8693

ช้างเผือกเตือนภัย! แก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างตำรวจ

แก๊งมิจฉาชีพ ยังแอบอ้างตำรวจ สภ.ช้างเผือก อย่างต่อเนื่อง ในการหลอกลวงประชาชน โดยวิธีการต่างๆ ทั้งในรูปแบบของหนังสือทางราชการ หมายจับ รวมไปถึงการตัดต่อดัดแปลงบัตรข้าราชการตำรวจ เพื่อหลอกให้หลงเชื่อ ขณะนี้ได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับบุคคลที่แอบอ้าง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ขอเรียนแจ้งให้ทราบ สภ.ช้างเผือก ไม่มีนโยบายในการใช้บัญชี Line เพื่อสอบถามข้อมูล หรือแจ้งหมายจับใดๆ กับประชาชน หากท่านใดที่ได้รับการติดต่อทางบัญชี Line โดยใช้ชื่อ สภ.ช้างเผือก อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด อย่าโอนเงินให้ทุกกรณี ด้วยความปรารถนาดีจาก สภ.ช้างเผือก

“3 ไม่” ป้องกันตกเป็นเหยื่อแบล็คเมล์ออนไลน์

ตร. แนะนำ “3 ไม่” วิธีการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการถูกแบล็คเมล์ออนไลน์ วันที่ 25 ส.ค. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าในปัจจุบัน มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการถูกข่มขู่ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการถูกข่มขู่ในลักษณะของการแบล็คเมล์หรือรีดเอาทรัพย์ ซึ่งมักจะมีต้นเหตุมาจากการที่คนร้ายสามารถเข้าถึงหรือครอบครองข้อมูลที่เป็นภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอของเหยื่อ ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็จะทำให้เหยื่อได้รับความอับอาย ทำให้คนร้ายฉวยเอาโอกาสนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่เหยื่อให้ส่งมอบทรัพย์สิน ภาพถ่าย หรือคลิปวิดีโอไปให้กับคนร้าย หรือบางกรณีอาจขู่ให้เหยื่อยอมมามีเพศสัมพันธ์ด้วย แลกกับการที่จะไม่ปล่อยภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอแนะนำ หลัก “3 ไม่” ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่อของการแบล็คเมล์ออนไลน์ ดังนี้“ไม่ถ่าย” คือ ไม่ถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอในลักษณะลามกของตนเอง ไม่ว่าจะในกรณีใด ๆ ก็ตาม เพื่อเป็นการตัดโอกาสที่จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่“ไม่ส่ง” คือ ไม่ส่งภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอในลักษณะลามกของตนเองให้กับบุคคลอื่น แม้ว่าจะเชื่อใจบุคคลดังกล่าวมากเพียงใดก็ตาม เพราะภาพหรือคลิปวิดีโอดังกล่าวอาจถูกเผยแพร่ต่อให้กับบุคคลอื่น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม“ไม่คอล” คือ การไม่คุยวิดีโอคอลกับบุคคลอื่น ในลักษณะที่ปรากฏภาพลามกของตนเองโดยเด็ดขาด เพราะอาจถูกแอบบันทึกภาพหรือวิดีโอขณะสนทนาได้ ทั้งนี้ […]

เตือน! หลอกลวงลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนการหลอกลวงลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนการหลอกลวงลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยตั้งแต่ 1มี.ค.- 31ก.ค.65 ศูนย์รับแจ้งความคดีออนไลน์ฯได้รับแจ้งคดีที่เกี่ยวกับการหลอกลวงด้านการเงิน รวมกว่า 31,047 เรื่อง และได้ดำเนินการอายัดบัญชี ไปแล้วกว่า 121 ล้านบาท พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนการลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ควรตรวจสอบข้อมูลด้านการลงทุนและที่เกี่ยวข้องให้ดีเสียก่อน อาจถูกหลอกลวงสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงประชาสัมพันธ์การเตรียมตัวก่อนแจ้งความออนไลน์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการลอกลวงลงทุนสร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง พร้อมได้กำชับ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนและปราบปรามการกระทำความผิดตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อเป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากกรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงไปกำกับดูแลพร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงเป็นผู้ขับเคลื่อนศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ฯ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการแจ้งความได้อย่างสะดวก และทำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แนวทางการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้ประชาชนรับทราบ โดยตั้งแต่เปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ฯ ห้วง 1มี.ค.-31ก.ค.65 ทางศูนย์ฯได้รับแจ้งคดีหลอกลวงด้านการเงินรวมกว่า 31,047 เรื่อง โดยสามารถดำเนินการอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 121 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามขั้นตอของกฎหมาย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่าขอฝากเตือนถึงแนวทางการลงทุนรูปแบบต่างๆควรศึกษาทำความเข้าใจให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุนและพิจารณาถึงความเสี่ยงจากการลงทุนลักษณะนี้ให้มาก […]

เตือน! หลอกเด็กรับออเดอร์ ลวงลงทุนก่อนทำงาน

ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์เตือนภัย เด็กโดนหลอกทำงานกดรับออเดอร์สินค้า เพราะน้องต้องการหารายได้ด้วยตนเอง ภัยที่เกิดกับลูกหลานได้…ถ้าเราละเลย หลอกลงทุน (Hybrid Scam) แต่กลายพันธุ์ตามเทรนด์นิยมในโซเชียลเป็นการ “หลอกลงทุนกดรับออเดอร์สินค้า” จัดเป็นภัยเงียบ ไม่โด่งดังแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเภทขู่ให้กลัว แต่ความเสียหายเงียบนี้มีความถี่สูงจนรวมมูลค่ามาก ความแนบเนียนในการสนทนาผ่าน Line ของโจรออนไลน์ขณะล่อลวงน้องเยาวชนอ่อนโลก ที่เมื่อเราผู้ใหญ่เองแม้รู้ทีหลัง เมื่อได้เข้าไปอ่านแล้วก็ต้องอึ้ง เพราะมีความเป็นธรรมชาติของการสนทนามาก …. ไม่แปลกใจเลยที่น้องจะตกเป็น…เหยื่อ… สูญเงินหลายหมื่นหรือหลายแสน ซึ่งน้องเจ้าของภาพอนุญาตให้เผยแพร่เป็นวิทยาทานในการบอกต่อเพื่อนเยาวชนไทย มิให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งเหล่านี้ เล่าสั้นๆคือ น้องพบโฆษณาในเฟซบุ๊คสร้างอาชีพเสริมทางออนไลน์ =>น้องส่งข้อความทักแชท =>แอดมินส่งลิ้งค์Lineให้เข้าเรียนงาน =>มิจฉาชีพรออยู่ใช้รูปปลอมชื่อปลอมสอนงาน =>ให้ลงทุนเติมเงิน 500บาทเพื่อกดรับออเดอร์ปั้นยอดขายและได้ค่าคอมมิชชั่น =>มิจฉาชีพส่งออเดอร์ที่มีราคาสูงมากกว่า 500บาทมาให้กดรับออเดอร์เพื่อหลอกให้น้องเติมเงินเพิ่ม =>น้องต้องเติมเงินเพิ่มเพื่อมิให้สูญเสียเงินก้อนแรก500บาทและค่าคอมฯ =>ภารกิจไม่เสร็จสิ้นน้องต้องเติมเงินเรื่อยๆรวมแล้วหลายหมื่นบาท =>สุดท้ายน้องไม่ไหว ทวงเงิน มิจฉาชีพไม่ให้ น้องปรึกษาตำรวจ มันบล็อกไลน์ ปิดแอปหนี้ เล่ายาวๆเพื่อเห็นภาพละเอียดแบบเต็มตา.. น้องต้องการหารายได้เสริมทางออนไลน์ และพบโฆษณาเนียนตารายนี้เปิดรับงานกดรับออเดอร์เพื่อปั้นยอดขายแก่ร้านค้าในแพลตฟอร์มชื่อดัง กลวิธีทำงานถูกอธิบายด้วยภาษาพูดทั่วไปแบบเป็นกันเองว่า “ลงทุน 500บาทจะได้รับ 5 ออร์เดอร์มีค่าคอมมิชชั่น 20%ต่อออร์เดอร์ โดยค่าคอมมิชชั่นจะถูกขึ้นบัญชีไว้ในแอปปลอมๆ เพื่อโชว์ตัวเลขลวงตาให้ดู มีการอุปโลกน์หลักเกณฑ์ขึ้นมาเพื่อให้แนบเนียนว่าเมื่อได้ค่าคอมมิชชั่นเกิน 100,000 บาท […]

หนุ่มพ่อค้าอัญมณี ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน

หนุ่มพ่อค้าอัญมณีและจิวเวลรี่ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2565 นายกรณ์พงศ์(สงวนนามสกุล) วัย 35 ปีชาวต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ มีอาชีพเป็นพ่อค้าอัญมณีและจิวเวลรี่ เข้าแจ้งความต่อ รตอ.พิชาภพ เชยใย พนักงานสอบสวนสภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ว่าถูกชายคนหนึ่ง ชาว อายุ 26 ปีชาวอ.เมืองอยุธยา หลอกโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 5,000 บาท โดยนายกรณ์พงศ์ฯให้รายละเอียดว่า มีชายดังกล่าวได้โพสขายแหวนโบราณ ในกลุ่มผู้นิยมสะสมของโบราณ ชึ่งเป็นแหวนทองทรงพิรอด สมัยอยุธยา น้ำหนักประมาณ 3 กรัม และได้ตั้งราคาขายไว้ ทางตนได้มีต่อรองราคา จำนวน 5,000 บาท เมื่อตกลงราคากันได้ ทางตนได้ให้ถ่ายภาพแหวนทองคำโบราณ พร้อมกับบัตรประชาชนส่งมาให้ ต่อมาวันที่ 20 ก.ค.2565 ชายดังกล่าวได้ทักมาทางเฟสให้ตนโอนเงินไปให้แล้วจะส่งแหวนมาให้ หลังจากตนโอนเงิน5,000 บาทไปให้แล้วแต่ไม่ส่งแหวนมาให้แต่อย่างใด ทวงถามไปก็บ่ายเบี่ยงไปต่างๆนานา ตนจึงแจ้งไปว่าหากไม่ส่งแหวนมา ก็ให้โอนเงิน 5,000 บาทกลับคืนมา แต่ปรากฎว่าชายดังกล่าว ได้โอนเงินมาให้เพียง 2,000 […]

3 เพจดังที่ อ.ไชยปราการ เดือดจัดถูกมิจฉาชีพแฮ็คเพจ

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 เวลา 21.00 น. ได้รับแจ้งจาก แอดมินเพจไชยปราการนิวส์ ว่า ถูกมิจฉาชีพ hack เพจไป โดยเพจดังกล่าว ได้มีการเชื่อมโยงกลุ่ม ที่แอดมินเพจไชยปราการนิวส์ เป็นแอดมินอยู่ด้วย สองกลุ่มคือกลุ่มดอยอ่างขาง ที่มี สมาชิกกลุ่ม 110,000 กว่าคนและกลุ่มแจกฟรีเมล็ดพันธุ์และพืชผลทางการเกษตรสมาชิกกลุ่ม 98,000 กว่าคนโดยมิจฉาชีพได้ทำการลบแอดมินกลุ่มเดิมออกและดึงเพจเฟสปลอมเข้าไปเป็นแอดมินเพื่อทำการโพสต์แชร์เพจอื่นๆของตนเองดึงคนในกลุ่มเข้าไปกดไลท์อันอาจจะเป็นการ สร้างความเสียหายแก่สมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ อาจจะถูกล่อลวงหรือถูกแฮ็กบัญชี Facebook หรือบัญชีเงินที่ติดอยู่กับบัญชี Facebook ไปทางแอดมินเพจจึงได้แจ้งมาเพื่อให้ทุกท่านได้กระจายข่าวให้คนอื่นๆ ได้รับทราบโดยจะได้เข้าไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีแก่มิจฉาชีพดังกล่าว ณ สภ.ไชยปราการในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งในเวลาที่แอดมินเพจไชยปราการนิวส์ได้แจ้งข่าวดังกล่าวนี้หากเกิดความเสียหายใดใดแก่สมาชิกกลุ่มหรือบุคคลใดแอดมิน Pages เดิมไม่ขอรับผิดชอบใดใดทั้งสิ้นจึงแจ้งประกาศข่าวมาให้ทราบโดยทั่วกัน ข้อควรปฎิบัติ ให้แจ้งเตือนเพื่อนสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มนั้น และให้ออกจากกลุ่มเพื่อความปลอดภัยกับบัญชีเฟสบุ๊คของท่าน

อย่าหลงเชื่อ! “หมายศาลปลอม” จากแก๊งมิจฉาชีพ

ตำรวจ PCT โพสต์เตือน แก๊งมิจฉาชีพ ปั้นเรื่องทุกรูปแบบ แม้แต่ “หมายศาลปลอม” ก็มีมาเช่นกัน สร้างความหวาดวิตกให้ผู้คนสติหลุด ตกเป็นเหยื่อต้องรีบโอนเงินให้คนร้าย อย่างไว โดยล่าสุด หน่วยงานกระบวนการยุติธรรม อีกหน่วยงาน ก็ออกมาแจ้งเตือนประชาชน ผ่าน “เพจสื่อศาล” ซึ่งเป็นเพจในการประชาสัมพันธ์ให้บริการข้อมูลข่าวสารของศาลยุติธรรมไปยังบุคลากรภายในองค์กรและสังคม ได้ออกคำเตือนสังคมเช่นกัน เนื่องจาก แก๊งมิจฉาชีพ ได้มีการออกแบบ “หมายศาลปลอม” พร้อมกับแจ้งให้ผู้ที่มีชื่อในหมายศาลทำการโอนเงิน เข้าบัญชีของแก๊งมิจฉาชีพ !! โดย”เพจสื่อศาล” ได้เผยแพร่ภาพตัวอย่าง “หมายศาลปลอม”และแจ้งข้อความเตือนภัย ระบุว่า หากเจอข้อความแชทใน facebook จากคนรู้จักในลักณะแบบนี้ ขอให้ท่านอย่าเพิ่งเชื่อ เพราะ facebook ของเขา อาจถูกแฮ๊กแล้วส่งข้อความหลอกลวงบุคคลต่างๆ ที่เป็นเพื่อนใน facebook เพื่อหวังเอาข้อมูลหรือรหัสเพื่อเข้าถึงในการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ขอให้โทรสอบถามให้แน่ใจก่อนจะดีที่สุด

ตร.ยัน!! ไม่มีโทรให้จ่ายค่าปรับ-ขู่ออกหมายจับ

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ชี้ไม่มีการปฏิบัติโดยวิธีการโทรศัพท์ไปทวงให้ชำระค่าปรับ และโอนเงินเพื่อชำระค่าปรับอย่างแน่นอน หลังมีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจจราจร โทรศัพท์ถึงประชาชน ทวงเงินค่าปรับใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ  หากมีการกระทำผิดกฎหมายจราจร กรณีถูกกล้องตรวจจับ เจ้าพนักงาน จะนำส่งใบสั่งจราจรตามข้อหาที่กระทำความผิด ไปให้ทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ  ชำระค่าปรับได้หลายช่องทาง เช่น ธนาคาร ตู้บุญเติมไปรษณีย์ทุกสาขา หรือ สามารถเดินทางไปชำระได้ที่สถานีตำรวจทุกสถานี  ผู้ที่ยังไม่ได้ชำระ ค่าปรับภายในเวลาที่กำหนด ตำรวจจะออกใบเตือนส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับเช่นเดียวกัน เพื่อแจ้งเตือนให้ชำระค่าปรับ ไม่มีวิธีการให้เจ้าหน้าที่โทรไปแจ้งให้ชำระค่าปรับและโอนเงินมาให้โดยตรง  หากมีการออกหมายเรียก จะดำเนินการเน้นหนักไปที่ผู้กระทำความผิดซ้ำซาก และเป็นข้อหาที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ส่วนการออกหมายจับ จะดำเนินการหลังจากมีการออกหมายเรียกไม่น้อยกว่า 2 ครั้งและผู้กระทำผิดไม่มาพบพนักงานสอบสวน จากนั้น จึงจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ

1 5 6 7