาศแจ้งเตือน นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ไปยัง พี่น้องประชาชนในทุกกลุ่ม และโดยเฉพาะผู้ที่หลงผิด เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายให้กลับตัวกับใจเป็นพลเมืองดีของสังคม เพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรือง ยั่งยืนสืบต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น