สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) และครูเฮทั้งแผ่นดินทวงคืนสภาครูใกล้สำเร็จ

นายธีระศักดิ์ สุวรรณปัญญา ประธานยุทธศาสตร์ สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ในการประชุมครั้งที่ 2 ของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สภาผู้แทนราษฎร
ดร.วีรบูล เสมาทองประธานสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย นายธีระศักดิ์สุวรรณปัญญาประธานยุทธศาสตร์ส.ค.ท.. ยื่นข้อเสนอของสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย ต่อนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยมีสส.รศ.ดร.สุรวาท ทองบุ สส.เทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.ปรีดา บุญเพลิง และคณะกรรมาธิการวิสามัญเป็นสักขีพยานนำเสนอ ร่าง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับส.ค.ท.)โดยเฉพาะ มาตรา 6 ให้ แก้ไข ความในมาตรา 7 เปลี่ยนแปลง องค์ประกอบ และ วิธีการได้มา ซึ่งผู้แทน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีจำนวน 12 คนและต้องมาจากการเลือกตั้ง

โดยกลับไปใช้องค์ประกอบตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุลากรทางการศึกษาพ.ศ.2547ดังเดิมก่อนถูกยกเลิกโดยคำสั่งคสช.ดังกล่าว

สืบ เนื่องจากที่คณะรักษาวามสงบแห่งชาติได้ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2560เรื่อง การบริหารงานบุคคล ของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ 2560เป็นกรณีที่หัวหน้าคณะ รักษา ความสงบแห่งชาติ ใช้อำนาจ ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ 2557(ฉบับชั่วคราว) ซึ่ง คำสั่งดังกล่าว ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของคณะกรรมการในกคศ. ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและ บุคลากทางการศึกษาพ.ศ.2547 ของมาตรา 7(4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (5)กรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาซึ่งมาจากการเลือกตั้ง พ้นจากตำแหน่ง โดยมีการกำหนดองค์ประกอบ ของกคศ. ขึ้นมาใหม่ โดยไม่มีผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการ กคศ. อีกเลย ซึ่งขัดกับหลักธรรมาภิบาล หลักการกระจายอำนาจ หลักการประชาธิปไตย ซึ่งขัดกับหลักการและเจตนารมณ์ ของพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ 2547 คณะกรรมการกคศ. ตามองค์ประกอบใหม่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาอย่างยาวนานต่อเนื่องเกือบสิบปี มีการออกกฎ ระเบียบมาใช้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบวิชาชีพเป็นสำคัญ และได้รับผลกระทบด้านสิทธิประโยชน์อาทิเช่น การโยกย้ายแต่งตั้ง การเลื่อนวิทยฐานะ ความก้าวหน้าในวิชาชีพ ทำให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ขาดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) และองค์กรเครือข่าย ได้เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจยกเลิกคำสั่งดังกล่าว มาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าสิบปี แต่ก็ไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 22 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 มีวาระ พิจารณาร่าง พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่ง หัวหน้าคณะ รักษาความสงบแห่งชาติที่ 16/2560 เรื่องการบริหารงานบุคคล ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ลงวันที่ 21 มีนาคม 2560 ที่ประชุมสภามีมติ รับ หลักการ ในวาระที่ 1 ให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติทำนองเดียวกันมาพิจารณาพร้อมกันรวม 13 ฉบับ ที่ประชุมได้ มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณายกร่าง พระราชบัญญัติดังกล่าว ต่อมาคณะกรรมาธิการวิสามัญได้จัดให้มีการประชุม เพื่อดำเนินการต่อไปโดยด่วน และเสนอให้สภาลงมติในวาระที่สามให้เสร็จก่อนที่จะมีการยุบสภา

ร่วมแสดงความคิดเห็น