82929

ชมความงามของศิลปวัฒนธรรมล้านนา ย้อนรอยวิถีชีวิตโบราณกว่า 100 ปี

มูลนิธิอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ประกอบพิธีพุทธาภิเษกและพิธีเถราภิเษก ส่งเสริมการเผยแพร่และประกาศเกียรติคุณองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกยูเนสโก (UNESCO) ในวันเสาร์ ที่ 16 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 -18.30 น. ณ ข่วงพระเจ้าล้านนา(ปากทางเข้าห้วยตึงเฒ่า) ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมในการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมล้านนา ย้อนรอยวิถีชีวิตโบราณกว่า 100 ปี ไม่ว่าจะเป็น จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเข้าร่วมเข้าชมความงดงามของศิลปะวัฒนธรรมล้านนา ในและเวลาดังกล่าว

เชียงใหม่ชิงเจ้าภาพประชุมระดับโลกโกยเงินร้อยล้านบาทเข้าจังหวัด

จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว จากทั่วโลกแล้ว ยังถือเป็นเมืองแห่งสินค้าหัตถกรรมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และในช่วงปลายปีนี้ เชียงใหม่ จะร่วมชิงการเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับโลก เพื่อตอกย้ำความเป็นเมืองสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ พร้อมกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ กว่า 125 ล้านบาท ในอีก 2 ปีข้างหน้า นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2566 ได้รายงานถึงผลการเสนอเมืองเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุม ประจำปี ของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ประจำปี พ.ศ. 2568 (UCCN ANNUAL CONFERENCE 2025) ณ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ประเทศไทยยื่นประมูลสิทธิ์เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ครั้งที่ 17 ในปี พ.ศ. 2568 (UCCN Annual Conference 2025) ณ จังหวัดเชียงใหม่ ต่อองค์การยูเนสโก และได้มีการจัดงานแถลงข่าวการยื่นประมูลสิทธิ์ฯดังกล่าวภายใต้แนวคิด “Enhancing Multicultural Transformation” เชื่อมอดีตสู่ปัจจุบัน สร้างนวัตกรรมเพื่อการต่อยอดไปนั้น ขณะนี้ทางกระทรวงวัฒนธรรมได้รับแจ้งจาก สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ว่า สำหรับเมืองที่จะได้รับการเสนอเป็นเจ้าภาพพร้อมกับของไทย ประกอบด้วย 6 เมือง คือ เมืองเคดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย , เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี , เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ , เกเรตาโร ประเทศเม็กซิโก , อิสฟาฮาน ประเทศอิหร่าน และเชียงใหม่ ประเทศไทย ซึ่งจะมีการคัดเลือกกันในที่ประชุมประจำปีของเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก ครั้งที่ 15 ในปี พ.ศ. 2566 วาระการเสนอเมืองเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีครั้งที่ 17 ในปี พ.ศ. 2568 โดยองค์การยูเนสโกจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ ช่วงปลายปี 2566 นี้ นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า สำหรับการเตรียมการดังกล่าวมีกระทรวงวัฒนธรรม จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก และพร้อมผลักดันเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองสร้างสรรค์ของประเทศไทย สาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts and Folk Art) ร่วมกับภูเก็ต (สาขาอาหาร) กรุงเทพมหานคร (สาขาการออกแบบ) สุโขทัย (สาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน) และเพชรบุรี (สาขาอาหาร) อีกทั้งเป็น ‘นครที่เป็นที่สุดแห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม’ พร้อมด้วยศักยภาพ มีความคาดหวังที่จะเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมเชื่อมโยงและแบ่งปันแรงบันดาลใจ (Sharing) อาทิ การเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมการประชุมเรียนรู้และแบ่งปันประสบการณ์ สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ และการสร้างเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนความสร้างสรรค์ที่ไม่มีสิ้นสุด นำไปสู่การสร้างความสุขด้วยแนวคิดเมืองมีชีวิต เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้ นอกเหนือการขับเคลื่อนการเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโกของประเทศไทย และการประชาสัมพันธ์ศักยภาพของประเทศไทยสู่เวทีโลก ยังมีการคาดการณ์ว่าหากเชียงใหม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมระดับนานาชาติครั้งนี้ จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้กว่า 125.86 ล้านบาท และเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้าถึงการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อันเกิดจากการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก รวมถึงยังสอดคล้องกับพันธกิจของกระทรวงวัฒนธรรมที่ต้องการเผยแพร่งานด้านศิลปวัฒนธรรมของไทย พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์กับต่างประเทศผ่านมิติทางวัฒนธรรมอีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว หากจังหวัดเชียงใหม่ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการประชุม ในปี พ.ศ. 2568 นอกจากจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ จากรายได้ที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่ ช่วงจัดการประชุมแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูลทางด้านอุตสาหกรรมส้รางสรรค์ระหว่างท้องถิ่นกับนานาชาติอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลดีทางในการเสริมสร้างศักยภาพภูมิปัญญาพื้นบ้านล้านนาของเราอีกด้วย ที่มา : ทำเนียบรัฐบาล