สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (UNHCR) ซึ่งมีพันธกิจเพื่อแก้ไขและลดภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ แสดงความชื่นชมกับก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดกระบวนการให้สถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและสัญชาติกับประชากรไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวนเกือบครึ่งล้านคน ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานและทำประโยชน์ให้กับประเทศ
ภายใต้ร่างหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2567 นี้ จะส่งผลให้บุคคลที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน รวมถึงชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์จำนวนกว่า 335,000 คน ได้รับการกำหนดสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ถาวร) และกลุ่มบุตรที่เกิดในประเทศไทยจำนวนกว่า 142,000 คน มีสิทธิได้รับสัญชาติไทย โดยผู้ที่ได้รับสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ถาวรจะสามารถยื่นขอสัญชาติไทยได้ หลังจากถือสถานะดังกล่าวแล้วเป็นเวลา 5 ปี
“สิ่งนี้นับว่าเป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่สำคัญ” แทมมี่ ชาร์ป ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าว “การดำเนินการนี้จะเป็นการลดจำนวนบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติที่มากที่สุดเท่าที่เคยปรากฎบนโลกนี้”
จำนวนคนไร้รัฐไร้สัญชาติ 484,000 คน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายตามมติคณะรัฐมนตรีนี้ เป็นส่วนหนึ่งของประชากรไร้รัฐไร้สัญชาติเกือบ 600,000 คน ที่จดทะเบียนโดยรัฐบาลไทย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ได้รับการรับรองทางกฎหมายให้เป็นพลเมืองของประเทศใดๆ แต่พวกเขามีจุดเกาะเกี่ยวที่ชัดเจนและแน่นแฟ้นกับประเทศไทยมากกว่าที่อื่นๆ และบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติกลุ่มนี้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนทั้งในทางเศรษฐกิจและทางวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศไทยมาหลายทศวรรษ




ร่วมแสดงความคิดเห็น