82226

เครือข่ายกะเหรี่ยงแดง จัดงานประเพณีอิลู ( ปีใหม่)

เครือข่ายกะเหรี่ยงแดง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดงานประเพณีอิลู ( ปีใหม่) หรือปอยต้นธี สืบสานประเพณีที่ดีงามของชาติพันธุ์วันที่ 11 เมษายน 2566 เวลา 09.30 น. นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เดินทางเป็นประธานเปิดงานประเพณีอิลู หรือ ปีใหม่ของชาวกะแย หรือที่เรียกกันว่า ปอยต้นธี ณ บริเวณสนามโรงเรียนบ้านไม้สะเป่ ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นางกนกพร จรรยาขจรกุล ผู้ใหญ่บ้านไม้สะเป่ กล่าวว่า งานปอยต้นธีในปีนี้ เครือข่ายกะเหรี่ยงแดงจังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดขึ้น เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามของชาติพันธุ์กะแยเอาไว้ให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่น โดยมีเครือข่ายกะเหรี่ยงแดงเข้าร่วมงาน จำนวนกว่า 1,000 คน จาก 8 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านไม้สะเป่ บ้านดอยแสง บ้านห้วยโป่งอ่อน บ้านทบศอก บ้านห้วยผึ้ง บ้านห้วยเสือเฒ่า บ้านห้วยช่างคำ และบ้านห้วยปูแกง ทั้งนี้ ได้มีการจัดงานปอยต้นธี ระหว่างวันที่ 10-12 เมษายน 2566 […]

ชาติพันธุ์ปะโอร่วมเดินขบวนงานบุญทักษิณานุปาทาน “แด่นซี้เหล่าบ๋วย”

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในพื้นที่ตัวเมืองของ อ.เชียงคำ จ.พะเยาได้มีประชาชนโดยส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์ปะโอซึ่งเดินทางมาจากหลายจังหวัด ซึ่งมีทั้ง จ.เชียงใหม่ จ.แม่ฮ่องสอน กรุงเทพ รวมทั้งมากจากรับฉานใต้ เมืองตองกีประเทศพม่า ประมาณ 70 คนได้เดินทางมาร่วมงานบุญทักษิณานุปาทาน “แด่นซี้เหล่าบ๋วย” คล้ายกับงานพบปะวงญาติช่วงเทศกาลสงกรานต์ของประเทศไทย ทั้งนี้ได้มีการเดินขบวนไปตามจุดต่าง ๆ ของ อ.เชียงคำ โดยมีทางกลุ่มเยาวชนบัวระวงศ์ร่วมฟ้อนต้อนรับและเดินขบวนในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ภายในขบวนได้มีการถือรูปบรรพบุรุษของตัวเองด้วยเพื่อเป็นการโชว์ให้เห็นถึงจารีตประเพณีที่สวยงามที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน พระอธิการสันติ ชยธัมโม เจ้าอาวาสวัดนันตาราม กล่าวว่า ประเพณีที่จัดขึ้นนี้นั้นเป็นการแสดงออกให้คนที่อยู่ในพื้นที่ อ.เชียงคำ ได้เห็นขบวนที่สวยงามของกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอที่ได้มาร่วมงานนี้ เพราะน้อยคนที่จะได้เห็นถึงประเพณีของกลุ่มชาติพันธุ์ปะโอว่ามีความเป็นมาอย่างไรด้วย โดยงานนี้ยังได้มีการจัดให้มีการแสดงผสมผสานระหว่างไทลื้อ อ.เชียงคำและกลุ่มชาติพันธ์ปะโอให้มีการแลกเปลี่ยนอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังถือเป็นการทำบุญให้บรรพบุรุษที่ได้ล่วงลับไปแล้วด้วย ซึ่งประเพณีดังกล่าวน้อยมากที่ทุกคนจะได้เห็นชาติพันธุ์นี้ เพราะประชาชนกลุ่มนี้เหลือไม่เยอะแล้วอีกทั้งวัฒนธรรมและการดำรงชีวิตยังเป็นที่สนใจต่อผู้พบเห็นรวมทั้งได้สัมผัสด้วย พระอธิการสันติ ได้กล่าวต่อว่า ในการจัดงานครั้งนี้หากญาติโยมคนใดสังเกตเห็นว่ามีคนถือรูปบุคคลในมือนั้นนั่นคือเป็นบรรพบุรุษของคนที่ถือ อีกทั้งงานนี้ยังถือเป็นการพบปะสังสรรค์ญาติพี่น้องด้วยกันคล้ายกับประเพณีสงกรานต์ของคนไทยที่เมื่อมีงานจะเป็นการรวมญาติหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานรวมทั้งเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง ไทย – พม่า ของชุมชนวัดนันตาราม บ้านทุ่งบานเย็น ม.13 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา