พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปางเปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ สภ.บ้านเสด็จ ดังนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.อัครินทร์ กาสา รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.คมสัน สอาดล้วน รองผบก.ฯ ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านเสด็จ โดย พ.ต.อ.ชวลิต จินดารัตน์ ผกก.สภ.บ้านเสด็จ พ.ต.ท.อรรถพร อ๊อดผูก รอง ผกก.สส.สภ.บ้านเสด็จ พ.ต.ต.นิธิโรจน์ ทวีชัยคุณานนท์ สว.สส.สภ.บ้านเสด็จ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเสด็จ ให้ทำการสืบสวนเร่งจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้โดยเร็ว
กระทั่งเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านเสด็จ ได้รับการประสานจากสภ.เขลางค์นคร ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.เขลางค์นคร ได้จับกุมนายวีรพล อายุ 36 ปี ชาว ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 9 เม็ด ซึ่งนายวีรพล เป็นบุคคลต้องสงสัยลักทรัพย์ในพื้นที่สภ.บ้านเสด็จ จึงเดินทางไปสภ.เขลางค์นคร เพื่อทำการสอบขยายผล และนำพยานหลักฐานสอบถามนายวีรพลฯ ซึ่ง นายวีรพลฯรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่สภ.บ้านเสด็จและพื้นที่สภ.ทุ่งฝายจริง พื้นที่สภ บ้านเสด็จจำนวน จำนวน 2 ราย คือที่วัดหลวงเมืองมาย ได้เงินสดในตู้บริจาคประมาณ 2000 บาท และวัดห้วยเดื่อได้ เงินสดในตู้บริจคกประมาณ 300 บาท
พื้นที่สภ.ทุ่งฝาย 5 ราย ที่ตู้กดน้ำดื่มบ้านแม่ทรายคำ เงินสดประมาณ 300-400 บาท ตู้กดน้ำดื่มออนมายเวย์ เงินสดประมาณ 400 บาท วัดนิคม 9 ร่มไตรลักษณ์ เงินสดในตู้บริจาค ประมาณ 700-800 บาท วัดนาป้อใต้ เงินสดในตู้บริจาคประมาณ 200-300 บาท และวัดห้วยฮี ได้เงินสดในตู้บริจาคประมาณ 700 -800 บาท รวมทั้งพื้นที่ สภ.เกาะคา 1 ราย คือ ที่วัดวังพร้าว ของกลาง ตู้เชื่อม และหินเจีย
โดยพฤติกรรมของคนร้าย จะขับรถมอเตอร์ไซค์ ออกตระเวนไปตามวัดต่างๆเพื่อดูตู้บริจาคเงินโดยสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้าวัดไหนมีเงินบริจาคหากไม่มีใครเฝ้า ก็จะงัดตู้แล้วขโมยเงินในตู้หลบหนีส่วนวัดไหนมีคนดูแล ก็จะกลับมาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนก่อนมุมตำรวจดังกล่าว
ร่วมแสดงความคิดเห็น