รู้หรือไม่ สีเขียวของดาวหาง มาจาก #ไซยาไนด์
แสงฝ้าเรือง ๆ จากดาวหางที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์อย่าง “ดาวหางฮัลเลย์” ปรากฏเหนือขอบฟ้าช่วงหัวค่ำในคืนหนึ่ง เมื่อปี ค.ศ. 1910 ทำให้มนุษย์โลกต่างพากันแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า พร้อมทั้งหวาดกลัวว่าการมาเยือนของดาวหางในครั้งนี้ อาจจะนำมาซึ่งหายนะสู่สิ่งมีชีวิตทั้งปวงบนโลก บางคนถึงกับสวมหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ บ้างก็คาบยางรถจักรยานเอาไว้ในปาก เผื่อว่าอากาศอันน้อยนิดในยางเส้นนั้นอาจจะเพียงพอที่จะช่วยต่อชีวิตให้เขาได้อีกนิดหนึ่ง แต่แล้วค่ำคืนนั้นก็ผ่านพ้นไป และอีกร้อยกว่าปีต่อมาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกก็ยังคงมีชีวิตอยู่ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? การมาเยือนของดาวหางฮัลเลย์ในปี ค.ศ. 1910 นั้น เป็นกรณีที่พิเศษมากอยู่สองกรณี กรณีแรก เป็นการเยือนของดาวหางครั้งแรกนับตั้งแต่มีการพัฒนาเทคโนโลยีภาพถ่ายขึ้นมา นั่นหมายความว่านี่เป็นครั้งแรกที่มนุษย์ทั่วโลกจะสามารถเห็นภาพดาวหางภาพเดียวกันได้ผ่านบนหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ใช่สิ่งที่เพียงไม่กี่คนที่มีกล้องโทรทรรศน์เท่านั้นถึงจะสังเกตได้อีกต่อไป กรณีที่สอง ดาวหางฮัลเลย์มาเยือนในช่วงที่มนุษย์มีเทคโนโลยีที่สามารถศึกษา “สเปกตรัม” ของดาวหาง ทำให้ทราบองค์ประกอบของวัตถุที่อยู่ห่างไกลเกินกว่าจะมีมนุษย์คนใดสามารถไปได้ถึง และจากการศึกษาแสงของมันที่สะท้อนออกมาจากแสงอาทิตย์ สิ่งที่เราพบในองค์ประกอบของหางดาวหางก็คือ… “ไซยาไนด์” ปัจจุบันเราทราบแล้วว่า แสงสีเขียวของดาวหางนั้น เกิดจากสารประกอบจำพวกไซยาโนเจน (cyanogen) และ diatomic carbon แม้ว่ากระบวนการที่ให้กำเนิดสารประกอบเหล่านี้จากนิวเคลียสของดาวหางนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่เราก็สามารถจำลองการดูดกลืนและเปล่งแสงออกมาเป็นแสงสีเขียวของโมเลกุลเหล่านี้ได้ เราสามารถจำลองได้ว่าสารประกอบเหล่านี้จะสามารถคงอยู่ในสภาวะสุญญากาศที่ถูกกระหน่ำโดยรังสีอันแผดเผาจากดวงอาทิตย์ได้เพียงไม่เกินสองวัน ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมเราจึงไม่พบสีเขียวในบริเวณของหางดาวหางอีกต่อไป แต่ปัญหาหนึ่งก็คือ ไซยาโนเจน นั้นคือสารประกอบที่มีส่วนประกอบของโมเลกุลใกล้เคียงกันมากกับไซยาไนด์ และไซยาโนเจนนั้นสามารถทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจน เพื่อกลายเป็นไฮโดรเจนไซยาไนด์ได้ง่าย ไซยาไนด์นั้นเป็นสารประกอบระเหยง่าย และมีกลิ่นคล้ายอัลมอนด์ (สำหรับคนที่มีพันธุกรรมที่สามารถรับกลิ่นไซยาไนด์ได้) และเป็นหนึ่งในสารพิษที่มีพิษร้ายแรงที่สุด สามารถหยุดกระบวนการเมตาบอลิซึมภายในไมโทคอนเดรียของเซลล์ได้ […]