อาชญากรรม

วัดร้างกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์ ถูกทุบตู้รับบริจาคและขโมยเงินบริจาค ที่วัดบ้านถ้ำ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีคนร้ายลงมือก่อเหตุทุบตู้บริจาคของวัดบ้านถ้ำ(ร้าง) หรือวัดหัวนาคบ้านถ้ำ หมู่ที่5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวสอบถามพระสุกฤษฏิ์ ปริชาโน รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านถ้ำ(ร้าง) บอกว่า วัดบ้านถ้ำซึ่งเป็นวัดร้างกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์ แต่มาถูกขโมยเงินในตู้บริจาค และทำลายทรัพย์สินไป ซึ่งเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน หรือ เวลา 00.00 น.วันที่ 11 พ.ย.2565 ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาบริเวณวัด และก่อเหตุดังกล่าว ต่อมาในเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เชียงดาว ตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ได้พบว่าเป็นนายเดช ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ใจบุญหากจะร่วมทำบุญช่วยวัด สามารถ โทร 0636519632 พระสุกฤษฏิ์ ปริชาโน รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านถ้ำ(ร้าง)เพื่อร่วมทำบุญได้

12 พฤศจิกายน 2565 พ.ต.อ. วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่รับแจ้งจาก นายคำรณ อิ่นต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านถ้ำตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีขโมยย่องเข้าวัดขโมยเงินในตู้บริจาคไปหลายครั้งแต่ถูกกล้องจับภาพได้ ทางจนท.ตำรวจสภ.เชียงดาวร่วมกับผู้ใหญ่บ้านบ้านถ้ำ หมู่ 5 ร่วมกันจับกุม นายเดช ก่อเหตุทุบตู้บริจาคลักทรัพย์ในเวลากลางคืนอุกอาจ ในวัดบ้านถ้ำต่อเนื่องในวัดห้วนาค เจ้าหน้าตำรวจกับผู้ใหญ่บ้านจึงได้ร่วมกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในวัด จึงทราบว่าชายดังกล่าวคือนายเดช เคยก่อเหตุลักมาหลายครั้งแล้ว แต่เมื่อพ้นโทษออกจากคุกมาไม่เข็ดหลาบ กลับมาทำอย่างเดิม จึงถูกจับกุมแล้วลงโทษตามกฏหมายต่อไป

11 พฤศจิกายน 2565 เกิดเหตุสามีฟันหัวภรรยาหวิดดับ นายสิทธิชัย มะกอก ผู้ใหญ่บ้าน หมุ่ที่ 7 บ้านปางมะกง ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพลเมืองดี จึงไปที่เกิดเหตุ คือบ้านนายบิ และนางแสะ โดยนายบิ จับตัวภารยาที่ถูกมีดฟันหัวเลือดโชก ทางผู้ใหญ่บ้านได้กล่าวเกลี่ยกล่อมอยู่นานไม่สำเร็จ เพราะนายบิพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงเรียกชุด ชรบ.ในหมู่บ้าน ให้มาร่วมเพื่อจะเข้าชิงตัวนางแสะเพราะว่าถูกฟันหัวเลือดไหลไม่หยุดกลัวจะเสียชีวิต จึงได้หาวิธีเข้าชิงตัว ถ้ายังใช้อาวุธก็อาจจะต้องลงมือแบบจัดหนัก แต่นายบิ กลัวจะถูกวิสามัญ จึงปล่อยตัวภารยาแล้วส่งโรงพยาบาลเชียงดาว ปลอดพัยเย็บหลายเข็ม ส่วนนายบิ ทาง ชรบ นำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามการที่ก่อเหตุ ถึงมือตำรวจแล้วแต่ยังพูดจาวกวนไม่ได้ความ จึงนำตัวขังเพื่อให้สงบอารมภ์ก่อนคอยสอบสวนถึงการทำร้ายภารยาในวันนี้ บ้านนอกยิ่งมียาเสพติดที่จำหน่ายมากคนที่นิยมเสพเมื่อเสพนานเข้าจะทำให้คลุ้มคลั่งบังคับสติปัญญาตัวเองไม่ได้หรืออาจจะหลอนเห็นคนเป็นสิ่งที่คิดจึงเข้าทำร้าย ทางรัฐบาลจะทำอะไรรีบทำก่อนประชาชนเยาวชนจะติดยาเสพติดทั้งประเทศ