ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ใต้ตาคล้ำให้ผลลัพธ์นานกี่เดือน ต้องฉีดบ่อยไหม?
ถ้าจะให้พูดถึงวิธีแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ มีร่องลึก ใครหลายๆคนก็คงจะนึกถึงการฉีด filler ใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และในบทความนี้เราจะมาให้เกร็ดความรู้กันว่าฟิลเลอร์ใต้ตานั้นคืออะไรและไขข้อสงสัยฟิลเลอร์ใต้ตาให้ผลลัพธ์นานกี่เดือน
ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำมีร่องลึกและริ้วรอยรอบดวงตา ด้วยกันฉีดสารเติมเต็มอย่าง Hyaluronic Acid (HA) โดยเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบสารในร่างกายมนุษย์ โดยสารตัวนี้หลังจากที่ถูกฉีดเข้าไปในร่างกายจะเข้าไปทำหน้าที่ทดแทนคอลลาเจนในชั้นผิวนั่นเอง แล้วด้วยความที่ฟิลเลอร์เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ จึงทำให้ปลอดภัยต่อร่างกายเพราะเมื่อเวลาผ่านไปสารฟิลเลอร์จะทำการสลายตัวไปเองโดยไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆ ไว้ในร่างกาย ในปัจจุบัน ฟิลเลอร์สามารถแบ่งออกได้ 2 แบบคือ แบบถาวรและแบบชั่วคราว โดยทั้งสองแบบจะมีจุดแตกต่างกันตามรายละเอียดด้านล่างนี้
1. ฟิลเลอร์แบบถาวร
ฟิลเลอร์ประเภทนี้ จะไม่สามารถสลายตัวไปเองในร่างกายของมนุษย์ เพราะไม่ได้ ถูกผลิตขึ้นโดยสารธรรมชาติ แต่จะใช้ซิลิโคนหรือ สิพลาสติกมาเป็นสารในการผลิตแทน ในปัจจุบันฟิลเลอร์ประเภทนี้ ไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากมีแพทย์ผิวหนังหลายๆท่านได้ออกมาชี้แจงว่าไม่แนะนำให้ฉีด
2. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว
ฟิลเลอร์ประเภทนี้ถูกผลิตขึ้นโดยสารสกัดจากธรรมชาติ ที่สามารถสลายไปได้เองในร่างกายของมนุษย์ จึงทำให้ปลอดภัย และมีผลข้างเคียงหลังฉีดค่อนข้างต่ำ ปัจจุบันฟิลเลอร์ประเภทนี้เป็นที่นิยมอย่างมากและมีให้ถึงเลือกหลายยี่ห้อด้วยกัน
ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไรบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสมือนเป็นการช่วยเติมเต็มสารคอลลาเจนให้แก่ผิว เพราะเมื่อเราเริ่มมีอายุที่มากขึ้น คอลลาเจนในผิวของเราก็จะลดน้อยลงซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่างๆ เช่น ปัญหาริ้วรอย ที่ผิวยุบลงเกิดเป็นปัญหาใต้ตาลึกหรือใต้ตาคล้ำขึ้นได้ เพราะตามหลักกลไกของร่างกายมนุษย์แล้ว เมื่อเริ่มเข้าสู่วัย 25 เป็นต้นไปร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจนได้เองลดลงอยู่ที่เฉลี่ยปี 1.5% ดังนั้นสารฟิลเลอร์จึงเข้าไปเป็นช่วยในการทำหน้าที่แทนคอลลาเจนเพื่อป้องกันปัญหาผิวต่างๆ ได้นั่นเอง
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วจะเห็นผลภายในกี่วัน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ ใช้เวลาในการรักษาและเห็นผลลัพธ์ ได้อย่างรวดเร็ว โดยระยะเวลาในการรักษาแต่ละครั้ง จะอยู่ที่ประมาณ 15-30 นาทีไม่รวมระยะเวลาในการปรึกษาแพทย์ ส่วนระยะเวลากันเห็นผลลัพธ์หลังฉีดจะสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดเลย แต่หากจะให้เห็ลผลที่ดีที่สุดอาจต้องใช้เวลาให้ตัวฟิลเลอร์เริ่มเข้าที่ประมาณ 7-14 วันหลังฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาให้ผลลัพธ์นานกี่เดือน
ด้วยความที่ปัจจุบันนี้ได้มีหลายบริษัทที่ผลิตตัวฟิลเลอร์ออกมาขายตามท้องตลาดอย่างมากมายจึงทำให้ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อต่างมีจุดเด่น และระยะเวลาการเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน แต่โดยมาตรฐานส่วนใหญ่แล้วฟิลเลอร์จะสามารถคงตัวอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวของผู้ฉีดอีกด้วย
แนะนำวิธีเลือกฟิลเลอร์ใต้ตา
ใครหลายคนก็คงจะพอทราบกันดีแล้วว่าฟิลเลอร์ที่มีขายตามท้องตลาดตอนนี้ ได้มีการแข่งขันกันในเรื่องของ การกดราคาที่สูงมาก จึงทำให้ฟิลเลอร์ของปลอมได้มีการถูกนำมาขายปะปนไปด้วย ซึ่งวิธีสังเกตฟิลเลอร์ของปลอม อย่างง่ายๆเลยก็คือตัวของราคา เพราะหากมีราคาที่ถูกจนผิดปกติ ก็สามารถสันนิษฐานได้เลยว่าอาจจะเป็นฟิลเลอร์ของปลอมนั่นเอง และนอกจากนั้นในบทความนี้ เราจะขอมา แนะนำวิธีการดูฟิลเลอร์ของแท้ว่ามีวิธีการเช็คการสังเกตได้อย่างไรบ้าง
วิธีการดูฟิลเลอร์ของแท้
– ฟิลเลอร์ของแท้จะต้องมีเลขทะเบียนอย. ที่กล่อง ซึ่งจะเป็นหมายเลขเดียวกันกับในเว็บไซต์ของทาง อย. ซึ่งหากไม่ตรงกันก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าไม่ใช่ของแท้
– ฟิลเลอร์ของแท้ทุกกล่องจะต้องมีเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ด้วยเสมอ ตามกฎหมายข้อบังคับของทาง อย.
– ฟิลเลอร์ของแท้ทุกกล่องจะต้องมีการระบุเลข Lot ที่กล่อง และเลขดังกล่าวจะต้องตรงกับเลขที่ติดอยู่ในขวดฟิลเลอร์ สามารถนำตัวเลขนี้ไปตรวจสอบกับทางบริษัทผู้นำเข้าได้ เพราะการจัดจำหน่ายวางขายฟิลเลอร์ในประเทศไทยของแต่ละยี่ห้อจะมีบริษัทผู้นำเข้าเพียง ยี่ห้อละหนึ่งบริษัทเท่านั้น
ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่แนะนำ
อย่างที่แจ้งไปทางด้านบนว่าในปัจจุบันนี้ได้มียี่ห้อฟิลเลอร์ที่ถูกวางขายอยู่หลายยี่ห้อด้วยกันเลยล่ะค่ะ แต่หากจะให้พูดถึงยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตาที่แนะนำจากมุมผู้ใช้งานจริงและแพทย์หลายๆคนก็คงจะมีอยู่ 2 ยี่ห้อด้วยกันนั่นก็คือ Restylane และ Juvederm
Restylane ฟิลเลอร์จากประเทศสวีเดนที่มี การผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี NASHA techology และ OBT technology ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ทำให้ตัวเนื้อฟิลเลอร์มีความใกล้เคียงกับสารในร่างของมนุษย์สูง นอกจากนั้นเนื้อฟิลเลอร์มีค่าความยืดหยุ่นสูงมากสามารถปั้นปรับรูปทรงต่างๆ จึงเด่นในเรื่องของการช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นและลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตาได้ดี โดยรุ่นที่เหมาะกับการใช้ฉีดบริเวณใต้ตามีอยู่ 2 รุ่นคือ Lidocaine และ Perlane มีอายุของการเห็นผลลัพธ์ประมาณ 12-18 เดือน
Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากประเทศอเมริกาจากบริษัท Allergan Aesthetics™ เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลกว่าเนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูงและช่วยเติมความชุ่มชื้นเพิ่มวอลลุ่มให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกรวมไปถึงปัญหาใต้ตาคล้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรุ่นที่เหมาะกับการฉีดบริเวณใต้ตาคือ Voluma, Volift และ Volite ที่มีอายุของการเห็นผลลัพธ์ประมาณ 12-18 เดือน
ช่วงอายุที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
จริงๆแล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นไม่ได้มีการกำหนดช่วงอายุวัย แต่ผู้ที่จะสามารถ เข้ารับการฉีดได้นั้นจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่
ด้วยความที่ในปัจจุบันนี้ได้มีหลายๆคลินิกเสริมความงาม ที่ออกมาแข่งขัน ในเรื่องของราคาการทำหัตการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงทำให้เรทราคาในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 10,000 บาทต่อ CC ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อและราคาค่าแพทย์และค่าบริการของคลินิก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจเกิดผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อยก็คือ อาการบวม อาการช้ำจากรอยเข็มซึ่งจะเป็นจะสามารถหายไปได้เองภายใน 2-3 วัน นอกจากนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ถือเป็นหัตถการความงามที่มีความเสี่ยงอยู่สูง เนื่องจากเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับดวงตามีเส้นเลือดและเส้นประสาทอยู่มาก จึงทำให้ต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงเป็นผู้ทำการฉีด
วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใกล้ตาจำเป็นจะต้องมีการงดทำกิจกรรมบางอย่างก่อน เพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียดเลือกแพทย์ผู้ฉีดที่มีประสบการณ์สูง
2. ก่อนทำการฉีดต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบถึงอาการของโรคประจำตัวและยาที่ทาอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงตัวยาที่แพ้อีกด้วย
3. งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีด 1 วัน
4. งดการทานยาแก้ปวด แอสไพริน วิตามินอีและอาหารเสริมก่อนการฉีด 1 วัน
5. ห้ามเลเซอร์ผิวก่อนฉีดเป็นเวลา 3-4 วัน
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งเลยนั่นก็คือการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งผู้เข้ารับการฉีดควรประพฤติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดและทำตามข้อห้ามดังต่อไปนี้
1. งดแต่งหน้าเป็นเวลา 12 ชั่วโมงหลังฉีด
2. หลีกเลี่ยงการแกะหรือเกาผิวบริเวณที่ฉีด และงดการขยับผิวในจุดนั้นให้ได้มากที่สุดอย่างน้อย 2-3วัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้
3. หลีกเลี่ยงอากาศและความร้อนทุกชนิด เช่น การอาบแดด ซาวน่า หรือทานอาหารหน้าเตาร้อนๆ เป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังฉีด
4. หลีกเลี่ยง การทานอาหารที่จะไปกระตุ้นอาการอักเสบของแผลได้ เช่น อาหารหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่
5. หากแพทย์มีการจ่ายยาอาทิเช่นยาฆ่าเชื้อ ควรรีบรับประทานตามคำแนะนำของแพทย์อย่างทันที
6. หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดสครับผิว ในบริเวณจุดที่ฉีดเป็นเวลา 1 สัปดาห์
7. ควรงดการ เลเซอร์ผิว นวดหน้าหรือทำทรีตเม้นท์หน้า ด้วยเครื่องยกกระชับ เช่น Ulthera, Thamageและ Hifu เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน หลังทำ
8. งดออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังฉีด
9. ควรดื่มน้ำให้มากๆ เพราะน้ำจะเป็นตัวกระตุ้นให้สารฟิลเลอร์สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น
สรุป การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นถือเป็นหัตถการความงามที่ ถูกพูดถึงกันอย่างมากในปัจจุบันเพราะเป็นวิธีแก้ปัญหา รอยคล้ำใต้ตา ร่องลึกใต้ตา และริ้วรอยรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นผู้ฉีด ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีผิวค่อนข้างบอบบางมีเส้นเลือดและเส้นประสาทอยู่มากที่หากแพทย์ผู้ฉีดไม่มี ความชำนาญมากพออาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาคลินิกสำหรับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ขอแนะนำกังนัมคลินิก เพราะเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้บริการและมีการใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้รับมาตรฐานอีกทั้งยังมีหลายสาขาโดยสามารถ เลือกใช้บริการในสาขาใกล้บ้านของคุณได้เลย สอบถามรายละเอียดการรักษาและค่าใช้จ่ายก่อนได้ที่ Gangnam Clinic : โทร. 090-665-3616, 098-269-7450 Line:@gangnamclinic

ร่วมแสดงความคิดเห็น