สดร.นำสื่อมวลชนเยี่ยมชม หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ สัมผัสความยิ่งใหญ่ฯ
วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ สัมผัสความยิ่งใหญ่ของกล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ ขนาด 40 เมตร ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบ วีกอส (VGOS) ขนาด 13 เมตร แห่งแรกของไทย ที่เชียงใหม่ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระระราชดำริ อ. ดอยสะเก็ด จ. เชียงใหม่
ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ (Thai National Radio Astronomy Observatory : TNRO) ศูนย์กลางการวิจัยดาราศาสตร์วิทยุของไทย ดำเนินการโดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ตั้งอยู่ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ บนพื้นที่ 50 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 390 เมตร
ปัจจุบัน เป็นที่ตั้งของกล้องโทรทรรศน์วิทยุ 2 ตัวได้แก่
– กล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เมตร เป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุขนาดใหญ่แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
– กล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 เมตร
หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ เริ่มดำเนินการครั้งแรกภายใต้ “โครงการพัฒนาเครือข่ายดาราศาสตร์วิทยุและยีออเดซี” ระหว่าง ปี พ.ศ. 2560-2564 เพื่อขยายขีดความสามารถเชิงสังเกตการณ์ด้านดาราศาสตร์ ส่งเสริมการใช้ ดาราศาสตร์ พัฒนาความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) นำไปสู่การพัฒนากำลังคนด้านดาราศาสตร์ พัฒนาเทคโนโลยีวิศวกรรมขั้นสูง รวมทั้งเพิ่มศักยภาพกำลังคนในอุตสาหกรรมขั้นสูง เช่น เทคโนโลยีการสื่อสาร วิศวกรรมซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ดิจิทัล ฯลฯ
กล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาติ (Thai National Radio Telescope : TNRT) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เมตร ณ หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ เป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุจานเดี่ยว ออกแบบโดยใช้ระบบแนสมิธ-แคสสิเกรน (Cassegrain-Nasmyth Optics) มีประสิทธิภาพสูง หมุนในแนวราบได้โดยรอบ 360 องศา และหมุนในแนวตั้งได้ 180 องศา สามารถสังเกตการณ์ได้ครอบคลุมทั่วท้องฟ้า และติดตามสังเกตการณ์เทหวัตถุต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ใช้ศึกษาเทหวัตถุในเอกภพ และปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่เกี่ยวข้องในช่วงคลื่นวิทยุ อาทิ ดาวเคราะห์ ดาวหางในระบบสุริยะ ดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์ ดาราจักรกัมมันต์ การก่อกำเนิด และการระเบิดของดาวฤกษ์ ดาวนิวตรอน กาแล็กซี หลุมดำ พัลซาร์ เมเซอร์ ฯลฯ
กล้องโทรทรรศน์วิทยุแห่งชาตินี้ สามารถรับสัญญาณคลื่นความถี่ได้ในช่วง 300 เมกะเฮิร์ท (MHz) ถึง 115
กิกกะเฮิร์ท (GHz) มีห้องรับสัญญาณขนาดใหญ่ (Receiver room) สามารถติดตั้งระบบรับสัญญาณได้ไม่น้อยกว่า 8 ระบบ เพื่อรองรับการตรวจจับสัญญาณในอวกาศได้หลายช่วงความถี่ ปัจจุบันได้ติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณแล้วสองความถี่ ได้แก่ อุปกรณ์รับสัญญาณช่วงความถี่ 1-1.8 GHz (L-band) และอุปกรณ์รับสัญญาณช่วงความถี่ 18-26.5 GHz (K-band) และกำลังพัฒนาอุปกรณ์รับสัญญาณย่าน 30-50 GHz และ 85-100 GHz (Triband Q-W band) และ 4-12 GHz (C-band) สำหรับติดตั้งในอนาคต โดยอุปกรณ์รับสัญญาณแต่ละย่านความถี่นั้นสามารถนำไปศึกษาสสารและวัตถุในอวกาศได้หลากหลายชนิดทำให้กล้องโทรทรรศน์วิทยุมีความสำคัญมากทางด้านดาราศาสตร์
เนื่องจากอุปกรณ์รับสัญญาณวิทยุของกล้องโทรทรรศน์วิทยุมีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก ไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ดังนั้น NARIT จึงมุ่งใช้ศักยภาพของบุคลากรและเครือข่ายความร่วมมืออันเข้มแข็ง ดำเนินการออกแบบ และพัฒนาอุปกรณ์รับสัญญาณ โดยความร่วมมือกับหน่วยงานดาราศาสตร์วิทยุชั้นนำระดับโลกหลายหน่วยงาน อาทิ สถาบันดาราศาสตร์วิทยุมักซ์พลัังค์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สถาบันดาราศาสตร์และอวกาศเกาหลี สาธารณรัฐเกาหลีใต้ และศูนย์เทคโนโลยีดาราศาสตร์วิทยุและโลกอวกาศ ประเทศสเปน
กล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 เมตร (VLBI Geodetic Observing System Radio Telescope : VGOS)
กล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส (VLBI Geodetic Observing System Radio Telescope : VGOS) เป็นกล้องสำหรับศึกษาด้านยีออเดซี (Geodesy) หรือภูมิมาตรศาสตร์ ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการวัดและทำความเข้าใจรูปทรงเรขาคณิตและสัณฐานของโลก ตำแหน่งในอวกาศ และสนามโน้มถ่วง พร้อมทั้งศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของโลกเหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไป หรืออาจวัดเพื่อเทียบเคียงกับดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ โดยจะเก็บข้อมูลผ่านอุปกรณ์รับสัญญาณย่านความถี่เอสและเอกซ์ (S/X-band) ช่วงคลื่นความถี่ 2-14 กิกกะเฮิร์ท (GHz) ควบคู่กับการสังเกตการณ์ด้วยเทคนิคแทรกสอดระยะไกล หรือ VLBI (Very Long Baseline Interferometry)
โดยใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุสองตัวขึ้นไปเก็บข้อมูลในเวลาเดียวกัน ทำให้ได้พิกัดที่แม่นยำถึงระดับมิลลิเมตร ซึ่งสามารถนำไปใช้ตรวจสอบการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกได้ (Tectonic Plate Motion) อีกทั้งยังสามารถประมวลผลลัพธ์ต่อจนได้ตัวแปรต่าง ๆ ที่บ่งบอกการวางตัวของโลกในอวกาศ (Earth Orientation Parameters) ไปจนถึงความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลก
NARIT มีแผนติดตั้งกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางจานรับสัญญาณ 13 เมตร
ในประเทศไทย จำนวน 3 แห่ง ได้แก่
1. ติดตั้งบริเวณหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติ ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ. ดอยสะเก็ด จ. เชียงใหม่ ตั้งอยู่บน Eurasian plate (ก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568)
2. ติดตั้งบริเวณมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ต. ท่าศาลา จ. นครศรีธรรมราช (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
- ติดตั้งบริเวณหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ต. เขารูปช้าง อ. เมือง จ. สงขลา ตั้งอยู่บน Sunda Plate (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
สำหรับแห่งที่ 1 และ 2 ได้รับการสนับสนุนจากหอดูดาวเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Astronomical Observatory, SHAO) สาธารณรัฐประชาชนจีน ในส่วนโครงสร้างอาคารฐานราก จานรับสัญญานขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 เมตร รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณในช่วงความถี่ระหว่าง 2-14 GHz
ส่วนแห่งที่ 3 NARIT ดำเนินการสร้างเองทั้งหมด โดยในส่วนโครงสร้างและจานรับสัญญาณนำต้นแบบมาจากหอดูดาวเยเบส (Yebes Observatory) ประเทศสเปน รวมถึงมีการออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์รับสัญญาณเอง
ในอนาคต หากแล้วเสร็จทั้งสามแห่งจะสามารถศึกษาการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นข้อมูลคาดการณ์การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก นอกจากนี้ ยังนำข้อมูลที่ได้ไปประมวลผลหาค่าตัวแปรหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อการวางตัวของโลก รวมถึงความเร็วในการหมุนรอบตัวเองของโลก ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ประเมินแนวโน้มการเกิดแผ่นดินไหวของนักธรณีวิทยา และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อวงการวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ธรณีวิทยา และธรณีฟิสิกส์ประยุกต์









ร่วมแสดงความคิดเห็น