10 เหตุผล ที่บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ที่มี กำลังเป็นพิษ

ความสัมพันธ์ในชีวิตคนเรา เมื่อเป็นความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ จะช่วยส่งเสริมให้คนเรานั้นมีพลังใจ มีการพัฒนารอบด้าน เพราะดำรงอยู่ด้วยความเข้าอกเข้าใจ การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา มากกว่าการใช้อารมณ์ ที่จะแปรเปลี่ยนให้ความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะในครอบครัว เพื่อน สังคมที่ทำงาน หรือคนรักกัน เกิดเป็นพิษ หรือที่เราเรียกกันว่า ความสัมพันธ์แบบ Toxic relationship

เราจะรู้ได้ว่าความสัมพันธ์ของเรามันเป็นพิษก็คือตอนที่เรารู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยให้ตัวเองเลย อย่างเช่น ถ้าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ก็ไม่กล้าจะไป เพราะกลัวว่าแฟนจะหวงจนตามไปถึงที่ร้านแล้วเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้น หรือถ้าอยากแต่งตัวสวยๆแบบที่ชอบ แบบที่ตัวเองมั่นใจ แต่ก็กลัวว่าเพื่อนจะมอง เพื่อนจะตำหนิ เพื่อนจะแขวะหรือล้อเลียนว่าแต่งตัวอะไรมาเนี่ย รสนิยมแย่มาก หรือแต่งตัวไม่เข้ากับตัวเราเลย เป็นต้น เรื่องแบบนี้มีอยู่จริง ๆ ดังนั้นถ้าเรารู้สึกว่าเราไม่ปลอดภัยในความสัมพันธ์นี้ เราอาจจะต้องกลับมาทบทวนใหม่แล้วล่ะว่าเราจะเอายังไงต่อไป

เชียงใหม่นิวส์ชวนมาดู 10 เหตุผล ที่จะบอกได้ว่า ความสัมพันธ์แต่ละรูปแบบที่คุณมีอยู่ในตอนนี้ กำลังเป็นพิษต่อคุณอยู่หรือไม่?

1.ทะเลาะกันบ่อยแม้แต่เรื่องเล็กน้อย
การเป็นเพื่อน เป้นแฟน หรือแม้แต่คนในครอบครัวนั้น บางครั้งเรื่องเล็กน้อยเป้นเรื่องที่ควรปล่อยผ่านกันได้ แต่กลับเก้บมาทะเลาะ มางอน มาเป้นข้อโต้แย่ง หรือแม้แต่ความผิดพลาดในอดีตก็ขุดมาด่ากันตลอด มาตอกย้ำจนทำให้เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่จะพูดคุย เพราะไม่อยากจะทะเลาะกัน เป็นสิ่งที่ต้องเก้บมาคิด เพราะหากรักและเข้าใจกันจริง เรื่องเล็กน้อยที่มองข้ามไปได้ ก็ควรจะหยวนๆกันบ้าง อะไรที่ตึงเกินไป มักขาดลงได้ง่ายกว่า

2.รู้สึกเหมือนอยู่ลำพังเสมอ
หากมีครอบครัวแต่เหมือนมีคนอื่น มีคนรักแต่เหมือนโสด มีเพื่อนแต่เหมือนไม่มีใครให้คุยได้เลย แบบนี้อยู่คนเดียวก็ไม่ต่างอะไร หลายๆคนเจอเรื่องแบบนี้บ่อย เพื่อนมักคุยกันในกลุ่มในเรื่องที่เราไม่รู้ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเป็นส่วนเกิน ของกลุ่ม แฟนมักติดเพื่อนไม่ค่อยอยู่ข้างๆในวันที่ต้องการกำลังใจ หรือครอบครัวมักไม่โอบกอดเวลาที่มีเรื่องทุกข์ มีแต่กดดัน ซ้ำเติม ทำให้บ้านไม่มีความสุข เป้นที่พักใจไม่ได้

3.เป็นภาระ-ตัวถ่วงของกันและกันตลอดเวลา
ไม่เคยเลยที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างแต่ปัญหาเพิ่ม สร้างแต่ภาระเพิ่ม ในข้อนี้ทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงมาก เพราะอีกฝ่ายจะรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ เนื่องจากอีกฝ่ายไม่เคยนช่วยแก้ไขปัญหาอะไร แต่กลับทำตัวให้เป้นปัญหาเป็นภาระเพิ่ม เช่นในกรณีของการเป็นคนรักที่อยู่ร่วมกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหาเงินมาช่วยจุนเจือ แต่อีกฝ่ายเอาแต่ใช้เงินเกินตัว ไม่ช่วยหา แต่จะช่วยใช้อย่างเดียว

ในกรณีของเพื่อนกัน เอาแต่จะขอยืมเงิน แต่ไม่เคยใช้หนี้คืน คอยเอาเปรียบตลอดเวลา ขอให้ทำนั่นนี่ให้ฟรี ฉวยโอกาสจากเพื่อนตลอด หรือไปไหนก็ชอบอ้างไม่มีเงิน ขอให้เพื่อนเลี้ยง หรือจ่ายไปก่อนแล้วก็ตีหน้ามึนไม่ยอมจ่ายคืนเป็นต้น

4.ต่างฝ่ายต่างมองเห็นแต่ปัญหาของตัวเอง
ในข้อนี้ เข้าทำนอง “ปัญหาเราเท่าภูเขา ปัญหาเขาเท่าเส้นผม” คนที่เป็นพิษ จะมองว่าชีวิตตัวเองนั้นลำบากแล้ว แต่พอเห็นปัญหาคนอื่นจะมองว่าคนอื่นนั้นอ่อนแอ คิดมาก เมื่อปรึกษาหรือระบายปัญหา นอกจากจะไมไ่ด้แง่คิด หรือกำลังใจ พวกเขาเหล่านี้ยังจะเปรียบเทียบกับตัวเองแล้วสาดปัญหาตัวเองกลับคืนมาอีกต่างหาก

5.เอาแต่เรียกร้องจะรับ แต่ไม่เคยคิดจะให้
โดยส่วนมากมักเอาปมด้อยของตัวเองมาเป็นข้อเรียกร้อง ว่าชีวตฉันแย่ ครอบครัวไม่สมบูรณ์ บ้านลำบาก ฐานะยากจน แต่พฤติกรรมตรงกันข้าม ไม่ขวนขวาย ไม่ขยัน ไม่พยายามจะทำอะไรให้งอกเงย ไม่คิดจะฝึกฝนให้ตัวเองก้าวหน้า จะรอขอความช่วยเหลือ ร้องขอจากคนอื่นตลอดเวลา ชอบบ่นน้อยใจชีวิต บ่นอิจฉาคนอื่น ทำให้ตัวเองดูน่าสงสาร เพื่อจะได้รับความช่วยเหลือจนเคยชิน

6.ทำร้ายร่างกาย จิตใจกันและกันเสมอ
เวลาทะเลาะกัน ชอบใช้อารมณ์ ลงไม้ลงมือ พูดจาด้วยถ้อยคำรุนแรง หยาบคาย สาดอารมณ์ใส่ เพราะหวังให้ตัวเองนั้นเป้นผู้ชนะในการโต้เถียง ไม่ว่าจะผิดหรือถูก จะใช้อารมณ์ข่มอีกฝ่ายให้ต้องยอมเสมอ เพราะได้ใจหากอีกฝ่ายไม่ตอบโต้หรือเงียบไป จะคิดว่าอีกฝ่ายยอม หรือเกรงกลัว ก็จะยิ่งได้ใจ ใช้อารมณ์ต่อไปอีกในครั้งหน้า รวมถึงการโวยวาย ใช้คำพูดบั่นทอนจิตใจและกำลังใจในการใช้ชีวิตเวลาโมโหด้วย

7.ใช้เวลาด้วยกันน้อยกว่าคนอื่น
การอยู่ร่วมกันแต่กลับเห้นความสำคัญของอีกฝ่ายน้อยกว่าคนอื่น เกรงใจ ถนอมน้ำใจคนอื่นมากกว่าคนกันเอง เป้นอีกจุดที่ทำให้เกิดการแตกหักในความสัมพันธ์ได้อย่างง่ายดายในวันที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดความอดทนต่อพฤติกรรมดังกล่าว หรือเข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียวได้โดยไม่ต้องมีอีกฝ่ายแล้วก็ตาม

8.อิจฉาเมื่ออีกฝ่ายได้ดี ซ้ำเติมเมื่ออีกฝ่ายล้ม
คนที่รักและหวังดีต่อกัน ย่อมยินดีกับเราเมื่อเราประสบความสำเร็จ แม้เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย คนที่หวังดีและรักเรา ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟน จะไม่เอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับเรา หรือเอาเราไปเปรียบกับใคร พวกเขาจะเรียนรู้ว่าทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง แต่คนที่เป็นพิษ จะมองคนรักและเพื่อนตัวเองเป้นคู่แข่ง และจะอิจฉาริษยา เมื่ออีกฝ่ายนั้นได้ดีมากกว่าตัวเอง คิดวนแต่จะทำให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้ ยิ่งอีกฝ่ายมีทุกข์มากเท่าไหร่ คนพวกนี้จะทำทีเห้นอกเห้นใจแต่ในใจกำลังดีใจและสะใจที่เรานั้นตกต่ำกว่าเขา

9.มองไม่เห็นอนาคตร่วมกัน
ไม่ว่าจะวางแผนอนาคตอะไร คนพวกนี้จะไม่เคยสนับสนุน สิ่งที่ทำคือคอยขัด คอยตำหนิตเตียน คอยสร้างปัญหาให้เรื่อย ไม่เคยมีแง่คิดต่ออนาคต และไม่เคยวางแผนอนาคตของตัวเองด้วย มักใช้ชีวิตไปวันๆ และไม่เคยเรียนรู้ความผิดพลาดใดๆจากอดีต

10.พยายามฉุดกันลงต่ำ ไม่มีการพัฒนาตัวเอง
อย่างที่บอกว่าคนพวกนี้เห้นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ สิ่งที่เลือกทำมักเป็นวิธีที่จะทำลายคนอื่น เช่นทำลายกำลังใจ ชื่อเสียง อนาคต การงาน คนพวกนี้มักชอบนินทาว่าร้าย และใส่ไฟคนอื่นเก่ง เพราะสนุกที่ได้ทำลายคนอื่นให้ตกต่ำและรู้สึกว่าตนเองนั้นเป็นผู้ชนะ พวกเขาจะไม่พยายามพัฒนาตัวเองให้เท่าเทียมคนอื่น แต่มักเลือกใช้วิธีโง่เขลาเป้นทางลัดคือการทำลายมากกว่าการสร้าง

หากคุณกำลังเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ วิธีที่จะทำให้คุณหลุดพ้นจากความทุกข์ใจก็คือ “ตัดความสัมพันธ์ทิ้งไป” เพราะส่วนใหญ่ต่อให้มอบโอกาสให้พวกเขาแก้ตัว หรือคุณจะพยายามอดทนอยู่ร่วมกับเขาให้ได้ ก็ได้ประโยชน์ เสียเวลาเปล่า อีกทั้งคนพวกนี้จะทำให้คุณเหนื่อยล้ามากกว่าเดิมอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น