73697

นักวิจัยเผย มนุษย์ต่างดาวมีโอกาสเจอโลก 14 ครั้ง/ปี

นักวิจัย สดร. พบโลกมีโอกาสถูกตรวจพบจากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาเพียงแค่ 14 ครั้งต่อปี สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผย นักวิจัย สดร. ร่วมกับ นักวิจัยมหาวิทยาลัยฮอกไกโด และทีมนักวิจัย ศึกษาความเป็นไปได้ที่โลกจะตรวจพบจากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญานอกโลกด้วยเทคนิคไมโครเลนส์ พบว่ามีโอกาสเพียง 14 ครั้งต่อปี เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่อธิบายและตอบโจทย์ปฏิทรรศน์ของแฟร์มี (Fermi Paradox) ที่ว่า “ทำไมจึงยังไม่เจอมนุษย์ต่างดาว” งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Monthly Notices of the Royal Astronomical Society ดร. ศุภชัย อาวิพันธุ์ นักวิจัย กลุ่มวิจัยดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ และชีวดาราศาสตร์ สดร. ร่วมกับ นางสาวศุภากร ศุภผลถาวร นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น และทีมนักวิจัย ใช้ฐานข้อมูลดาวฤกษ์จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศ Gaia DR2 คำนวณหาโอกาสที่โลกจะถูกตรวจพบจากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญานอกโลกด้วยเทคนิคไมโครเลนส์ พบว่าโลกมีโอกาสถูกตรวจพบจากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาด้วยเทคนิคไมโครเลนส์เพียงแค่ 14 […]

หาคำตอบ มนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม ?

“เราอยู่ลำพังในจักรวาลหรือไม่?” หนึ่งในคำถามสำคัญที่ดาราศาสตร์อาจจะช่วยหาคำตอบให้เราได้ และความพยายามในการตอบคำถามนี้นี่เอง ที่นำเราไปสู่เทคโนโลยี ความก้าวหน้า และการค้นพบต่างๆ ตั้งแต่การส่งยานสำรวจอวกาศไปยังดาวเคราะห์และวัตถุในระบบสุริยะอื่นๆ การค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอันห่างไกล และการพยายามค้นหาสัญญาณวิทยุ อันมีลักษณะแปลกไปจากที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติที่อาจจะมีที่มาจากสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาจากดาวดวงอื่น ผ่านโครงการที่มีชื่อว่า Search for ExtraTerrestrial Intelligence หรือ SETI โครงการ SETI ริเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1900 โดยการดักฟังสัญญาณจากห้วงอวกาศที่อาจจะส่งมาจากสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาจากดาวดวงอื่น ด้วยจานรับสัญญาณวิทยุ เมื่อเวลาผ่านไปจึงมีการพัฒนาและปรับปรุงใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการค้นหาสัญญาณ ตั้งแต่การใช้เครื่อง Supercomputer ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมค้นหาสัญญาณด้วยคอมพิวเตอร์ของตนเองผ่านโครงการ SETI@home อย่างไรก็ตาม จนปัจจุบันเราก็ยังไม่เคยค้นพบหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาจากที่อื่นใดได้ และมนุษย์เรายังคงเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาลที่เรารู้จัก หนึ่งในความท้าทายของการค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาคือข้อจำกัดในการสังเกตการณ์ของเรา สัญญาณอันริบหรี่จากดวงดาวอันไกลโพ้นย่อมต้องใช้จานรับสัญญาณขนาดใหญ่ในการสังเกตการณ์ แต่นี่ก็ทำให้พื้นที่บนท้องฟ้าที่เราสามารถค้นหาได้นั้นแคบลง เช่น หากเราต้องการค้นหาสัญญาณด้วยจานขนาด 40 เมตรของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติของ สดร. เราจำเป็นต้องทำการสำรวจทั้งหมดมากกว่า 500,000 ครั้ง จึงจะครอบคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า ซึ่งหมายความว่าเวลาและรายละเอียดที่เราจะสามารถสังเกตการณ์ในแต่ละส่วนของท้องฟ้าก็จะสั้นลงไปอีก การพยายามค้นหาสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาโดยควานหาไปทั่วท้องฟ้า อาจเปรียบได้กับการพยายามก้มหาคอนแทคเลนส์ที่ไม่ทราบว่าตกอยู่บริเวณใด ทำให้เรามองข้ามไปได้โดยง่าย แต่หากเราสามารถจำกัดบริเวณที่น่าจะพบให้แคบลง เราก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาได้ดีขึ้น แนวคิดหนึ่งในการค้นหาสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญา จึงเน้นไปที่การค้นหาเฉพาะในทิศทางบนท้องฟ้าที่คาดว่ามีความน่าจะเป็นที่อาจจะมีสัญญาณส่งมามากที่สุด เช่น ทิศทางอันเป็นที่ตั้งของกระจุกดาวซึ่งเต็มไปด้วยดาวฤกษ์จำนวนมาก […]