Erotomania อาการมโนของคนแอบรักข้างเดียว ที่หลอกตัวเองว่าเขาก็รักเราเหมือนกัน
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดมาก ด้วยวิวัฒนาการนับล้านปี ทำให้มนุษย์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สามารถเอาชนะสัญชาตญาณของตัวเอง และเลือกที่จะใช้สติปัญญาในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมรอบข้างมาโดยตลอด

แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่ไม่ว่าอย่างไร มนุษย์ก็ไม่สามารถใช้สติสัมปชัญญะเอาชนะความรู้สึกได้อย่างสมบูรณ์เสียที นั่นก็คือ ‘ความรัก’
โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในอาการแอบรัก ผู้คนมักหลงใหลได้ปลื้มอย่างไม่ลืมหูลืมตา ดั่งคำที่ว่า ‘ความรักทำให้คนตาบอด’ คล้ายเมฆก้อนใหญ่ที่คอยบดบังเราจากความจริง จนบางทีเราก็จมอยู่กับความรู้สึกเหล่านั้น จนเผลอคิดเอาเองว่าคนที่เราแอบหลงรักก็อาจจะกำลังรักเราอยู่เช่นเดียวกัน
อาการดังกล่าวคือ อีโรโทเมเนีย (Erotomania) หรือชื่อเต็มว่า Erotomantic Delusional Disorder บัญญัติขึ้นโดยจิตแพทย์ชาวฝรั่งเศส ฌอง-เอเตียน เอส์คิโรล (Jean-Étienne Esquirol) เป็นอาการทางจิตที่พบเจอยากมาก โดยผู้ป่วยจะมีอาการทางจิต หลงคิดว่าใครคนใดคนหนึ่งกำลังรักตนเองอยู่อย่างโงหัวไม่ขึ้น แม้ว่าผู้ป่วยจะไม่เคยได้รู้จักคนคนนั้น หรือบุคคลดังกล่าวมีตัวตนจริงอยู่บนโลกเลยก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่บุคคลที่ผู้ป่วยคิดว่ารักตนเองนั้นมักจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ฐานะร่ำรวย หรือมีสถานะทางสังคมชั้นสูง

อาการหมกมุ่นคิดไปเองว่าคนอื่นกำลังรักตนนี้ ถูกจัดอยู่ในประเภทอาการประสาทหลอน (Delusional) ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยไม่เคยเจอกับคนคนนั้นเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ยังอาจหลงคิดอีกว่าคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบกันไม่กี่วินาทีกำลังตกหลุมรักตนได้เช่นเดียวกัน ทั้งยังเชื่อว่าคนที่กำลังตกหลุมรักตนกำลังพยายามส่งสัญญาณหรือข้อความอะไรบางอย่างแบบลับๆ มาให้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านทางคำพูดที่พูดผ่านสื่อ หรือแม้กระทั่งทางความคิดก็ตาม
ระยะเวลาของการป่วย Erotomania อาจเกิดขึ้นได้ยาวนาน โดยผู้ป่วยสามารถประสบอาการนี้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือนานเป็นเดือน หรืออาจจะต่อเนื่องไปเป็นสิบปีเลยก็ได้เช่นกัน
อาการหลักของผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงกับการเป็นโรค Erotomania มี 2 ประเภทคือ
1. Nonfatal violence หรือแบบไม่รุนแรง
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงประเภทนี้ จะหลงรักคนที่ตัวเองชื่นชอบในลักษณะของ ‘ไอดอล’ อาจเป็นศิลปินที่ชื่นชอบ หรือคนที่ให้แรงบันดาลใจกับตนก็ได้
2. Homicide หรือกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการแบบรุนแรง
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนี้จะหมกมุ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับคนคนนั้นจนเสียสมดุล ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยพยายามจะเข้าหา พบเจอ หรือสื่อสารกับคนที่ตัวเองชื่นชอบอยู่ตลอดเวลา หมกมุ่นกับการเสพสื่อที่เกี่ยวกับบุคคลนั้นอย่างเกินพอดี แม้กระทั่งรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของบุคคลนั้นอีกด้วย
.
ตัวอย่างอันโด่งดังของโรค Erotomania เคยมีให้เห็นมาไม่น้อย เช่นในปี 1995 ชายชื่อ โรเบิร์ต ฮอสกินส์ ที่มีอาการหมกมุ่นขั้นรุนแรงต่อนักร้องสาวชื่อดัง มาดอนนา เขาเชื่อว่ามาดอนนาถูกกำหนดให้เกิดมาเป็นภรรยาของเขา ฮอสกินส์พยายามปีนข้ามรั้วบ้านของมาดอนนาอยู่หลายครั้ง และข่มขู่เธออย่างรุนแรง เพื่อให้เธอเป็นภรรยาของเขา จนถูกแจ้งข้อหารุกล้ำความเป็นส่วนตัว และต้องโทษอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 10 ปี

ถึงแม้ว่าเรื่องราวของโรค Erotomania จะดูเหมือนเป็นอาการประสาทหลอนที่น่ากลัว แต่ถ้าสืบค้นกลับไปยังต้นตอซึ่งเป็นจุดอ่อนที่สุดของมนุษย์นั่นก็คือความรัก แต่แน่นอนว่าเราไม่ควรทุ่มเทให้กับความรักจนขาดสติ หากจงใช้ความรักนั้นอย่างพอดี ให้มันเป็นดั่งเมฆที่มอบร่มเงาให้เราในวันที่แสงแดดร้อนจ้า ขณะเดียวกัน ต้องไม่ลืมว่าสุดท้ายแล้ว เมฆหมอกแห่งความสุขเหล่านั้นก็ต้องพัดปลิวไปในสักวัน เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน
.
ที่มา:
– https://www.healthline.com/health/erotomania#case-examples
– https://www.webmd.com/mental-health/what-is-erotomania
ร่วมแสดงความคิดเห็น