พะเยา

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 65 ภายในพื้นที่ของ ร.ร.บ้านจำบอน ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้มีการจัดกิจกรรมสืบสานประเพณียี่เป็งลอยกระทง ประจำปี 65 หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายลง ทั้งนี้ถนนสาย ต.อ่างทอง ตั้งแต่บ้านเนินสายกลาง ม.11 จนถึงบ้านจำบอน ม.7 มีการประดับประดาโคมไฟตลอดทั้งเส้นทาง รวมทั้งชาวบ้านได้มีการประดับซุ้มประตูอย่างสวยงาม ตลอดทั้งเส้นทางถนนเช่นกัน ซึ่งภายในงานครั้งนี้ นายธวัช จรัสวรภัทร นอภ.เชียงคำ ได้เดินทางมาเปิดงาน โดยมี นายอนุชา กาติ๊บ นายก อบต.อ่างทอง นายบุญสิน มังคลาด ส.อบจ.พะเยา เขต 3 นางเทียมจันทร์ มังคลาด นายก อบต.น้ำแวน พร้อมทั้งผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้านในพื้นที่ ต.อ่างทอง ร่วมเปิดงานครั้งนี้กันอย่างคึกคัก ซึ่งไฮไลท์การเปิดงานอยู่ที่การปล่อยโคมลอยไม่ต่ำกว่า 20 ลูก นอกจากนี้ ยังมีการแสดงต่างๆ บนเวที รวมทั้งการแข่งขันชกมวยถึง 8 คู่ ซึ่งทาง บริษัทสินธานีได้นำมาเพื่อให้ชาวบ้านได้สนุกสนานกันอย่างเต็มที่ […]

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 65 ทางนักเรียนโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม อ.เชียงคำ จ.พะเยา เกือบ 3 พันคน ได้ทำการจัดกิจกรรมกีฬาสีประจำปี 65 ขึ้น ทั้งนี้ได้มีการเดินขบวนแห่เกือบ 3 กม. และขบวนนักเรียนที่ร่วมในครั้งนี้ยาวเกือบ 2 กม. สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยภายในงานครั้งนี้ นายธวัช จรัสวรภัทร นอภ.เชียงคำ ได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดกิจกรรมกีฬาสีครั้งนี้ รวมทั้งภายในงานมี พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ นายจตุภูมิ แจ่มหม้อ ผอ.ร.ร.เชียงคำวิทยาคม นายธวัชชัย ใจดี นายกสมาคมศิษย์เก่า ร.ร.เชียงคำวิทยาคม รวมทั้งคณะครูและนักเรียนร่วมกันเปิดงานครั้งนี้กันอย่างยิ่งใหญ่ นายธวัช กล่าวว่า วันนี้ที่ตนได้เดินทางมาเป็นประธาน ในการเปิดกีฬาสีของ ร.ร.เชียงคำวิทยาคมในครั้งนี้ ก็ได้เห็นศักยภาพของคณะครู รวมทั้งนักเรียนที่ร่วมกันจัดกิจกรรมกันอย่างยิ่งใหญ่ โดยพบว่าในช่วงก่อนหน้านั้นช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทุกคนต้องเผชิญกับโรคโควิดทำให้หลาย ๆ กิจกรรมภายในพื้นที่ อ.เชียงคำต้องถูกหยุดการจัดและเลื่อนออกไป ซึ่งในส่วนของนักเรียนนั้น ก็ต้องงดกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้การเรียนการสอนนั้นอาจจะจืดชืดด้วย […]

ก้าวหน้า พ.ร.บ.สรรพสามิต หวังให้ ครม.โหวตผ่านในการผลักดันให้ถูกกฎหมายและลดหย่อนภาษี เมื่อวันที่ 1พ.ย.65 ภายในพื้นที่โรงกลั่นสุราชุมชนแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านดอนไชย ม.7 ต.เชียงแรง อ.ภูซาง จ.พะเยา นายบุญศักดิ์ ชมพู อายุ 62 ปี แกนน้ำกลุ่มสุรากลั่นชุมชน พร้อมด้วยผู้ค้าสุรากลั่นชุมชนในพื้นที่ของ อ.ภูซาง ได้นัดรวมตัวเพื่อเปิดผนึกอ่านจดหมายสุราก้าวหน้าที่ทางตัวแทนของพรรคก้าวหน้าได้ยื่นต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้เพื่อขอโหวดให้ผ่านเรื่องสุรากลั่นชุมชน ซึ่งชาวบ้านผู้ค้าส่วนหนึ่งต่างดิ้นรนในการต่อรองเรื่องของภาษีสุรากลั่นชุมชน รวมทั้งค่าแสตมป์อากรที่แพงจนหลายแทบจะขาดทุนยับรวมทั้งภูมิปัญญาของชาวบ้านในเรื่องของกลั่นสุราที่อยากให้ถูกกฎหมายด้วย นายพัน รวมสุข อายุ 79 ปี 1 ในกลุ่มผู้ค้าสุรากลั่นชุมชน ได้กล่าวว่า ทุกวันนี้ที่ตนเปิดโรงกลั่นสุราชุมชนนั้นก็ได้ขออนุญาตเปิดตามหลักของกฎหมาย แต่ด้วยมีช่วงหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรบกวนอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีค่าปรับในเรื่องของบัญชีที่ควบคุมที่ถูกตรวจสอบจนเกินจริง ทั้งนี้ตนอยากให้ พ.ร.บ.ว่าด้วยเรื่องสุราก้าวหน้า หรือ เรื่องสุรากลั่นชุมชนนี้ถูกกฎหมายอย่าง 100% เพราะสิ่งเหล่านี้ที่ตนได้ทำมานั้นถือว่าเป็นอาชีพที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านมาตั้งแต่ปี 46 แล้ว ซึ่งทุกวันนี้ตนต้องแบกรับค่าภาษีอากรในการขออนุญาตแพงจนแทบจะขาดทุน ทั้งนี้รายได้ที่ได้มาจากการค้าสุรากลั่นชุมชนนี้ก็หวังเพียงมาเลี้ยงครอบครัวทั้งสิ้นเพราะเป็นอาชีพหลักของตนที่ได้สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานแล้ว จึงอยากให้ทางคณะรัฐมนตรีได้โปรดเห็นชอบและยอมให้ผ่านเพื่อที่ปากท้องของชาวบ้านผู้ค้าสุรานี้จะได้ดีขึ้นต่อเนื่องและต่อไปด้วย ด้านนางบัวผ่าน หน่อหล้า อายุ 70 ปี ผู้ค้าสุรากลั่นชุมชน ได้กล่าวเสริมว่า หากย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วนั้น ตนถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการจับกุมโดยถูกตั้งข้อหาจำหน่ายสุราไม่เสียภาษีอากร ทำให้ถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 5 […]

ทหารช่วยเหลือประชาชน ประสบอุบัติเหตุริมถนน พื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 เวลา 17.00 นาฬิกา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 โดย กองร้อยทหารพรานที่ 3101 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 ได้จัดกำลังเข้าปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในระหว่างเดินทางกลับฐานปฏิบัติการห้วงเวลาประมาณ 21.00 น. ได้พบผู้ประสบอุบัติเหตุล้มนอนอยู่บริเวณริมถนนหมายเลข 1093 บ้านม่วงชุม ต.ป่าสัก อ.ภูซาง จ.พะเยา จึงได้เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว พบว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนขวาไม่สามารถลุกและยกแขนด้วยตนเองได้ จากการซักถามผู้พบเห็นเหตุการณ์ทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง อายุ 62 ปี ซึ่งขายของบริเวณหน้าบ้านของตนเอง ได้หกล้มและได้รับบาดเจ็บ หน่วยได้ประสานหน่วยกู้ภัย (สมาคมกู้ชีพกู้ภัยภูซางการกุศล) รับผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปที่โรงพยาบาลภูซาง เพื่อดำเนินการรักษาพยาบาลต่อไป

ไม่ท้อต่อชีวิต!! นักดนตรีหนุ่มชวนภรรยาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหลังร้านบันเทิงเจอโควิดขาดทุนยับ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.65 ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นถนนสายเลี่ยงเมืองเชียงคำ ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยนายพงศ์พิรุณ-นางภิรญา 2 หนุ่มสาวเจ้าของร้านได้พาผู้สื่อข่าวเยี่ยมชมในร้าน และเล่าเหตุการณ์ที่ชีวิตพลิกผันจากที่เคยเปิดร้านบันเทิงนั่ง-ดื่มจนมาเจอพิษโควิดทำให้ขาดทุนยับ และต้องปิดตัวลงก่อนที่จะมาฮึดสู้เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวครั้งนี้อีกรอบ นางภิรญา ได้เล่าว่า ตนเองและสามีเคยเผชิญปัญหาในเรื่องของสถานการณ์โควิดของในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านั้นได้เปิดสถานบริการคล้ายสถานบันเทิง แต่ด้วยหลังเหตุการณ์โควิดพ่นพิษนั้นทำให้ทั้งตนและสามีต้องปิดกิจการไป โดยตนเองได้ไปหางานเสริมทำหลายที่ ส่วนสามีของตนนั้นเป็นนักดนตรีอยู่แล้วก็ได้เดินทางรับจ้างร้องเพลงตามงานต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ทั้งตน และสามีที่ต้องดิ้นรนเพราะมีลูกชายด้วยกัน 1 คน แต่หลังจากนั้นไม่นานตนได้กลับบ้านเกิด และได้เป็นเจอก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ดที่อยู่ จ.นครสวรรค์ จึงได้นำสูตรก๋วยเตี๋ยวแฟรนไชส์นี้ กลับมาเปิดที่ร้านเดิม โดยได้มีการปรับปรุงร้านของตัวเองให้ดูโล่ง และหน้านั่งด้วย อีกทั้งตนเองเป็นคนชอบทานก๋วยเตี๋ยวเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งก็พบว่าก๋วยเตี๋ยวสูตรนี้หน้าจะทำให้นักชิมก๋วยเตี๋ยวใน อ.เชียงคำ ติดใจไม่น้อยอย่างแน่นอน ด้านนายพงศ์พิรุณ ได้กล่าวเสริมว่า สูตรเด็ดของร้านตนนี้อยู่ที่เนื้อวัวตุ๋น ซึ่งเป็นเนื้อวัววากิวนำเข้าของแท้ พร้อมทั้งน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้นด้วยเช่นกันทำให้เชื่อว่าหน้ารับประทานเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน ทั้งนี้ร้านของตนได้เปิดมาเพียง 5-6 วันเท่านั้นก็พบว่าลูกค้าที่ทราบข่าว ก็เริ่มเดินทางมาชิมที่ร้านตนอย่างเหนียวแน่น ทำให้ไม่เกินเวลาประมาณ 14.00 น. หมดไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเวลาปกติร้านจะเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 […]

สุดทึ่ง! ชาวบ้านกว่า 300 คนลากเรือบกบรรทุกเครื่องกฐินนำเงินถวายวัด เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2565 ที่บ้านสันกลาง ม.8 ต.งิม อ.ปง จ.พะเยา ได้จัดให้มีขบวนแห่องค์กฐินขึ้น โดยมี นางกัญญาณัฐ ศรีใจ นายกเทศมนตรีตำบลงิม เป็นประธานในงานบุญครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้านที่เข้าร่วมงานบุญครั้งนี้มีทั้งชาวบ้านสันกลาง ม.8 และ ชาวบ้านหนองบัว ม.2 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ทต.งิม ไม่ต่ำกว่า 300 คนในการลากเข้าวัดสันกลางและวัดหนองบัว แต่ไฮท์ไลน์ของงานนี้คือการลากเรือบกหรือทางเหนือเรียกว่า “เฮือบก” ซึ่งเป็นยานพาหนะสมัยโบราณแต่ด้วยทาง นายก ทต.งิม ได้ร่วมกับทางพระธีร์ธเนส จิรวัฑฒนเมธี เจ้าอาวาสวัดหนองบัวได้รื้อฟื้นประเพณีอันเก่าแก่ขึ้นมา นางกัญญาณัฐ กล่าวว่า ด้วยช่วงปลายปีนี้ที่ผ่านมานั้นจะเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดได้เบาบางลงเป็นอย่างมากทำให้ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้มีงานบุญเกิดขึ้นในหมู่บ้านประกอบกับทางพระธีร์ธเนส จิรวัฑฒนเมธี เจ้าอาวาสวัดหนองบัว ได้มีแนวคิดที่จะรื้อฟื้นประเพณีโบราณนั่นคือการจัดประเพณีทอดกฐินโดยยานพาหนะที่ใช้นั้นจะเป็นเรือไม้หรือที่เรียกว่าเรือบก โดยสมัยก่อนเรือบกจะเป็นยานพาหนะในการนำเครื่ององค์กฐินมาใส่ไว้แล้วให้ชาวบ้านลากจูงแห่เข้าวัด แต่ปัจจุบันนี้พบด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงตามกสลเวลาทำให้ประเพณีดังกล่าวได้หายสาบสุญไปอีกทั้งด้วยรถยนต์ที่อำนวยความสะดวกจึงได้เปลี่ยนจากเรือบกเป็นรถยนต์มาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้การใช้เรือบกในการใส่เครื่ององค์กฐินนั้นเวลานำเข้าวัดจะต้องลากด้วยพลังใจของชาวบ้านที่มาร่วมงาน ซึ่งงานครั้งนี้ก็เห็นได้ว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างสนุกสนานรื่นเริงเป็นอย่างมาก และช่วยกันลากเรือบกซึ่งมีองค์กฐินตั้งอยู่นำเข้าวัดได้อย่างใจหวังด้วย โดยการลากจูงครั้งนี้ใช้ชาวบ้านมากกว่า 300 คนและได้ใช้เชือกขนาดใหญ่ในการลากจูง ซึ่งระยะทางที่ลากจากบ้านตนเองไปถึงวัดหนองบัวนั้นเกือบ 3 กม.รวมทั้งการลากองค์กฐินนี้ถือได้ว่าเป็นแห่งแรกใน จ.พะเยาที่ได้รื้อฟื้นวัฒนธรรมนี้ขึ้นมาใหม่เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นเรื่องราวที่เคยมีมานานแสนนานด้วย ด้านนายกิตตินันท์ […]

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 65 ภายในพื้นที่หลายหมู่บ้านของ อ.เชียงคำ จ.พะเยา ทางผู้นำชุมชนและชาวบ้านส่วนหนึ่งได้มีการจัดเตรียมสถานที่ที่จะใช้ในช่วงประเพณีลอยกระทงที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. 65 ที่จะถึงนี้ โดยส่วนใหญ่ได้มีการเตรียมจัดทำโป๊ะที่ประดิษฐ์จากถังพ่นยาการเกษตรรวมทั้งบางพื้นที่ก็ได้มีการทำลานกิจกรรมในการลอยกระทงในครั้งนี้ด้วย ซึ่งก็พบว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาไม่ได้จัดงานลอยกระทงแบบนี้มานานแล้วหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดเกิดขึ้นและทางจังหวัดก็ได้มีคำสั่งให้งดจัดงานทุกประเภทด้วย ทำให้ชาวบ้านต่างตื่นตัวเป็นอย่างมากที่จะมีงานรื่นเริงเกิดขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้ทางด้านนายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ ก็ได้มีการวางแผนเตรียมการรับมือเหตุต่างๆ ในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่จะถึงนี้ด้วย นายธวัช ได้กล่าวว่า ในช่วงที่จะถึงเทศกาลประเพณีลอยกระทงของวันที่ 8 พ.ย. นี้ ตนเองได้มีการสั่งการให้ทุกพื้นที่เข้มงวดในเรื่องของพื้นที่การจัดงาน ไม่ว่าจะเรื่องความปลอดภัยโป๊ะลอยน้ำหรือการจัดจำหน่ายดอกไม้ไฟ พลุ รวมทั้งการดูแลในเรื่องของการปล่อยโคมลอม ซึ่งในการปล่อยโคมลอยนี้ทาง หัวหน้า อปท.จะต้องมีการขออนุญาตทางอำเภอเพื่อขอจัดกิจกรรมในการปล่อยเพราะจะได้ดูว่าจุดที่ปล่อยโคมลอยนั้นเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยหรือไม่ นอกจากนี้ในเรื่องของการจำหน่ายดอกไม้ไฟนั้นในขณะนี้ยังไม่มีการอนุญาตให้ขายแต่อย่างใด โดยก่อนช่วงที่จะมีงานนั้นตนเองจะมีการสั่งให้ทางฝ่ายความมั่นคงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส.ลงพื้นที่เพื่อตรวจตรา หากมีการลักลอบขายโดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งนี้ตกเองได้เป็นห่วงในเรื่องของการเก็บดอกไม้ไฟเพราะไม่รู้ว่าผู้ที่แอบลักลอบขายนั้นจะมีพื้นที่เก็บที่ดูปลอดภัยหรือไม่ หากเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ก็จะมีข้อกำหนดในการขายต่อไปเช่นกัน ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ได้กล่าวเสริมว่า ในส่วนของตำรวจเองนั้น ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลในจุดต่าง ๆ ที่จะจัดงานรวมทั้งพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดเหตุเพลิงไหม้รวมทั้งจุดเสี่ยงที่อาจจะมีการรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่นแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านด้วย ทั้งนี้ก่อนช่วงที่จะมีการจัดงานนั้นทางอำเภอได้ร่วมมือกับทางตำรวจและทหารจะมีการปล่อยแถวเพื่อกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบด้วย เพื่อที่จะให้ประชาชนทั่วไปได้สบายใจในเรื่องความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินในช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ด้วยเช่นกัน

ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา มอบหมายให้ นายสุธน วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาและการกีฬา ส่งมอบสระว่ายน้ำชุมชนให้แก่เทศบาลเมืองดอกคำใต้ ตำบลบุญเกิด อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เพื่อให้เยาวชน ประชาชน ได้ใช้ในการฝึกซ้อม ของเยาวชนในชุมชน จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำที่กรมพลศึกษา ได้จัดตั้งงบประมาณปี พ.ศ. 2564 รายการงบลุงทุน ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ โครงการสระว่ายน้ำชุมชน ตำบลบุญเกิดฯ จำนวน 1 แห่ง โดยมี นายเกรียงไกร สะเภาคำ นายกเทศมนตรีเมืองดอกคำใต้ เป็นผู้รับมอบ มีคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมพิธีส่งมอบ-รับมอบ ในครั้งนี้ด้วย ณ บริเวณสระว่ายน้ำชุมชนเทศบาลเมืองดอกคำใต้

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.65 ภายในรั้วของ รร.ภูซางวิทยาคม ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ได้มีการจัดกิจกรรมกีฬาสีภายในโรงเรียนขึ้น ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดเริ่มเบาลงอีกทั้งยังถูกประกาศเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว ทำให้คณะครูนำโดยนายคมน์สิทธิ์ กันทาสุวรรณ ผอ.โรงเรียนภูซางวิทยาคม ได้มีการเรียกประชุมครุผู้สอนรวมทั้งสภานักเรียนเพื่อหาวันจัดงานกีฬา หลังพบว่านักเรียนไม่ได้ทำกิจกรรมด้านกีฬาภายในโรงเรียนมานานแล้ว นายคมน์สิทธิ์ กล่าวว่า หลังจากที่โรคโควิดถูกประกาศเป็นโรคประจำถิ่นและสถานการณ์เริ่มเบาลงแล้วนั้น ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่ต่างเรียกร้องขอให้ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมกีฬาสีเพื่อสานความสัมพันธ์อันดีระหว่างครู นักเรียน รุ่นพี่ – รุ่นน้อง ซึ่งตนก็เห็นดีด้วยและภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิดที่มีอยู่นั้นตนก็ได้สั่งการให้นักเรียนทุกคนดูแลป้องกันตัวเองด้วยเช่น ทั้งนี้ในกี่แข่งขันกีฬาสีครั้งนี้ทางนักเรียนได้รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก บางรายตื่นตั้งแต่เที่ยงคืนเพื่อชวนเพื่อน ๆ มาแต่งหน้าตารวมริ้วขบวนที่สวยงาม อีกทั้งยังมีป้ายที่ชวนให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นแนวคิดที่ดีของนักเรียนที่มีต่อสังคมในปัจจุบันนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาวะโลกร้อนอันเนื่องมาจากขยะที่ล้นโลก หรือแม้กระทั่งความรักเพสสภาพที่ไม่ถูกแบ่งแยก ทั้งนี้ตนเห็นว่าในบางเรื่องครูต้องเป็นผู้ให้คำแนะนำที่ดีเช่นกัน รวมทั้งบางขบวนได้มีการนำผ้าทอที่ขึ้นชื่อของ อ.ภูซางมาเดินภายในขบวนในครั้งนี้เพื่อที่จะให้หลายคนได้เห็นว่าอำเภอภูซางยังมีของดีประจำอำเภอที่ขึ้นชื่อและรวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่แต่งเติมขบวนกีฬาสีครั้งนี้ได้อย่างสวยงาม ด้านน.ส.ศรีไพร ใจกล้า ครูสอนประจำวิชาต่างประเทศของ รร.ภูซางวิทยาคม ได้กล่าวเสริมว่า วันนี้ได้เห็นศักยภาพของนักเรียนที่ร่วมแรงร่วมใจและครูผู้สอนที่เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าความคิดของเด็กนักเรียนในเรื่องของป้ายที่ถือนั้นถือว่ามีความสำคัญอยู่มาก ด้วยเพราะเด็ก ๆ เหล่านี้ล้วนมีความคิดที่มองปัจจุบันได้อย่างชัดเจน รวมทั้งการแข่งกีฬานี้ยังเป็นการสานสายใยสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับนักเรียนด้วย ซึ่งเพื่อให้เกิดความสุขในรั้วโรงเรียนรวมทั้งยังให้ทุกคนได้ผ่อนคลายภายหลังสถานการณ์โควิดนั้นเบาบางลงด้วยเช่นกัน

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านก้าวเจริญ ม.11 ต.น้ำแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา หลังทราบข่าวว่ามีพระพุทธรูปที่เป็นหนึ่งเดียวใน จ.พะเยา ของวัดบุญนาค วัดเจ้าคณะ อ.เชียงคำ ฝ่ายธรรมยุต ซึ่งไม่เหมือนที่ไหนทั้งสิ้น ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ที่หลังคาทรงคล้ายแม่ไก่กำลังฟักไข่ นอกจากนี้ ยังมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับวัดแห่งนี้อย่างมากมาย ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างให้ความศรัทธาพระประธานแห่งนี้เป็นอย่างมาก พระครูปุณณธรรมรักขิต เจ้าอาวาสวัดถ้ำบุญนาค เล่าว่า วัดแห่งนี้ได้เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 38 และถูกตั้งให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์เมื่อปี 47 ทั้งนี้พระอุโบสถที่เห็นนี้แบบแปลนได้ถอดแบบมาจากวัดเชียงทอง ของ สปป.ลาว แต่ของทางวัดเชียงทองเป็นอุโบสถที่สร้างจากไม้ทั้งหลัง อาตมาจึงสั่งให้ผู้ว่าจ้างได้ดัดแปลงให้เป็นปูนทั้งหลังจะดีกว่า และแปลนเดิมพระอุโบสถเป็นสีดำ ซึ่งอาตมาคิดว่าหากทำเป็นสีดำไปด้วยแล้ว เวลาญาติโยมเจอเรื่องทุกข์ร้อนแล้วเข้ามาในวัดขึ้นไปกราบพระประธานแล้ว ก็อาจจะทำให้จิตใจไม่ผ่องใส จึงได้เปลี่ยนเป็นสีขาวและสีทอง ส่วนหลังคาพระอุโบสถเป็นแบบทรงแม่ไก่กำลังฟักไข่ นอกจากนี้ จุดที่หน้าสนใจที่สุดนั้นเห็นจะเป็นพระพุทธรูป ซึ่งเป็นพระประธานในอุโบสถที่ไม่เหมือนใคร คาดว่าเป็นที่เดียวของ จ.พะเยา ที่เป็นทรงแบบนี้โดยมีชื่อว่า “พระคันธารราฐ” ปางประทับนั่งห้อยพระบาท ซึ่งเป็นปางที่ถูกคาดว่าหน้าจะสร้างประมาณต้นยุคของพระพุทธศาสนา ซึ่งการหย่อนขาของพระพุทธรูปนั้นมีหลายแบบด้วย และพระธาตุที่อยู่หลังพระอุโบสถได้ชื่อว่า “พระธาตุศรีสองรัก” ซึ่งถอดแบบมาจากวัดเชียงทองเช่นกัน พระครูปุณณธรรมรักขิต ได้เล่าอีกว่า สำหรับชื่อวัดนั้นหากมองขึ้นหรือเดินขึ้นไป ไปด้านบนของวัดที่เป็นภูเขาห่างออกไปประมาณ […]