(มีคลิป) จอดรถช่องเติมลมไปกินก๋วยเตี๋ยว เจอทัวร์จอดรุมด่า

YouTube video

ทัวร์ลงสาวสวย ฉุนโดนเขียนด่าจอดรถแช่ในช่องเติมลมลงไปกินก๋วยเตี๋ยว โพสต์คลิปโต้จอดในซองมั้ยล่ะ

จากกรณีผู้ใช้ Tiktok ท่านหนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอลงในฟีดของตัวเองเล่าประสบการณ์ที่ไปจอดรถในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่ โดยบอกว่าจอดรถในช่องสำหรับจอดเติมลมเพื่อไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านใกล้ๆ พอกลับมามีกระดาษเสียบที่ช่องเปิดประตูรถเขียนว่าจอดรถควายๆ แหกด้วย ซึ่งหญิงคนดังกล่าวบอกในคลิปว่าก็จอดในซองมั้ยล่ะ เค้าจะเติมลมหรอ คืออะไรล่ะ พร้อมกับท้าทายคนเขียนด่าว่า แน่จริงก็ให้ยืนรอเลย ไม่ต้องมาเขียนบอก ไม่กล้านี่หว่า ด่าก็ด่าต่อหน้าเลย

โดยสาวเข้าของคลิปติดแฮชเท็ก “ ขอโทษได้ไหมละคราฟ ตอนที่มาจอดที่ข้างๆ มันไม่ว่างนินา #เปิดการมองเห็น #เหตุเกิดจากความหิว #ไม่มีที่จอดรถ #โดนวีน”

คลิปนี้ถูกโพสต์เมื่อ 4 วันก่อน ปรากฏว่าชาวเนตต่างเข้ามาแสดงความเห็นในเชิงต่อว่า โดยบอกว่าควรสงวนพื้นที่สำหรับรถที่ต้องการเข้ามาเติมลม เพราะหากไปจอดในช่องถัดไปข้างๆ สายอาจไม่ถึง บางคนถามถึงใบขับขี่ ขณะที่หลายคนแสดงความเห็นในทำนองว่าทำผิดแล้วยังไม่สำนึก ขณะที่สาวคนนี้ตอบว่า “ ลืมบอกว่าเราก็เติมลมเช่นกันนะงับ ละที่นี่มีเติมลม 2 ที่ด้วยเด้อ พอดีที่มันเต็ม ตอนมาจอดกินเลยต้องจอดตรงหน้าเติมลม” พร้อมกับบอกว่า เป็นเพียงคอนเทนต์ ไม่ให้เครียดเฉยๆ เพราะ เห็นความลงทุนเขียนของเจ้าของจดหมายน้อยเฉย และ สาวยังตอบขอโทษในหลายคอมเม้นท์

ขณะที่ต่อมา ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณจุดดังกล่าวพบว่าหน้าเครื่องเติมลมมีช่องจอดรถตรงกับเครื่องหนึ่งช่องซึ่งเป็นช่องที่รถยนต์จะเข้ามาจอดเพื่อเติมลม แต่ไม่ได้ทาสีหรือสัญลักษณ์ให้แตกต่างจากช่องข้างๆ และเมื่อสอบถามพนักงานร้านก๋วยเตี๋ยวบอกว่าเพิ่งมาทราบเรื่องเห็นจากติ๊กต็อกวันนี้ โดยบอกว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อนและบอกด้วยว่าพนักงานในร้านไม่ทราบว่าลูกค้าคนไหนจอดรถที่จุดไหน ส่วนเรื่องดราม่าดังกล่าวไม่ขอออกความเห็นเพราะไม่เกี่ยวกับทางร้าน

ส่วนผู้ใช้รถที่มาเติมลมก็มองว่าช่องตรงหน้าที่สาวคนดังกล่าวจอดในคลิป ควรจะเป็นช่องสำหรับเติมลม รถคันอื่นไม่ควรมาจอดแช่นานๆ เพราะเดือดร้อนคันอื่นที่จะมาเติมลม

อย่างไรก็ตามหลังเกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันครั้งนี้ ทางผู้สื่อข่าวติดต่อไปหาสาวคนดังกล่าวเพื่อขอทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่ตอบกลับและไม่สามารถติดต่อได้ โดดต่อมาทางเจ้าตัวได้มีการโพสต์คลิปอีกครั้งเพื่อชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น