รวบ 4 ต่างด้าวชาวจีน ลักลอบเข้าประเทศ คาโรงแรมที่สามเหลี่ยมทองคำ พร้อมดำเนินคดีกับผู้ให้ความช่วยเหลืออีก 2 ราย
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 29 ส.ค. 67 จนท.ชุดจับกุมซึ่งประกอบด้วย พ.ต.ท.กฤตยศ สันตา สว.สส. สภ.เชียงแสน พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุภโชค บัวสังข์ รอง สว.สส. ร.ต.ต.นิวัตน์ เตมา ร.ต.ต.ระพีพงค์ กันธิพันธุ์ ด.ต.ธงศักดิ์ นิธิสารัตถกุล ผบ.หมู่(สส.) ด.ต.วิรัตน์ ปาละมะ ผบ.หมู่(สส.) ด.ต.สมภพ ภู่สุวรรณ จ.ส.ต.ณัฏฐชัย คาเงิน ผบ.หมู่(สส.) ได้ร่วมกันบูรณาการ ออกตรวจตามพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนี เข้าเมืองตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
และได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีคนต่างด้าวลักลอบเข้ามายังประเทศไทยบริเวณบ้านสบรวก เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้นำกำลังไปตรวจซุ่มดูบริเวณโรงแรม จนถึงเวลาตามที่เกิดเหตุ ได้มีชาวจีน จำนวน 4 คน เดินถือถุงพลาสติกใส่สัมภาระ คนละ 1 ถุง มาบริเวณลานจอดรถของโรงแรม และพบนายอุดม (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี สัญชาติไทย ชาวบ้าน ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ 1 ยืนรอรับคนจีนอยู่บริเวณลานจอดรถดังกล่าว และพาคนจีนทั้ง 4 คนไปยังห้องพัก โดยมีนายมงคล (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้มีหน้าที่ดูแลโรงแรมดังกล่าว นำขึ้นไปเปิดห้องพักบริเวณชั้น 2 จำนวน 2 ห้อง โดยผู้ต้องหาที่ 1 หรือนายอุดม เป็นผู้ติดต่อและจองห้องพักให้
เมื่อเปิดห้องพักแล้วและคนจีนได้เข้าไปอยู่ในห้องพักแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ซุ่มดู จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอตรวจสอบ โดยผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ยินยอมให้ตรวจสอบพบ นายอุดมและนายมงคล และชาวต่างชาติชาวจีน จำนวน 4 ราย อยู่ในห้องพักภายในโรงแรม เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจหนังสือเดินทาง หรือเอกสารอื่นที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง ผลการตรวจสอบบุคคลต่างด้าวดังกล่าว ไม่มีหนังสือเดินหรือเอกสารอื่นที่ใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงแต่อย่างใด (ได้แยกแจ้งข้อกล่าว เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้อีกส่วนหนึ่งแล้ว)
จากการสอบถามนายอุดมให้การว่า ตนได้ติดต่อกับหญิงชาวลาวผ่านแชทเฟซบุ๊ก ให้ตนจองห้องพักให้คนจีนที่ไม่มีหนังสือเดินทาง จำนวน 2 ห้อง ในราคา 3,200.- (สามพันสองร้อยบาท) แล้วจะโอนค่าเข้าพักโรงแรมให้ และนายอุดมฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) รับว่าตนได้จองห้องพักให้คนจีนที่ลักลอบข้ามมาจาก สปป.ลาว เพื่อเข้าพักที่โรงแรมมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งนี้ตนได้โทรศัพท์สอบถามเจ้าของโรงแรมว่า สามารถนำคนจีนที่ไม่มีหนังสือเดินทางเข้าไปพักได้หรือไม่ เจ้าของแจ้งว่าสามารถเข้าพักได้ จึงได้นำคนจีนดังกล่าวเข้าไปพัก
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สอบถาม นายมงคลฯ ( ผู้ต้องหาที่ 2 ) ให้การว่าตนได้ทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของโรงแรม โดยทำงานมาแล้วประมาณ 1 ปี ได้รับเงินเดือนๆละ 9,000.- บาท ต่อเดือน อีกทั้งไม่มีเอกสารใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว มาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และรับว่าตนได้เปิดห้องพักให้กับคนจีนทั้ง 4 คน โดยไม่ได้ถามถึงหนังสือเดินทาง (Passport) และนายอุดมฯ เป็นผู้พาคนจีนทั้ง 4 คนมายังห้องพักดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ผู้ต้องหาที่ 1 ช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม, ผู้ต้องหาที่ 2 “ให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม, เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ให้ทราบและจับกุมตัว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น