เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ธ.ค.2566 ณ ห้องปฏิบัติการ ศูนย์บัญชาการฯ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ และเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานทรัยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น

โดยที่ประชุมได้มีการรายงานสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5)ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดความร้อนเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ อาทิ ที่ อ.แม่อาย พื้นที่ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน และพื้นที่ สปก. ได้มีการเน้นย้ำไปถึงเกษตรกรเรื่องการขออนุญาตเผาผ่านแอพพลิเคชั่นไฟดี ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบในการกำกับดูแล แนะนำให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลิกเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และจากสรุปผลการดำเนินงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับพื้นที่กลุ่มป่า 7 กลุ่มป่าและพื้นที่พิเศษ หน่วยงานรับผิดชอบได้มีการประชุมหารือวางแผน กำหนดพื้นที่การบริหารจัดการเชื้อเพลิง และอัพเดทข้อมูลไฟป่าอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีจุด Hot Spot สูงสุดในปี 2566 ให้มีการเข้มงวดเป็นกรณีพิเศษ เน้นย้ำให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงทะเบียนขออนุญาตเผา และสร้างความรู้ความเข้าใจในการกรอกข้อมูลในแอพพลิเคชั่นไฟดีภายในเดือนธันวาคม 2566

ด้านการบริหารจัดการเชื้อเพลิง พลังงานจังหวัดเชียงใหม่ได้รวบรวมข้อมูลชีวมวลของวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร จากข้าว ข้าวโพด และกิ่งลำไย ซึ่งมีมากถึง 9 แสนกว่าตัน ปัจจุบันมีศูนย์รับซื้อวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอฝาง อำเภอพร้าว อำเภอดอยหล่อ และอำเภอดอยเต่า ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้มอบหมายให้พลังงานจังหวัดเชียงใหม่เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการชีวมวล

ปัจจุบัน สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีความรุนแรง สภาพอากาศอยู่ในระยะที่ยังปลอดภัย ขณะเดียวกัน มีรายงานจากสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ถึงผลการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ 4 กลุ่มโรค อันเนื่องมาจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน โรคตาอักเสบ โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคผิวหนังอักเสบ ว่า ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่ทางหน่วยงานรับผิดชอบได้มีการปรับรายละเอียดมาตรฐานห้องลดฝุ่นจังหวัดเชียงใหม่ โดยเปลี่ยนจากให้มีเครื่องฟอกอากาศที่มีมาตรฐาน/แบบ DIY เป็นให้มีอุปกรณ์ลดฝุ่น เปลี่ยนมาตรฐานในระดับ 2 ดาว เมื่อเปิดระบบแล้ว ค่าปริมาณ PM2.5 ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ระดับ 3 ดาว เมื่อเปิดระบบแล้ว ค่าปริมาณ PM2.5 ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และจะมีการพัฒนา Platform ห้องลดฝุ่นจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะสามารถเริ่มใช้ได้ในเดือนมกราคม 2567
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำหนดให้มีการจัดทำแนวกันไฟ โดยจะ Kick Off ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย ในวันที่ 15 มกราคม 2567 และดำเนินการในทุกอำเภอเพื่อให้เกิดพลังในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 ต่อไป












ร่วมแสดงความคิดเห็น