รมว.ดีอีเอส ชี้ อาชญากรรมเทคโนโลยี ไม่ได้มีแค่ในไทย

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 65 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ขึ้นชี้แจง การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ว่า ทุกประเทศทั่วโลกต่างประสบปัญหาเช่นเดียวกับประเทศไทย แต่สาเหตุที่ประเทศไทยมีปัญหาหนักที่สุด เพราะประเทศไทยมีอินเตอร์เน็ตที่ดีมาก ๆ มีการแพร่หลาย มีผู้ใช้อินเตอร์ และ เข้าถึงโซเชี่ยลมิเดีย ประมาณ 80 % ของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาลนั้นคือ ไทยแลนด์ 4.0 เพราะต้องการให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้

เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งมีการประสานกับ กสทช. อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการส่งลิ้งค์ต่าง ๆ ก็ได้ยกเลิกไป การโทรจากต่างประเทศก็มีการพยายามแก้ไข อยากจะบล็อค มีการรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลปิด เมื่อปิดเขาก็เปิด / สิ่งที่ทำคือประสาน กสทช. ให้ขึ้นเครื่องหมายบวก (+) เพื่อให้ทราบว่าเบอร์นั้นมาจากต่างประเทศ เพราะเบอร์เหล่านี้เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แน่นอน

แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็มีการพัฒนาเครื่องแปลสัญญา มีการลักลอบนำเข้ามา เพื่อแปลสัญญาจากเครื่องหมาย บวก (+) เป็นเบอร์โทรในประเทศ ซึ่งได้ให้ทางตำรวจมีการสืบหาต้นตอเครื่องแปลสัญญาดังกล่าว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจับกุมดำเนินคดี ทลายขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ได้ / หากอยู่เมืองไทยไม่มีปัญหา แต่เขากลับอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน มีคนไทยไปทำงานด้วย

เรื่องของการอายัดบัญชีม้า เป็นปัญหาใหญ่มาก เป็นเรื่องของกระบวนอาชญากรรมอีกประเภท ที่ใช้ในการโอนเงินผ่านระบบ internet banking ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับธนาคารให้มีการใช้ AI ในการตรวจจับ ว่าบัญชีไหนที่มีการโอนเงินผิดปกติ

ทั้งนี้ได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกา กำกับ ควบคุม แพลตฟอร์มดิจิทัลไปแล้วรอการประกาศใช้ หากมีกฎหมายนี้ออกมาก็จะมีการกำหนดมาตรการในการยืนยันตัวตนต่าง ๆ ที่จะทำให้การโอนเงินมีความเชื่อมั่นมายิ่งขึ้น มีการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มคนเหล่านี้ และนำมาขึ้น Bank list พร้อมทั้งมีการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจได้มีการปิดไปแล้วจำนวนหลายเว็บไซต์

กรณี Spyware หรือเครื่องดักฟัง ตรวจสอบระบบนี้มีจริง แต่ทางกระทรวงดิจิทัลไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้เราไม่มีอำนาจ เท่าที่ทราบจะเป็นเรื่องของความมั่นคง แบะ ยาเสพติด และอยู่ในขอบเขตที่จำกัด

ร่วมแสดงความคิดเห็น