26 ก.ค. 65 realnewsthailand รายงาน ข้อมูลจาก องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่าคนไทยบริโภคโซเดียม หรือ ‘เกลือ’ เฉลี่ยสูง โดยประชาชนในภาคใต้ บริโภคเกินสูงสุด รองลงมาคือ ภาคกลาง ภาคเหนือ กรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การบริโภคโซเดียมสูงเกินไปเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคไตเรื้อรัง WHO พร้อมแนะนำให้จำกัดการบริโภคโซเดียมในแต่ละวันให้น้อยกว่า 2,000 มก. เพื่อลดความเสี่ยงของโรค
ด้าน ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ สาขาวิชาโรคไต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล แนะเราช่วยเหลือไตได้ เพื่อให้กระบวนการกำจัดสารพิษทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ด้วย 5 ข้อนี้
1. เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- ผักและผลไม้สด
- ธัญพืชเต็มเมล็ดแทนธัญพืชที่ผ่านการขัดสีแล้ว
- อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูง เช่น ถั่ว ปลาที่มีไขมันสูง
- จำกัดการรับประทานเนื้อแดง และอาหารที่มีไขมันสูง
- หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูปประเภทเนื้อหมัก เนื้อกระป๋อง และมันฝรั่งทอด
- เกลือไม่เกิน 1 ช้อนชาต่อวัน และน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน
2. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
- ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วต่อวัน การดื่มน้ำช่วยสนับสนุนให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างราบรื่น กรองสารพิษออกจากเลือดและขับสารพิษทางปัสสาวะ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง หรือบรรดา soft drink ทั้งหลาย
3. ไม่สูบบุหรี่
- สารพิษที่อยู่ในบุหรี่จะเข้าไปในกระแสเลือด และส่งผลต่อหัวใจและไต คนสูบบุหรี่มีแนวโน้มที่จะตกอยู่ในภาวะไตวายมากถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่ไม่สูบบุหรี่
4. หลีกเลี่ยงการกินยาแก้ปวดต้านการอักเสบ
- โดยเฉพาะยาแก้ปวดต้านการอักเสบ ที่ต้องทานหลังอาหารทันทีมักมีพิษต่อไต และการทานยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะเร่งให้การทำงานของไตเสื่อมถอยลง
5. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ช่วยทำให้กระบวนการเผาผลาญทำงานดีขึ้น
- กระตุ้นการกำจัดของเสียที่สะสมในเลือด
- ช่วยควบคุมความดันโลหิต
ร่วมแสดงความคิดเห็น