โชเฟอร์สี่ล้อแดงแพ้เสียงแตร หัวร้อนลากไม้หน้าสามด่ากราดกลางถนน ขณะส่งลูกค้า นทท.ต่างชาติ

โชเฟอร์สี่ล้อแดงแพ้เสียงแตร หัวร้อนลากไม้หน้าสามด่ากราดกลางถนน ขณะจอดรถส่งลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติกลางถนน จนรถคันอื่นจอดไปต่อไม่ได้ ล่าสุด ตร.ตามตัวแจ้งข้อหา ลั่นทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ฝากขอโทษคู่กรณีและสังคม ทำเสียภาพลักษณ์เชียงใหม่

คลิปวิดีโอจากกล้องมือถือของพลเมืองดีรายหนึ่ง บันทึกภาพเหตุการณ์คนขับสี่ล้อแดงกำลังมีปากเสียงและด่า คนใช้รถใช้ถนนรายหนึ่ง พร้อมทั้งหมดแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมด้วยการถือไม้หน้าสามข่มขู่คู่กรณี เพราะไม่พอใจที่อีกฝ่ายบีบแตรใส่ ขณะที่กำลังจอดส่งลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องต่างชาติกลางถนน บริเวณทางแยกวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ที่ในตอนนั้นมีนถขับตามมาหลายคัน

โดยจากในคลิปโชเฟอร์สี่ล้อแดงคนนี้ ได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ด้วยการหยิบไม้หน้าสามขนาดเกือบหนึ่งวา ที่เอาไว้หลังรถ ถือลากมายังรถเก๋งคันสีขาว ซึ่งเป็นรถคู่กรณีพร้อมทั้งด่าทอด้วยความไม่พอใจ จากการที่ถูกรถคู่กรณีบีบแตรใส่ ซึ่งทางคู่กรณีไม่ได้ลงจากรถหรือมีปากเสียง จนกระทั่งทางโชเฟอร์สี่ล้อแดงเดินกลับไปที่รถแล้วโยนไม้หน้าสามที่เอาลงมาไว้ ก่อนจะเดินขึ้นรถขับออกไปในที่สุด

ขณะที่ต่อมา ทางเจ้าของคลิปซึ่งได้บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บางส่วน นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ลงในโซเชียล พร้อมทั้งระบุว่า “โชวถ่อยไม่เคยแผ่ว รถแดงเชียงใหม่แพ้เสียงแตร จอดส่งลูกค้ากลางถนน รถคันหลังบีบแตรใส่ ถือไม้ลงมา ผมนิยกนิ้วให้เลยครับ“ ทำให้มีผู้พบเห็นเรื่องราวต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของโชเฟอร์คนนี้ที่ไม่ควรทำ อีกทั้งได้มีการเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวโชเฟอร์คนดังกล่าวมาดำเนินคดี

โดยผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของคลิปรายนี้ ได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงสายของวันที่ 31 ก.ค.67 ที่ผ่านมา โดยตอนนั้นตนได้จอดรถอยู่ริมทาง ขณะนั้นรถสี่ล้อแดงคันในคลิปได้ขับมาจอดยังบริเวณกลางทางซึ่งจุดนัันเป็นทางแยก เพื่อส่งลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และได้ลงมาจากรถเพื่อพูดคุย ขณะที่ในตอนนั้นมีรถที่ขับตามมาหลายคันต้องจอดติดอยู่เนื่องจากไปต่อไม่ได้เพราะรถสี่ล้อแดงคันนี้จอดปิดทาง โดยหนึ่งในรถที่จอดติดซึ่งเป็นรถเก๋งสีขาวได้บีบแตรใส่โชเฟอร์คนนี้ จึงทำให้ทางโชเฟอร์เกิดความไม่พอใจ และมีการด่าทอรถยนต์เก๋งสีขาว อีกทั้งต่อมายังได้เดินไปหลังรถเอาไม้หน้าสามถือลงมา แล้วเดินปรี่มาที่รถเก็งสีขาวคู่กรณี แล้วต่อว่าด่าคู่กรณีเสียงดังก่อนจะเดินกลับมาแล้วโยนไม้ไว้หลังรถ และเดินขึ้นรถขับออกไปในที่สุด

เจ้าของคลิปบอกอีกว่า ในตอนนั้นมีคนเหตุการณ์หลายคน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่สี่ล้อแดงคันนี้มาส่ง ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเห็นว่าการกระทำของโชเฟอร์คนนี้ไม่ดหมาะสม และส่งผลต่อภาพลักของสี่ล้อแดง รวมไปถึงภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ จึงได้นำคลิปมาโพสต์ และอยากให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีน้ำใจ มีมารยาทต่อกัน ไม่ควรกระทำการในลักษณะเช่นนี้ อีกทั้งอยากให้คนขับสี่ล้อแดงในคลิปมีความใจเย็นให้มากกว่านี้ เพราะเป็นคนทำอาชีพบริการ รวมทั้งอยากให้ขับรถแบบมีวินัย เคารพกฎจราจร มรน้ำใจกับคนใช้รถใช้ถนนร่วมกันให้มากกว่านี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้เร่งรัด สืบสวนติดตามผู้ขับรถ สี่ล้อแดง ตามที่ปรากฎตามคลิปที่เผยแพร่ในโซเชียล ดังกล่าว เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และเป็นที่เสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งในช่วงคาำวันเดียวกันนี้ ได้ทีการติดตามตัวโชเฟอร์รายนี้ และทราบชื่อคือ นายโอภาส (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี

โดยจากการสอบถามเบื้องต้นทางเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นคนในคลิปที่เกิดขึ้น ส่วนสาเหตุมาจาก ขณะที่ตนขับขี่รถแดงคันดังกล่าวมาตามถนนสิงหราชตามปกติ แต่เมื่อมาถึงบริเวณแยกวิทยาลัยเทคนิค จุดหมายที่จะต้องจอดส่งลูกค้า เพื่อลงรถ จากนั้นได้มีรถขับตามหลังมา และได้บีบแตรใส่ตน ได้ด่าทอว่าตนก่อน ตนจึงได้ด่ากลับ และจอดรถและนำไม้ที่อยู่ด้านหลังรถลงมาข่มขู่ และจึงได้เกิดการโต้เถียงกันไปมา ตามที่ปรากฎในคลิป แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย หรือทรัพย์สินผู้อื่นแต่อย่างใด

และยอมรับว่า ตนใช้อารมณ์มากเกินไป ซึ่งอยากฝากขอโทษถึงคู่กรณีในคลิป และชาวจังหวัดเชียงใหม่ ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของสี่ล้อแดง เอกลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่เสียหาย แต่ทั้งนี้ตนก็ไม่มีเจตนาทำร้าย หรือทำให้ทรัพย์สินใครเสียหายแต่อย่างใด และอยากขอให้สังคมอภัยตน ซึ่งตนจะจำไว้เป็นบทเรียน และจะไม่ก่อให้เกิดเหตุแบบนี้อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวโชเฟอร์หัวร้อนรายนี้ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดี โดยได้แจ้งข้อหา จำนวน 2 ข้อหา คือ 1.ตาม พรบ.จราจรทางบก 2522 ข้อหาจอดรถกีดขวางทางจราจร ม.58(8),148 ปรับ 500 บาท และ 2.ตาม ป.อาญา มาตรา 392 ข้อหา ข่มขืนใจผู้อื่นให้ตกใจกลัว ปรับ 1,000 บาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น