หนุ่มใหญ่ชวนเพื่อนย่องขโมยรถเข็น แต่โดนตำรวจตามรวบ อ้างเป็นอดีตทหารยศพันเอก ด้านชาวบ้านวอนดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ เพราะก่อเหตุบ่อย
วันที่ 26 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีมีคนร้าย 2 คน ก่อเหตุขโมยรถเข็นที่จอดไว้ข้างถนน โดยมีหนึ่งในคนก่อเหตุแต่งกายด้วยชุดสีส้ม เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่โดนตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย ติดตามรวบตัวได้พร้อมของกลาง แต่ในเบื้องต้นพบผู้ต้องหาให้การวกวน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง อ้างเป็นอดีตทหารยศพันเอก แต่เบื้องต้นไม่พบข้อมูลในระบบ ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนพบบุคคลดังกล่าวก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อยบ่อยครั้งจนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้าน และต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี แต่โจรผู้ร้ายเยอะ ของหายบ่อย
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธีรกิตติ์ ไชยสุภาพ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งจากนายไพบูลย์ อายุ 68 ปี ว่ามีชาย 2 คน ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง (ซาเล้ง) มาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน ม.6 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และได้ขโมยเอารถเข็นที่จอดไว้บริเวณหน้าบ้านไป หลังตำรวจได้รับแจ้ง ทาง พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย พ.ต.ท.เดชาวัต นาทิเลศ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย สั่งการให้ พ.ต.ต.สมชาย พรหมมินทร์ สว.สส. ร.ต.ต.สมพงษ์ ตาคำนิล สว.ป. พร้อมพรรคพวก ลงพื้นที่ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายวินัย (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาวบ้าน ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย และนายสุพจ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ชาวบ้าน ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย โดยไปจับกุมได้ในพื้นที่ ม.5 ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ก่อเหตุ ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้น นายวินัยอ้างว่าเคยเป็นทหารยศพันเอก แต่ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ทหารแล้วไม่พบข้อมูล และเคยทำงานฝ่ายอาคารของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงราย ก็เลยมีชุดหมีปฏิบัติการงานช่างสีส้ม ซึ่งเป็นชุดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ แต่ถูกไล่ออกมากว่า 3 ปีมาแล้ว ปัจจุบันทำงานรับจ้างทั่วไปและเก็บของเก่าขาย โดยทีแรกอ้างกับเจ้าหน้าที่และนายสุพจว่ารถเข็นดังกล่าวเป็นของตนเอง และให้นายสุพจขับรถซาเล้งพาไปเอารถเข็น แต่ต่อมาได้กลับคำให้การ อ้างว่าได้ขอยืมรถเข็นกับเจ้าของแล้ว โดยบอกว่าจะยืมประมาณ 10 วัน แล้วจะเอาไปคืน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางประกอบด้วย รถซาเล้งคันที่ใช้ก่อเหตุ รถเข็นของกลาง และชุดหมีสีส้มที่นายวินัยสวมใส่ขณะก่อเหตุ นำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสอบถามนายไพบูลย์ อายุ 68 ปี เจ้าของรถเข็น เล่าว่า เวลาประมาณบ่าย 2 โมง วันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนออกมาจากบ้านเพื่อจะไปทำงาน แต่พบว่ารถเข็นที่เอาจอดไว้ที่หน้าบ้านได้หายไป จึงให้ภรรยาไปเปิดดูกล้องวงจรปิดก็พบว่ามีผู้ชาย 2 คน ขี่รถซาเล้ง ได้มาขโมยเอารถเข็นของตนไป ตนจึงนำหลักฐานไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ก.ย. และในช่วงเย็นวันเดียวกัน ทางตำรวจก็ได้ติดต่อมาว่าสามารถจับกุมคนร้ายทั้ง 2 คนได้แล้ว โดยทางคนร้ายอ้างว่าได้ขอยืมรถเข็นของตนแล้ว และจะนำมาคืนภายใน 10 วัน ซึ่งตอนเขามาขโมยนั้นตนพักผ่อนอยู่บนชั้น 3 ไม่ได้ยินเสียงคนดังกล่าวแต่อย่างได แถมในกล้องวงจรปิดก็ไม่พบว่ามีการตะโกนขอยืม และที่สำคัญคือตนไม่เคยรู้จักกับคนที่เข้ามาขโมยเลย
“ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี เงินทองก็หายาก แถมยังมีคนร้ายเข้ามาขโมยข้าวของบ่อยๆอีก โดยก่อนหน้านี้ตนก็เคยโดนขโมยรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้หน้าบ้าน แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตามกลับมาได้ที่แถวบริเวณสิงห์ปาร์ค ตอนนั้นคนก่อเหตุเป็นคนสัญชาติลาว เป็นคนละกลุ่มกับที่มาขโมยในรอบนี้ ก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้เต็มที่ ไม่มีการยอมความ จะได้เข็ดหลาบ ไม่มาขโมยอีก” นายไพบูลย์ กล่าว









ร่วมแสดงความคิดเห็น