เมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านแฮะ ม.5 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา หลังมีชาวบ้านร้องเรียนผ่านสื่อเข้ามาว่าพบแก๊งหลอกทาสีบ้านในพื้นที่ซึ่งสร้างความเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 หลังคา ทั้งนี้แก๊งดังกล่าวเคยสร้างความเสียหายในพื้นที่ของ ต.ออย อ.ปง จ.พะเยา เมื่อช่วงเดือนก่อนที่ผ่านมา โดยชาวบ้านแฮะต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสีที่ใช้ทานั้นไม่ได้คุณภาพซ้ำร้ายน้ำสียังย้อยเป็นทางเหมือนบ้านผีสิง

นายยูร มีสุข ชาวบ้านแฮะที่ได้รับความเสียหายในเรื่องนี้ได้เล่าว่า เมื่อตอนบ่ายของวันนี้ตนและภรรยาคือนางจันทร์ติ๊บ มีสุข ได้นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน จู่ ๆ ก็มีรถกระบะติดคอกมาจอดแล้วมีผู้หญิง 2 คนพาจาสำเนียงทางอีสานได้เข้ามาพูดคุยกับตนในเรื่องของการทาสีบ้าน ซึ่งทำทีว่าจะรับทาสีให้โดยคิดราคาอยู่ที่ 5,500 บาท ทั้งนี้ตนได้แปลกใจจึงได้โทรศัพท์เรียนลุกชายคนโตมาดูก่อนที่จะตกลงลดราคาเหลือประมาณ 3 พันบาท หลังจากนั้นผู้หญิงทั้ง 2 คนจึงได้ทำการลงมือทาสีโดยมีผู้ชายประมาณ 3 – 4 คนได้ขนถังสีลงมาจากรถ หลังจากที่ทำการทาสีเสร็จก็ได้มีการเรียกรับเงินอีกทั้งยังมีการขอข้าวสารจำนวน 1 ลิตรด้วย แล้วหลังจากที่กลุ่มนี้ได้ขับรถออกไปตนเองมาสำรวจดูบ้านก็ต้องตกใจเพราะสีที่ทานั้นเป็นสีฝุ่นผสมน้ำมันเครื่องเก่าอีกทั้งน้ำสียังย้อยเป็นทางดูไม่สวยงามด้วย ตนจึงได้โทรศัพท์อีกครั้งเรียกลุกชายคนเล็กซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมาดูก็ปรากฏว่าขณะนี้ตนเองได้ถูกหลอกอย่างแน่นอน โดยทางลูกชายที่เป็นผู้ใหญ่บ้านนั้นได้บอกกับตนว่ากลุ่มนี้เคยออกอาละวาดในพื้นที่ของ อ.ปงมาแล้วด้วย ทำให้ตนรู้สึกเสียดายเงินที่สูญเสียไปอีกทั้งบ้านก็ได้รับความเสียหายจากการทาสีครั้งนี้อย่างมาก
ด้านนายเฉลิมชัย มีสุข ผู้ใหญ่บ้านแฮะ ม.5 ได้กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากที่ตนได้ทราบข่าวก็ได้รีบมาดูและต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยก่อนหน้าตนเคยประชาสัมพันธ์ในเรื่องของแก๊งหลอกทาสีนี้ให้กับชาวบ้านมาแล้วและกลับกลายเป็นว่าบ้านพ่อของตัวเองกลับมาโดยเอง ทั้งนี้ตนได้ทำการสำรวจภายในหมู่บ้านก็พบว่าบ้านที่ได้รับความเสียหายนั้นไม่ต่ำกว่า 10 หลังคา โดยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ทั้งหลัง อีกทั้งผู้อาศัยยังเป็นผู้สูงอายุด้วย หลังจากนี้ตนจะได้ประชาสัมพันธ์ในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ให้กับลุกบ้านได้รับทราบต่อไป อีกทั้งจะควานหาตัวกลุ่มแก๊งนี้มาดำเนินคดีในเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้ ทั้งนี้ตนได้รายงานเรื่องราวนี้ให้กับนายอำเภอเชียงคำทราบแล้ว ทั้งนี้ได้หลักฐานรูปภาพมาแล้วรถที่ก่อเหตุเป็นรถกระบะวีโก้สีน้ำตาล ป้ายทะเบียน บม-2249 ร้อยเอ็ด โดยผู้ขับขี่เป็นชายวัยกลางคนนั่งหน้ารถ 2 คนและมีลูกน้องนั่งหลังกระบะประมาณ 4 – 5 คน
ล่าสุดนายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำได้ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและได้ประชาสัมพันธ์ในกลุ่มกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านของพื้นที่ อ.เชียงคำเพื่อให้รับทราบว่าขณะนี้มีแก๊งหลอกทาสีอาละวาดในพื้นที่ของ อ.เชียงคำแล้ว โดยให้ทุกพื้นที่รับทราบและพึงระวังบ้านที่มีผู้สูงอายุอายุโดยไม่มีลูกหลานมาเฝ้าดูแลซึ่งอาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้ง่ายเช่นกัน


















ร่วมแสดงความคิดเห็น