ในการลงคะแนนเลือกตั้งทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งแบบไหนก็จะมีผลลัพธ์ของการกาบัตรลงคะแนนอยู่2แบบ โดยแบบแรกจะเป็น บัตรดี คือบัตรที่สามารถถูกนับเป็นคะแนนและมีรูปแบบที่ถูกต้องตามที่ได้มีการกำหนดไว้ และอีกแบบหนึ่งจะเป็น บัตรเสีย เป็นบัตรที่ไม่สามารถถูกนับเป็นคะแนนและมีรูปแบบที่ไม่ถูกต้องตามที่ถูกกำหนดไว้ ซึ่งปัญหาที่มันมีมาตลอดก็จะเป็นในส่วนของ บัตรเสีย
การการบัตรคะเเนนเลือกโดยปกติเเล้วในก่อนการเลือกตั้งก็จะมีการออกมาเผยแพร่ความรู้ในการกาบัตรเสียที่ถูกต้องทั้งทางสื่อออนไลน์ ทางเว็บไซต์ข่าวรวมไปถึงแต่ละหน่วยเลือกตั้งเองก็จะมีตัวอย่างของการกาบัตรลงคะแนนที่ถูกต้องและสามารถถูกนับเป็นคะเเนนได้ เเต่ก็มีสถิติของการกาบัตรเสียที่มีจำนวนไม่น้อยออกมาให้เห็นอยู่ทุกครั้ง เช่นในการเลือกตั้งนายกอบจ.ที่ผ่านมามีจำนวนบัตรเสียจำนวนมากกว่า 2 ล้านใบ(รวมบัตรที่ไม่ประสงค์ลงคะเเนน)จากผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 16.3ล้านคน หากย้อนกลับในการเลือกตั้งปี2563 ซึ่งมีสถิติของบัตรเสียที่มากกว่า 1.6ล้านใบและไม่ประสงค์ลงคะแนนอีกกว่า 1.9ล้านใบ นับได้ว่าเป็นจำนวนตัวเลขที่มากมายหากคะแนนพวกนี้กลายเป็นบัตรดีได้บางทีก็อาจจะทำให้พรรคบางพรรคสามารถชนะคะแนนเลยก็เป็นได้
ปัญหานี้มันสะท้อนให้เห็นถึงการขาดความเข้าใจอย่างในการกาบัตรลงคะแนนอย่างถูกต้องแต่มันก็ทำให้เราสามารถมองอีกมุมหนึ่งได้เช่นกันหากอิงจากจำนวนตัวเลขของบัตรเสียและไม่ประสงค์ลงคะแนนอาจจะมีสาเหตุมาจากการที่คุณภาพของผู้สมัครนายก อบจ.ยังไม่ถึงขั้นที่คนกลุ่มนี้อยากลงคะแนนให้เป็นนายก อบจ.เลยไม่อยากที่จะให้ใครเลยสักคน ปัญหานี้จะยังคงเป็นกาฝากของประเทศเราอีกต่อไปหากไม่มีวิธีการในการแก้ไขที่ดีพอ
ร่วมแสดงความคิดเห็น