วงจรปิดบันทึกภาพ 2 โจ๋สายเขียว ขับขี่ จ.ย.ย. ขโมยต้นกัญชา

วงจรปิดบันทึกภาพ 2 โจ๋สายเขียว ขับขี่ จ.ย.ย. ขโมยต้นกัญชาที่ปลูกหน้าร้านมือถือใน อ.จอมทอง เจ้าของร้านนำคลิปโพสต์ตามตัว เผยให้โอกาสไม่แจ้งความตำรวจ แต่ต้องมาแสดงตัวรับผิดชอบ

กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ 2 หนุ่มวัยรุ่น ขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วไปก่อเหตุขโมยต้นกัญชา ที่เจ้าของปลูกไว้ในกระถางวางไว้ บริเวณหน้าร้านซ่อมมือถือ ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.ข่วงเปา อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 23.28 น. ของค่ำคืนวันที่ 6 ต.ค.65 ที่ผ่านมา โดย 2 วัยรุ่น ได้ขับรถจักรยานยนต์มาวนเวียน ที่บริเวณหน้าร้านที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะจอดรถแล้วคนซ้อนท้ายลงมาจากรถตรงปรี่เข้ามาถอนต้นกัญชาที่สูงประมาณ 1 เมตรกว่า ที่ปลูกอยู่ในกระถาง แล้วขึ้นรถขับขี่หลบหนีไป ซึ่งพบว่าในคืนดังกล่าว ทางผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ได้ก่อเหตุถึง 2 จุด ที่อยู่ไม่ห่างกันมาก

ขณะที่ต่อมาในช่วงเช้าวันนี้ (7 ต.ค.65) ทางเจ้าของร้านได้ตื่นมาพบร่องรอยการก่อเหตุที่คนร้ายทิ้งไว้เป็นเศษดินและกระถางที่ถูกทิ้งไว้ กระจัดกระจายบริเวณหน้าร้าน ส่วนต้นกัญชาที่ปลูกไว้นั้น ถูกถอนไปทั้งราก ต่อมาทางเจ้าของร้านจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าร้าน และได้นำคลิปเหตุการณ์ที่ 2 หนุ่มวัยรุ่นก่อเหตุมาเผยแพร่ลงในเพจเฟสบุ๊ค “จอมทองรักคุณ” เพื่อขอเตือนให้วัยรุ่นทั้ง 2 คน ทราบและออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป รวมทั้งขอเบาะแสจากคนที่อาจทราบเบาะแสของวัยรุ่นทั้ง 2 คน ที่ก่อเหตุในครั้งนี้

จากการสอบถามทางด้านเจ้าของร้านที่เกิดเหตุทราบว่า ต้นกัญชาที่ถูกวัยรุ่นก่อเหตุขโมยไปนั้น เป็นต้นกัญชาสายพันธุ์นอก ที่ได้เพาะเมล็ดและปลูกเองมาตั้งแต่ช่วงที่มีการประกาศปลดล็อคกัญชา ราวๆ 3 เดือน โดยตนได้นำต้นกัญชาทั้งหมดจำนวน 9 ต้น มาปลูกลงในกระถางวางหน้าร้าน เพื่อประดับร้าน เพราะเห็นว่าเป็นต้นไม้ที่สามารถปลูกได้ไม่ผิดกฎหมาย แต่เช้าวันนี้ถึงกับตกใจเมื่อต้นกัญชาที่ปลูกไว้ถูกขโมยไป เหลือเพียงต้นเดียว นอกจากนี้ร้านที่อยู่ใกล้กันอีกร้าน ก็โดนขโมยไปในลักษณะเดียวกันอีก 4-5 ต้น และเมื่อตรวจสอบก็พบว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา มีวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มาก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตนยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ เพราะเห็นว่ายังเป็นวัยรุ่นและคาดว่าอาจจะยังเป็นเยาวชน จึงไม่อยากให้มีประวัติเสีย ซึ่งหลังจากที่มีการนำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ไปโพสต์ ก็มีผู้ปกครองของหนึ่งในผู้ก่อเหตุติดต่อมาแล้ว โดยตนก็จะให้โอกาสวัยรุ่นที่ก่อเหตุออกมารับผิดชอบ และเจรจาเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น หากชดใช้ก็จะไม่ติดใจเอาความดำเนินคดี เพราะคิดว่าสิ่งที่ผู้ก่อเหตุทำลงไปนั้น อาจจะเกิดจากความคึกคะนอง และอยากให้เป็นบทเรียนไม่อยากให้ไปทำลักษณะนี้อีก

ร่วมแสดงความคิดเห็น