เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 18 ต.ค.65 ทาง พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้รับรายงานว่ามีหนุ่มคลั่งเมาอาละวาดบุกทำร้ายชาวบ้านถึงในบ้าน โดยเหตุเกิดที่บ้านศิวิไล ม.14 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ทั้งนี้จึงได้สั่งการให้ทางสายตรวจรถยนต์ 20 นำกำลังเข้ารวบตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งในเวลาต่อมาก็สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทราบชื่อต่อมาคือนายณรงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนแก็ปยาวจำนวน 1 กระบอก ส่วนผู้ที่ถูกทำร้ายคือนายชาญ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี และนางศรีพร (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกผู้ก่อเหตุนำด้ามเสียมขนาดใหญ่ฟาดเข้าช่วงแขนและซี่โครง ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจจุดเชียงคำก็ได้นำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ส่ง รพ.เชียงคำในเวลาต่อมา และทางผู้บาดเจ็บก็ได้มาแจ้งความไว้ที่ สภ.เชียงคำเป็นที่เรียบร้อย
นายชาญ ได้เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนได้เห็นนายณรงค์ ผู้ก่อเหตุเดินไปเดินมาแถวบ้านของตนก่อน ซึ่งในทุกครั้งตัวผู้ก่อเหตุจะไปเฝ้าสวนยางพาราตลอดทั้งนี้ตนได้ตักเตือนในเรื่องของการนำรถจักรยานยนต์ของตนไปใช้โดยไม่ได้เติมน้ำมัน ซึ่งอาจจะทำให้ตัวของผู้ก่อเหตุไม่พอใจ และหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้เดินปรี่เข้ามาหาตนเองโดยมีทีท่าอาการเมาและเสียสติ ก่อนที่จะใช้เท้าถีบอกของตนอย่างแรงจนตนเองล้มกลิ้งไปกองกับพื้น ก่อนที่ตัวของผู้ก่อเหตุจะนำด้ามเสียมขนาดใหญ่มาฟาดใส่ตนเอง
ซึ่งตอนนั้นตนเองได้ใช้แขนซ้ายรับเอาไว้ทำให้ได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะมีคนแถวบ้านมาช่วยและได้รีบวิ่งออกไปหาทางนางศรีพรที่เปิดร้านค้าอยู่ไม่ไกลกับบ้านตนเอง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่วายผู้ก่อเหตุได้วิ่งตามและถือด้ามเสียมฟาดเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวาของตน อีกทั้งตัวของนางศรีพรก็โดยฟาดจนเป็นรอยช้ำด้วย ทั้งนี้ตัวผู้ก่อเหตุเป็นญาติกับตนแต่ด้วยสภาพครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางทำให้ตนต้องเลี้ยงดูอยู่ทุกวันนี้ และไม่นึกว่าตัวผู้ก่อเหตุเวลาเมามักจะอาละวาดทำร้ายชาวบ้านคนอื่นรวมทั้งตนเองด้วย อีกทั้งยังเคยที่จะขู่ฆ่ายกครัวมาแล้วทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัยยิ่งนัก ทั้งนี้ตนเองต้องขอขอบคุณทางตำรวจ สภ.เชียงคำที่สามารถเข้ามาจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว
ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมชาติ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์ 20 นำกำลังเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุโดยสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้อีกทั้งยังได้ของกลางเป็นอาวุธไทยประดิษฐ์(ปืนแก็ป)ยาว จำนวน 1 กระบอก ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุเคยมีประวัติเรื่องของครอบครองสิ่งเสพติดเมื่อเดือน ก.ย.64 ที่ผ่านมาซึ่งตนได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนร้อยเวร ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกทั้งยังจะพ่วงในเรื่อง พ.ร.บ.อาวุธปืนด้วย ส่วนในการแจ้งข้อกล่าวหานั้นจะต้องรอผลตรวจจกทาง รพ.เชียงคำก่อน ส่วนเรื่องสารเสพติดนั้นก็จะต้องนำตัวผู้ก่อเหตุส่งตรวจว่าพบสารเสพติดในร่างกายหรือไม่ ทั้งนี้ในเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนพร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่แน่นอน
ร่วมแสดงความคิดเห็น