ไขข้อสงสัย เลเซอร์กำจัดขนต้องทำบ่อยแค่ไหน?

เลเซอร์กำจัดขนต้องทำบ่อยแค่ไหน? ทำกี่ครั้งขนจึงหลุดถาวร อันตรายต่อผิวหรือไม่ ?

ในปัจจุบันการเลเซอร์กำจัดขน เป็นวิธีที่หลายๆ คนนึกถึง ทั้งการทำเลเซอร์ขนขา ขนแขน ผิวใต้วงแขน หรือแทบจะทุกส่วนในร่างกายที่มีเส้นขนและคุณต้องการกำจัดออกไป เพราะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์คุ้มกับเงินที่จ่ายไป ลดปัญหาเรื่องขนกวนใจได้ในระยะยาว ซึ่งการเลเซอร์ขนหนวดนั้นมีหลากหลายวิธีให้เลือก จะมีแบบไหนบ้าง แบบไหนดีที่สุด มาทำความรู้จักแต่ละชนิดได้เลย

เลเซอร์กำจัดขนคืออะไร

เลเซอร์กำจัดขน (Hair Removal Laser) เป็นวิธีกำจัดขนโดยใช้พลังงานความร้อนจากแสงเลเซอร์เข้าไปทำลายรากขนบริเวณรากขนจะมีเม็ดสีหรือเซลล์สร้างสี ที่ชื่อว่า เมลาโนไซต์ (Melanocyte) เป็นตัวนำแสง หรือดูดพลังงานจากแสงเลเซอร์ จนเกิดเป็นความร้อนเพื่อทำลายรากขนโดยเฉพาะ หลังจากที่รากขนถูกทำลาย เส้นขนจะค่อยๆ ถูกดันให้หลุดออกจากผิวหนังภายใน 1-2 สัปดาห์ ทำให้ความหนาของขนที่ขึ้นอยู่แล้วบางลง ชะลอการเกิดขนเส้นใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความสม่ำเสมอให้กับสีผิว ลดการเกิดรอยด่างดำจากรูขุมขน รวมถึงปัญหาขนคุดจนทำให้ผิวไม่เรียบเนียน

เลเซอร์กำจัดขนมีกี่ชนิด 

การเลเซอร์ขนนั้นมีหลากหลายวิธีให้เลือก จะมีแบบไหนบ้าง มาทำความรู้จักแต่ละชนิดได้เลย

1.Alexandrite laser เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นช่วง 755 นาโนเมตร พลังงานที่ใช้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการกำจัดขนมากกว่าเครื่อง IPL โดยเป็นคลื่นเลเซอร์ที่ใช้ผลึกอเล็กแซนไดร์เป็นตัวกลางในการผลิตแสง จะทำงานโดยส่งแสงเลเซอร์ไปยังเส้นขนและรากขน เลเซอร์จะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเข้าไปทำลายรากขน พลังงานจะลงลึกตามแต่ละเส้นขน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังบริเวณใกล้เคียง หลังการทำเลเซอร์รากขนจะค่อยๆ หยุดการสร้างเส้นขนใหม่ ทำให้เส้นขนที่ขึ้นมาใหม่บางลง 

2.Diode laser เป็นเลเซอร์ที่มีระบบความเย็น มีหลากหลายความยาวคลื่น โดยในปัจจุบันที่นิยมใช้นั้นมีช่วงคลื่นความยาวตั้งแต่ 800-810nm, 940nm และ 1064-1350 nm ซึ่งเลเซอร์ประเภทนี้มีข้อดีตรงที่สามารถปรับความยาวของคลื่นให้เหมาะสมกับความเข้มของสีผิวและสีขนได้ ทำงานด้วยการไปจับเมลานินที่อยู่ในเส้นขน โดยลงไปได้ลึกถึงผิวหนังชั้นในส่วนลึก ทำให้รากขนถูกทำลาย ส่งผลให้เส้นขนที่เกิดใหม่เส้นบางและน้อยลง โดยเลเซอร์ Diode เหมาะกับบริเวณกว้างๆ อย่างขาและแขน ไม่เหมาะกับผิวหน้าหรือบริเวณที่ต้องการความละเอียด

3. IPL  เป็นการกำจัดขนโดยใช้คลื่นแสง ไม่จัดอยู่ในเลเซอร์ เนื่องจากไม่ใช่พลังงานเลเซอร์ เป็นเพียงแสงความเข้มสูงเท่านั้น คลื่นแสงจะทำให้เซลล์เม็ดสีในผิวดูดซึมพลังงานแสงและเปลี่ยนเป็นความร้อน ส่งผลให้สามารถกำจัดต่อมรากขนและป้องกันการเกิดขนบริเวณนั้นๆ  แม้จะสามารถทำลายรากขนได้ แต่ไม่สามารถทำลายได้ทั้งหมด ทำให้อาจยังหลงเหลือเส้นขนอยู่ ที่ผ่านมามีหลายเคสที่ผิวเกิดการไหม้หลังจากทำกำจัดขนด้วย IPL พบมากในผู้ที่มีผิวสีเข้ม ดังนั้นแพทย์ผิวหนังในคลินิกที่มีประสบการณ์ด้านการกำจัดขนด้วยเลเซอร์จะไม่แนะนำให้ใช้ IPL ในการกำจัดขน ซึ่งวิธีนี้คลื่นแสงจะมีการกระจายตัวมากกว่าเลเซอร์ ทำให้ผิวหนังบริเวณรอบได้รับผลกระทบไปด้วย 

4. Long Pulse ND YAG เป็นชนิดของเลเซอร์กำจัดขนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้อย่างตรงจุด เพราะมีความเข้มข้นของลำแสงสูงถึง 1,064 นาโนเมตร โดยจะปล่อยพลังงานในช่วงความถี่ที่สามารถทำลายรากขนโดยไม่ทำลายผิวหนังบริเวณข้างเคียงขณะยิงเลเซอร์ ซึ่งช่วงความยาวคลื่นนี้จะสามารถลงลึกไปในผิวหนังชั้นลึกได้ถึง 7 มิลลิเมตร ลงลึกถึงรากขน ความร้อนจะทำลายเซลล์รากขนและโครงสร้างของเส้นขน ทำให้เส้นขนค่อยๆ หลุดร่วง และช่วยหยุดการเกิดใหม่ของเส้นขน ส่งผลให้เส้นขนลดน้อยลง หรือเส้นขนที่เกิดใหม่จะบางลงมากๆ ทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้หมดจด และในขณะที่ทำจะมีแก๊สเย็นปล่อยออกมาเพื่อทำความเย็นให้กับผิวชั้นบนและปกป้องผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์ให้ปลอดภัย

การกำจัดขนด้วย Long Pulse ND YAG

การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ Long Pulse ND YAG เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง บริเวณที่นิยมใช้ Long Pulse ND YAG เช่น จุดที่ต้องเก็บรายละเอียดเล็กอย่าง ใบหน้า หนวดเครา และ รักแร้ แต่ก็มีการใช้สำหรับเลเซอร์ขา แขน เช่นกัน นอกจากนั้น Long Pulse ND YAG ยังเป็นเลเซอร์ช่วยให้ผิวขาวใส ยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และลดขนาดรูขุมขนอีกด้วย

หลักการทำงานของ Long Pulse Nd Yag 

Long Pulse ND YAG จะมีการปล่อยพลังงานในช่วงของความถี่ ที่สามารถเผาผลาญและช่วยทำลายเซลล์รากขน ที่เป็นแหล่งกำเนิดของเส้นขนโดยจะไม่มีการทำลายผิวหนังตรงบริเวณข้างเคียง ขณะทำเลเซอร์จะไม่รู้สึกเจ็บ เพราะมีลมเย็นเป่าเพื่อช่วยทำความเย็นให้กับผิวชั้นบน และช่วยปกป้องผิวด้านบนได้ มีโหมดกระตุ้นคอลลาเจนในผิวและลดการ สะสมของเม็ดสีเมลานินช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้ สามารถยิงโหมดผิวกระจ่างใสหลังการกำจัดขนเสร็จแล้วได้เลย

Long Pulse ND YAG เหมาะกับใครบ้าง

  1. คนที่ต้องการกำจัดขนออกไปอย่างถาวร
  2. คนที่กลัวความเจ็บหรือผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์กำจัดขน
  3. คนที่ไม่ต้องการกำดัดขนด้วยวิธีเดิมๆให้เสียเวลา
  4. เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวหนังเรียบเนียนกระจ่างใสอยู่ตลอดเวลาแบบไร้เส้นขน
  5. คนที่กังวลกับการเกิดปัญหาขนคุด ผิวหนังไก่
  6. คนที่มีผิวหนังแพ้ง่ายหรือต้องการกำจัดขนในจุดที่อ่อนโยน
  7. เหมาะกับผู้ที่ มีรูขุมขนกว้างจึงทำให้เกิดตุ่มสิว เพื่อช่วยกระชับ และช่วยการเกิดตุ่มสิวให้จางหายไป
  8. เหมาะกับผู้ต้องการเผยปิวที่เรียบเนียนไม่สะดุดเส้นขนด้วยการใส่เสื้อผ้าแขนกุด กางเกงขาสั้นหรือ กระโปรงตัวจิ๋วๆ 

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน

  1. ก่อนทำเลเซอร์ 1 สัปดาห์ ควรงดกิจกรรมที่ต้องตากแดดเป็นเวลานาน เช่น ว่ายน้ำ ไปทะเล หรือกีฬากลางแจ้ง
  2. ควรงดใช้ครีมหรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมเพิ่มความขาว เช่น AHA, วิตามิน A 
  3. สำหรับผู้ที่จะเลเซอร์ขนใต้วงแขน ควรหยุดใช้ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายทุกชนิด 
  4. หยุดการถอนหรือการแว็กซ์ขนด้วยตัวเองก่อน ปล่อยให้ขนขึ้นตามธรรมชาติ จนกว่าจะมาทำการเลเซอร์ขน 
  5. สำหรับสาวๆ ที่ทำเลเซอร์บิกินี่ ไม่ควรทำเลเซอร์ขนช่วงมีประจำเดือนนะคะ เพราะ จะเป็นช่วงที่ร่างกายของเราบอบบางและเซนซิทีฟ ทำให้เกิดการแพ้และระคายเคืองได้ง่ายค่ะ ควรเว้นไปช่วงหลังประจำเดือนหมดประมาณ 5-7 วัน

วิธีการดูแลผิวหลังทำ เลเซอร์กำจัดขน

  1. ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นประจําทุกวัน
  2. ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 15 เป็นอย่างน้อย
  3. ควรทําทรีทเม้นท์กลุ่มบํารุงผิวอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น นุ่มนวลและเรียบเนียนแก่ผิว
  4. หลังทําเลเซอร์สามารถแต่งหน้าและทํากิจกรรมได้ตามปกติ
  5. หากมีสะเก็ดเล็ก ๆ ห้ามแกะต้องปล่อยให้หลุดออกเอง
  6. หากมีขนขึ้นใหม่ หลีกเลี่ยงการโกนหรือแว๊ก เพราะทำให้ขนแข็งหรือเป็นขนคุด แนะนำให้กลับมาทำเลเซอร์ซ้ำหรือตัดเล็มให้ขนสั้นลง
  7. หากต้องการสครับผิว สามารถทำได้หลังเลเซอร์ไปแล้วสองสัปดาห์เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองของผิว

เลเซอร์กำจัดขนต้องทำบ่อยแค่ไหน

การเลเซอร์ขนเป็นการตัดวงจรการเกิดขน แนะนำให้ทำอย่างน้อย 5 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น  อีกทั้งยังช่วยทำให้ผิวหนังเรียบเนียน ลดรอยด่างดำให้ดูจางลง เหตุผลที่แนะนำให้ทำ 5 ครั้งขึ้นไปก็เพราะว่า ขนมีระยะการเกิด 4 ระดับ ในการยิงเลเซอร์จะต้องยิงให้ถึงระดับการเกิดขนขั้นต้น เพื่อลดวงจรการเกิดขนใหม่ เมื่อผ่านการยิงเลเซอร์ไปแล้วอย่างน้อย 5 ครั้ง ขนจะขึ้นช้าลงและเส้นบางลงอย่างเห็นได้ชัด หลังการเลเซอร์ครั้งแรก ควรมีการเว้นระยะห่างประมาณ 4 สัปดาห์ แล้วเลเซอร์ซ้ำ หลังจากนั้นสามารถเว้นห่างได้นานมากขึ้นแล้วแต่การขึ้นของขนในแต่ละบุคคล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำในการวางแผนการรักษา

ข้อดีของการทำเลเซอร์กำจัดขน

  1. ช่วยให้ผิวหนังบริเวณที่ทำเนียนนุ่มขึ้น
  2. ช่วยทำให้ขนที่ขึ้นใหม่ก็จะมีสีที่อ่อนลงและบางลง
  3. ช่วยทำให้ขนคุดลดลงได้ โดยไม่มีอาการเจ็บหรือผิวหนังอักเสบบวมแดงตามมาได้
  4. ช่วยทำให้ผิวพรรณ เปล่งปลั่ง กระจ่างใสขึ้น
  5. ช่วยทำให้รูขุมขนมีกระชับ เต่งตึงขึ้น

เลเซอร์ขนอันตรายมั้ย?

Long Pulse Nd Yag เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง มีความอ่อนโยนต่อผิวหนัง ไม่มีการทิ้งรอยไหม้ หรือรอยแผลเป็น ไม่มีผลข้างเคียงที่อันตรายต่อผิว สามารถทำซ้ำต่อเนื่องได้ ที่พบได้บ่อยที่สุดคือการระคายเคืองของผิวหนัง มีอาการบวมและแดงหลังการทำ จะดีขึ้นเมื่อผ่านไปหลาย ๆ ชั่วโมงบางรายอาจพบว่าสีผิวบริเวณที่ถูกแสงเลเซอร์เข้มขึ้นหรืออ่อนลง โดยมักเกิดกับผู้ที่มีผิวสีเข้ม หรือบางรายแผลพุพองหรือสะเก็ดแข็งบนผิวหนัง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาถึง 10 วันจึงจะหาย 

สรุป

เพียงเท่านี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าเลเซอร์กำจัดขนแบบไหนดีสุดและเหมาะกับผิว และความต้องการของเรามากที่สุด แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้เลเซอร์ประเภทไหนก็อย่าลืมติดต่อใช้บริการกับคลินิกที่มีประสบการณ์ และมีความน่าเชื่อถือ การเลเซอร์ขนด้วย long pulse nd yag Laser จะทำให้ปัญหานั้นหมดไปอย่างถาวร ไม่เจ็บตัว ไม่เกิดผลข้างเคียง และยังทำให้รูขุมขนกระชับผิวหน้าสว่างกระจ่างใสด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น