6090

มิจฯ อ้าง ฝอยขัดหม้อติดคอ หวังเรียกเงินจากร้านดัง

สารพัดวิธี มิจฉาชีพอ้างเป็นลูกค้ากินฝอยขัดหม้อขอเคลมค่ารักษาร้านอาหารชื่อดัง เผยก็อปภาพลูกค้าตัวจริงไปแอบอ้าง เจ้าของร้านเผยเกือบตกเป็นเหยื่อ ดีที่เจอพิรุธหลายอย่าง จากกรณีร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ “บี่เฮียงโภชนา-พายัพ” โพสต์ภาพและข้อความเตือนภัยลงในโลกโซเชี่ยล จากการที่มีมิจฉาชีพแอบอ้างตัวเป็นลูกค้า เข้ามาใช้บริการภายในร้านแล้วได้สั่งเมนู ข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ แล้วอ้างว่ามีเศษฝอยขัดหม้อติดคอ ทำให้เกิดอาการไอจามอีกทั้งมีเลือดปนออกมา จนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมกับติดต่อมาที่ร้านเรียกร้องขอให้ทางร้านรับผิดชอบค่าเสียหายเป็นเงินเยียวยาทั้งสิ้น 2,5000 บาท แต่หลังจากที่ทางร้านทำการตรวจสอบ พบพิรุทหลายอย่างทำให้ทราบว่าบุคคลดังกล่าวที่ติดต่อเข้ามาเป็นมิจฉาชีพ ทำให้บุคคลที่แอบอ้างนั้นบล็อคช่องทางติดต่อในเวลาต่อมา และได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโพสต์เตือนภัย อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีการก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ 0658455332 โทรศัพท์ไปแอบอ้าง ล่าสุดทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับทางเจ้าของร้าน ทรายชื่อคือ นายภณ วงค์สุวรรณ อายุ 32 ปี เจ้าของร้าน ได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.66) ได้มีบุคคลดังกล่าวเป็นหญิงสาว ติดต่อมาที่แอพพลิเคชันไลน์ของทางร้าน โดยเจ้าตัวอ้างว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้ามาใช้บริการที่ร้านเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา และได้สั่งเมนูอาหารเป็นข้าวหมูกรอบคั่วพริกเกลือ แต่ในเวลาต่อมา มีอาการไอจามเป็นเลือด และพบเศษฝอยขัดหม้อ โดยเจ้าตัวระบุว่าได้กลืนเข้าไปแล้วไอออกมา พร้อมกับอ้างว่าได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล อีกทั้งมีการเรียกร้องขอให้ทางร้านออกมารับผิดชอบโดยการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินจำนวน 2,500 บาท โดยในตอนแรกที่ตนทราบเรื่องก็ตกใจพร้อมกับสอบถามทางบุคคลดังกล่าวที่อ้างตัวเป็นลูกค้า ซึ่งในตอนแรกตนก็เกือบจะหลงเชื่อและโอนเงินไปให้ตามที่ทางบุคคลดังกล่าวเรียกร้องมา […]

กลุ่มผู้เสียหายขึ้นโรงพัก แจ้งความถูกท้าวแชร์สาวโกงเงิน

กลุ่มผู้เสียหายขึ้นโรงพัก แจ้งความถูกท้าวแชร์สาวโกงเงิน เผยตั้งลูกแชร์หน้าม้าเปียตัดหน้า ก่อนประกาศปิดวงแชร์หน้าตาเฉย คาดสูญเงินกว่า 200 ล้าน วันนี้ (2 มิ.ย.66) กลุ่มผู้เสียหายนำเอกสารหลักฐาน เข้าแจ้งความที่ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ ระบุว่าถูกสาวนักธุรกิจคนหนึ่ง อายุ 44 ปี โกงแชร์ทำให้ต้องสูญเงินไปคนละหลายล้านบาท รวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท และ มีผู้เสียหายกว่า 50 ราย โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า เมื่อประมาณกลางปี 2565 ได้มีคนรู้จักชักชวนปากต่อปากให้เล่นแชร์กับท้าวแชร์รายหนึ่งใน อ.สารภี ที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเป็นนักธุรกิจที่มีคนรู้จัก โดยแชร์ที่เปิดวงเล่นมีหลายแบบ ทั้ง รายวัน รายวันคู่-วันคี่ รายสิบวัน รายเดือน รวมแล้วกว่า 20 วง มีลูกแชร์รวมแล้วประมาณ 50 คน แต่ละคนลงเงินเล่นกัน ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นต่อวง และส่วนใหญ่จะเล่นกันครั้งละหลายวง ช่วงแรกก็มีคนใส่ดอกเปียแชร์ได้เงินตามปกติ แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา จู่ ๆ ท้าวแชร์ก็ประกาศยุบวงแชร์ทุกวง อ้างว่ามีลูกแชร์หลายคนไม่จ่ายเงิน เมื่อเจรจาก็บอกว่าจะคืนเงินต้นให้ […]

(มีคลิป) มิจฉาชีพหลอกกดลิงก์ ถอนเกลี้ยงเกือบแสน จาก 2 บัญชี

เตือนภัย อย่าเชื่อ อย่ากด อย่าโอน “มิจฉาชีพ” แก๊งดูดเงินหลอกผู้เสียหายจะคืนค่าประกันไฟฟ้า เหยื่อหลงเชื่อกดลิงก์ โดนถอนเกลี้ยงเกือบแสน จาก 2 บัญชีเหลือศูนย์บาท วันนี้ 13 พค.66 น.ส.วิชาดา อายุ 54 ปี อยู่บ้าน ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ผู้เสียหาย ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เมื่อวาน (12 พ.ค.2566 ) เวลาประมาณ 15.00 น.ได้มีบุคคลซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดได้โทรศัพท์มาหาตนทางสื่อออนไลน์ (Line) โดยได้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้บอกให้ตนเองว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะทำการคืนเงินค่าประกันหม้อมิเตอร์ไฟฟ้า เป็นเงินจำนวน 2,000 บาทให้ โดยได้พูดคุยกันสักพักบุคคลดังกล่าวได้ส่งลิงค์มาให้โหลดแอปของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำให้ตนหลงเชื่อ จึงได้โหลดแอปดังกล่าวฯ แล้วบุคคลดังกล่าวนี้ ได้สอบถามข้อมูลส่วนตัว หมายเลขประจำตัวประซาชน หมายเลขโทรศัพท์ เลขบัญชีธนาคาร จึงได้บอกไป บุคคลดังกล่าวฯ ให้ตนเองโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารอีกบัญชีหนึ่งของตัวเอง เพื่อให้ยอดเงินในบัญชีธนาคารแรกเป็น 0 (ศูนย์) ตามคำบอกของเขา เพื่อจะโอนเงินค่าประกันหม้อมิเตอร์ไฟฟ้ามาให้จะได้เช็คและเห็นตัวเลขได้ง่าย ตนเองจึงได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารกรุงไทย ไปยังธนาคารออมสิน […]

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย Kids Model หลอกผู้ปกครองปั้นลูกเป็นดารา

กลโกงของคนร้าย :1.มิจฉาชีพโฆษณาผ่านทางเฟสบุ๊กเชิญชวนผู้ปกครองส่งบุตรหลานเข้าคัดเลือกเป็นดารา.2.ผู้เสียหายหลงเชื่อส่งภาพและคลิปแสดงความสามารถของบุตรหลาน.3.มิจฉาชีพหลอกให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นและกดไลก์รูปเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเด็ก พร้อมโอนเงินจำนวนน้อยเป็นการมัดจำ โดยคนร้ายอ้างว่าเป็นการยืนยันว่าสนใจเข้าร่วมและเป็นการทดสอบระบบ จากนั้นจึงโอนเงินคืนผู้เสียหาย.4.ครั้งแรกได้รับเงินคืน ครั้งต่อมาให้ดำเนินการตามเดิมแต่มูลค่ายอดรวมสินค้าสูงขึ้น แต่ไม่ได้รับเงิน โดยอ้างว่ามิจฉาชีพแจ้งว่าระบบมีปัญหา ผิดเงื่อนไข โอนเงินคืนไม่ได้ข้อสังเกต :คนร้ายจะชักชวนและดำเนินการจนผู้เสียหายเชื่อใจ จากนั้นจึงทำการหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นจำนวนมากและแจ้งว่าทำผิดเงื่อนไข จึงไม่ได้รับเงินคืนไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอน“ตำรวจไซเบอร์ ให้ความรู้ รู้ทันความคิดมิจฉาชีพ” ช่องทางการติดต่อตลอด 24 ชั่วโมงปรึกษาหรือขอคำแนะนำ : โทร 1441 หรือ 081-866-3000 แจ้งความออนไลน์ : https://www.thaipoliceonline.com/ แชทบอทกับหมวดขวัญดาว : Line @police1441

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย เพจที่พักปลอมระบาดหนักในฤดูกาลท่องเที่ยว

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย เพจที่พักปลอมระบาดหนักในฤดูกาลท่องเที่ยว ก่อนโอนเงินตรวจสอบให้ดี พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย มิจฉาชีพสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอม โดยลอกเลียนแบบเพจที่พักจริงในพื้นที่สำคัญต่างๆ แอบอ้างเป็นเจ้าของที่พัก หรือแอดมินเพจหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินค่ามัดจำ ดังนี้ ได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบในระบบการรับแจ้งความออนไลน์ พบมีผู้เสียหายหลายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินค่ามัดจำที่พักก่อนเดินทางเข้าพักจริงในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เป็นต้น ซึ่งมิจฉาชีพจะใช้แผนประทุษกรรมหลักอยู่ 2 วิธี คือ วิธีที่หนึ่ง สร้างเพจเฟซบุ๊กที่พักปลอมขึ้นมา หรือใช้เพจเฟซบุ๊กเดิมที่มีผู้ติดตามอยู่แล้ว ตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อเพจให้เหมือนกับเพจจริง คัดลอกภาพโปรไฟล์ ภาพหน้าปก เนื้อหา และโปรโมชันต่างๆ จากเพจจริงมาใช้หลอกลวงผู้เสียหาย และใช้เทคนิคในการซื้อ หรือยิงโฆษณาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเพื่อที่จะสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น วิธีที่สอง ใช้บัญชีเฟซบุ๊กอวตารแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแนะนำโรงแรม หรือที่พักต่างๆ โพสต์ข้อความในลักษณะว่ามีที่พักหลุดจองราคาดี กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้ว ก็จะไม่สามารถติดต่อเพจนั้น หรือบัญชีอวตารนั้นได้ หรือกรณีที่แย่ที่สุดเมื่อผู้เสียหายเดินทางไปถึงที่พักจริงแล้ว กลับได้รับแจ้งว่าไม่ได้มีการจองที่พักมาแต่อย่างใด ทำให้นอกจากจะสูญเสียทรัพย์สิน เสียเวลาแล้ว ยังจะไม่มีที่เข้าพักอีกด้วย ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 238 ราย […]

เตือนภัย!! มิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell)

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยประชาชนอย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell)ฉวยโอกาสช่วงค่าไฟฟ้าแพงพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอเรียนประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน กรณีมิจฉาชีพเข้ามาแฝงตัวในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อหลอกลวงขายหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ดังนี้ได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) พบว่าเริ่มมีมีผู้เสียหายหลายรายทยอยเข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ หลักจากถูกมิจฉาชีพหลอกลวงขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) หรืออุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ให้กับเหยื่อผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายการอุปโภค และบริโภคจากการใช้ไฟฟ้าในรูปแบบของที่พักอาศัย โดยมิจฉาชีพได้ฉวยโอกาสในช่วงที่โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) กำลังเป็นที่นิยม และได้รับความสนใจในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน ใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มต่างๆ ที่มีการซื้อขายโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โพสต์ประกาศขายสินค้าดังกล่าวในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด ใช้รูปภาพที่คัดลอกมาจากช่องทางที่มีการซื้อจริง โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณต่างๆ และมีการเร่งรัดให้รีบตัดสินใจว่าสินค้าใกล้จะหมด และนอกจากนี้แล้วมิจฉาชีพยังใช้วิธีการสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาทั้งหมดเพื่อหลอกลวงขายสินค้าประเภทดังกล่าวอีกด้วยที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 16 เม.ย.66 พบว่าการหลอกลวงซื้อสินค้า หรือบริการ ยังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อ โดยได้แจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 1 จำนวนกว่า 85,395 เรื่อง หรือคิดเป็น 35.61% ของเรื่องที่มีการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,255 […]

ช่วยกันแชร์ ให้ญาติสนิทมิตรสหาย รู้ทันมิจฉาชีพ

เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ส่งข้อความสั้น (SMS) พร้อมโทรศัพท์ไปยังประชาชนแจ้งว่าจะคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า แล้วหลอกลวงให้แอดไลน์ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือโอนเงินออกจากบัญชี กรณีนี้เท่าที่ทราบ มีคนถูกหลอกเยอะเลยครับตอนนี้ส่วนใหญ่แจ้งความทางออนไลน์ มาเป็นจำนวนมาก ฝากช่วยกันแชร์ต่อไปยังญาติสนิทมิตรสหายให้มากๆ จะได้รู้เท่าทัน และไม่ตกเป็นเยื่อของมิจฉาชีพ

(มีคลิป) หนังคนละม้วน หนุ่มขอพื้นที่แจงความจริง “แอบเปลี่ยนทอง”

หนังคนละม้วน หนุ่มไปรษณีย์ขอพื้นที่สื่อแจงความจริงหลังถูกแม่ค้าร้องศูนย์ดำรงธรรมแอบเปลี่ยนสร้อยทอง ผมต่างหากถูกหลอก เผยชวนลงทุนทองแท้แต่กลับได้ทองปลอม พร้อมเปิดคลิปแม่ค้าบุกทำร้ายถึงที่ทำงาน หลังจากเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.66) นางสาวกรรณิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี อาชีพแม่ค้าขายอาหารและผลไม้ เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหลังถูกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แม่ริมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง โดยมีการกล่าวหาว่าแม่ค้าได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท ไปจำนำไว้เป็นเงิน 75,00 บาท แต่สุดท้ายกลับพบว่าเป็นทองปลอม โดยแม่ค้ายืนยันว่าได้นำสร้อยคอทองคำของจริงไปจำนำ แต่ถูกนำไปเปลี่ยนเป็นทองอีกเส้นหนึ่งโดยพลการ ล่าสุดในช่วงสายของวันนี้ (23 มี.ค.66) นายตรีเทพ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แม่ริม ที่ถูกอ้างถึงนำหลักฐานเข้าชี้แจงกับนายณัฐวุฒิ แก้วบัวระพา ปลัดอำเภอแม่ริม ระบุว่ารู้จักกับนางสาวกรรณิกามานาน โดยนางสาวกรรณิกาได้มาชักชวนให้ลงทุนรับจำนำทองเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 จึงได้รับจำนำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาทจากนางสาวกรรณิกาพร้อมกับโอนเงินให้ 75,000 บาท หลังจากนั้นก็ได้รับดอกเบี้ยเดือนละ 2,000 บาท โดยทองเส้นนี้เมื่อได้มาก็เก็บเอาไว้ที่บ้านตลอดและยืนยันว่าไม่ได้นำไปเปลี่ยนลาย ต่อมาระหว่างจำนำได้ขอยืมทองไปใช้เป็นของหมั้นในงานแต่งงานในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งนางสาวกรรณิกาก็รับทราบและบอกว่าเอาไปสิ เมื่อเสร็จพิธีก็ถอดเก็บไว้เหมือนเดิม หลังจากนั้นตนเองต้องการใช้เงินและอยากได้เงินที่ลงทุนคืน […]

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกอ้างทดลองงาน

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยมิจฉาชีพแฝงมาในรูปแบบบริษัทจัดหางานหลอกลวงให้ทำภารกิจอ้างทดลองงาน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอฝากเตือนภัยมิจฉาชีพโทรศัพท์ไปยังผู้เสียหาย แอบอ้างเป็นบริษัทที่เคยสมัครงาน หลอกลวงเหยื่อให้ทดลองงาน โดยการทำภารกิจออนไลน์ต่างๆ ดังนี้ ที่ผ่านมา บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่า ได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพซึ่งแอบอ้างเป็นพนักงานบริษัทที่ตนได้เคยกรอกข้อมูลหรือฝากประวัติส่วนตัว หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ และตำแหน่งที่สนใจไว้ผ่านเว็บไซต์หางานต่างๆ โดยมิจฉาชีพได้นำข้อมูลดังกล่าวมาสอบถามผู้เสียหายว่าสนใจสมัครงานในตำแหน่งนี้ใช่หรือไม่ หากใช่จะให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ของพนักงานบริษัท เพื่อทำการพูดคุยแจ้งลักษณะของงานให้ทราบ และจะต้องทดลองงานก่อนเป็นเวลา 3 วัน หากผ่านการทดลองงานแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปแจ้งสวัสดิการต่างๆ เช่น วัดหยุด โบนัสประจำปี เป็นต้น แต่ในช่วงทดลองงานมิจฉาชีพจะให้ผู้เสียหายโอนเงินส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายรายวันก่อนที่จะให้ทำภารกิจต่างๆ เริ่มจากการให้เข้าไปกดถูกใจ หรือกดไลก์บุคคลที่มีชื่อเสียง บันทึกภาพหน้าจอสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในขั้นตอนสุดท้ายมิจฉาชีพจะส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเพื่อไว้ทำภารกิจ กดรับออเดอร์สินค้าในราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่นบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ในช่วงแรกๆ ผู้เสียหายจะได้เงินคืนมาจริง แต่หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะออกอุบายต่างๆ เพื่อให้ทำภารกิจพิเศษ หลอกให้เหยื่อเติมเงิน หรือโอนเงินเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เหยื่อมักเสียดายเงินที่เคยโอนไปก่อนหน้านี้อยากได้เงินทั้งหมดคืน ก็หลงเชื่อโอนเงินไปเพิ่มอีกหลายครั้ง มิจฉาชีพก็จะมีข้ออ้างต่างๆ เช่น อ้างว่าทำผิดขั้นตอน หรือยอดเงินในระบบไม่เพียงพอ อ้างว่าเป็นค่าเอกสาร ค่าปิดบัญชี ค่าภาษี เป็นต้น นอกจากนี้ยังสร้างความน่าเชื่อถือโดยให้หน้าม้าในกลุ่มไลน์แสดงหลักฐานปลอมว่าตนได้รับเงินจริง กระทั่งเมื่อเหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงก็จะปิดการติดต่อหลบหนีไป จากสถิติศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ […]

บัญชีม้าพาซวย หนุ่มรับจ้างเปิดบัญชี สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท

“บัญชีม้าพาซวย สืบนครบาลรวบหนุ่มรับจ้างเปิดบัญชี 1,000 บาทให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ความเสียหาย กว่า 2 ล้านบาท ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี PCT ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปตรวจสอบ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเงิน หากตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด จะโอนเงินกลับคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ที่หมายเลขบัญชีเดียวกันรวมเป็นเงินจำนวน 1,170,000 บาท สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ผู้ต้องหารับว่าบัญชีดังกล่าวที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปก่อเหตุเป็นของตนจริง ได้รับค่าจ้างในการเปิดบัญชีธนาคารครั้งละ 1,000 บาท เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 16.20 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช […]

ตั้งกลุ่มไล่คนโกงตัวแม่! ‘นภาพร หรือหวาน’ ลำปลาทิว

ล่าคนโกงตัวแม่!! สืบนครบาล IDMB ตามรวบ ‘นภาพร หรือหวาน’ ลำปลาทิว ผู้เสียหายรวมตัวกว่า 600 คน ตั้งกลุ่มไล่ล่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกคนร้ายชื่อ “ นภาพร หรือหวานก่อเหตุโดยสร้างเฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ หลอกให้โอนเงินค่าสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงขนาดมีการรวมตัวกันกว่าหกร้อยคน ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก ชื่อ “จับคนโกง นภาพร-แสงจันทร์-ปนัดา-ปภัสสร-สุขใจ – napaporn sangjan” เพื่อรวมตัวกันแชร์ประสบการณ์ แนะวิธีการเก็บข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีเมื่อถูกก่อเหตุ ตลอดจนหาวิธีการช่องทางเพื่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้เสียหายที่รวมกลุ่มได้มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. เพื่อให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวซึ่งยังหลบหนีก่อเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 คนร้ายมีความคิดว่าถ้าโกงผู้เสียหายในจำนวนยอดเงินโกงไม่เกิน 2,000 บาท น่าจะไม่ค่อยมีผู้เสียหายติดตามดำเนินคดี มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท ประวัติอาชญากรรมสะอาด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 19.30 น. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ […]

เตือนภัย!! มิจฉาชีพล่าเหยื่อ 3 จว.หลอกสั่งซื้อเนื้อหมู

จากโพสต์ของผู้ใช้เฟสบุ๊กท่านหนึ่ง มีข้อความว่า🆘🆘ผู้ชายคนนี้เป็นมิจฉาชีพ เข้ามาสั่งหมูและเนื้อที่ร้านแม่เราที่ตลาดอัศวิน เป็นยอดเงินจำนวน 30,000 บาท โดยไม่ได้จ่ายมัดจำหรือให้เงินไว้แม้แต่บาทเดียว แจ้งว่าซื้อให้นักกีฬาของโรงเรียนกีฬาลำปาง และให้แม่นำไปส่งให้ที่สนามกีฬาจังหวัดลำปาง พอไปถึงไม่สามารถติดต่อเขาได้ หากท่านใดพบเห็นหรือเขาไปสั่งซื้อสินค้าใดๆ โปรดระวังด้วยนะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻 ทางผู้ใช้เฟซบุ๊กให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2566 ที่ผ่านมาได้มีชายรูปร่างอ้วนลักษณะที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ ใช้รถ จยย.เข้ามาสั่งซื้อหมูที่เขียงหมู ”เจ๊ขวัญ” แม่ของเธอในตลาดอัศวิน ในตัวเมืองลำปาง เป็นยอดเงิน 30,000 บาท โดยไม่นิดมัดจำ หรือ จ่ายเงินสดแม้แต่บาทเดียว อ้างว่าซื้อให้นักกีฬาลำปางและให้แม่ไปส่งให้ที่สนามกีฬาจังหวัดลำปาง พอหปถึงก็สามารถติดต่อเขาได้ และชายคนนั้นบอกว่าขณะนี้ไม่มีเงินสดติดตัว เงินสดอยู่ในธนาคาร และขอยืมเงินก่อน 3,000 บาทเพื่อนำไปซื้อผักแล้วจะจ่ายคืนให้ พร้อมกับค่าเนื้อหมู แต่แม่ไม่ให้บอกว่าไม่มีเงินสดเลย ต่อมาแม่ได้นำเนื้อหมูไปส่งให้ชายดังกล่าวที่สนามกีฬาจังหวัดลำปาง ไม่พบและติดต่อชายดังกล่าวไม่ได้ จึงมั่นใจว่าถูกหลอกเสียแล้ว จึงโพสต์เตือนภัยโปรดระวังไว้ด้วย ส่วนทาง เพจฮาลำพูน ทางสมาชิกได้แจ้งเหตุมีข้อความว่า ใครรู้จักผู้ชายคนนี้บ้าง ใส่แมสสีแดงรูปร่างอ้วน ผิวสีดำ พูดไทย เมื่อวานวันที่20 ก.พ. เข้ามาสั่งของในตลาดหนองดอก หลายเจ้า ทั้งหมู ไก่ ไข่แล้วก็สั่งล็อตเตอรี่เป็นจำนวนเงิน […]

1 2 3 4