ชาวนาเจียงใหม่น้ำตาตกขายข้าวนึ่งได้กิโล 9 บาท…

ชาวนาหลายอำเภอในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นเรื่องเจรจากับนายวีรพงษ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวเหนียวสันป่าตองส่งขายได้แค่กิโลกรัมละ 9 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 14 บาท

ด้านอธิบดีกรมการค้าภายในบอกว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำชับให้แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

เบื้องต้นได้มีการเปิดจุดรับซื้อใน 7 จังหวัดได้แก่ เชียงราย, เชียงใหม่, แพร่, น่าน, พะเยา, ลำพูน, ลำปาง จำนวน 16 จุด พร้อมกับประสานสหกรณ์โรงสีและผู้รับซื้อจากนอกพื้นที่ให้ช่วยซื้อ โดยช่วยค่าบริการการจัดการค่าขนส่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถพยุงราคาข้าวเปลือกเหนียวใหม่ได้

ส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ กรมการค้าภายในจะทำแผนเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ให้กรมบังคับภายในการเปิดจุดรับซื้อถ้ามีความจำเป็นก็พร้อมที่จะเชื่อมโยงผู้ซื้อในต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มเติม เช่น ชัยนาท, พิจิตรและสิงห์บุรี

ราคาข้าวเปลือกเหนียวในตอนนี้ทางอธิบดีกรมการค้าภายในบอกว่ายังถือว่าไม่ต่ำกว่าช่วงปีที่ผ่านมาและจากการลงพื้นที่ติดตามการเปิดจุดรับซื้อข้าวเหนียวพบว่าชาวนานั้นเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกเหนียวปี 2566 – 2567 ออกสู่ตลาดผลผลิตข้าวเหนียวในภาพรวมปีนี้มีอยู่ 5.85 ล้านตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 4% แต่ผลผลิตกระจุกตัวในช่วง ตุลาคม – ธันวาคม มากถึง 80% 

ถ้าดูแล้วในภาพรวมทางภาคเหนือก็จะมีผลผลิต 1.46 ล้านตันมากที่สุดคือ เชียงราย 0.43 ล้านตันเชียงใหม่ 0.20 ล้านตัน ส่วนสถานการณ์ด้านราคาปีนี้ถือว่าข้าวเปลือกเหนียวที่เกษตรกรได้รับอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด เฉลี่ยปีนี้ราคาข้าวเปลือกเหนียวแห้ง 12,800 บาทต่อตัน เดือนกันยายนสูงถึง 15,300 บาทต่อตัน

แต่จากการที่ผลผลิตออกกระจุกตัวในช่วงนี้ทำให้ราคามีแนวโน้มเริ่มต่ำลง ข้าวเปลือกเกี่ยวสดอยู่ที่ 9,300 บาท ถึง 9,500 บาทตามคุณภาพข้าวที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวแต่ก็ยืนยันว่ายังไม่ใช่ราคาที่ถือว่าต่ำกว่าปีที่ผ่านมา

จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองที่ครบกำหนดอายุเก็บเกี่ยวจนเหลืองอร่ามครบกำหนดอายุที่ต้องเก็บเกี่ยวเต็มทุ่งนา ส่งผลให้ชาวนาในพื้นจังหวัดเชียงใหม่ เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตประเด็นหลัก คือ ราคาไม่แน่นอนไม่สามารถคำนวณราคาต้นทุนการผลิตได้ นั้นทำให้กลุ่มชาวนา จังหวัดเชียงใหม่ พยายามเรียกร้องขอให้กรมการค้าภายในและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยมาแก้ไข

ขณะที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ใช้พื้นที่สหกรณ์การเกษตรแม่ริมเป็น หนึ่ง ใน 3 จุดรับซื้อข้าวเหนียวสันป่าตองจากเกษตรกรแต่ก็ไม่สามารถช่วยเกษตรกรได้มากนัก เนื่องจากราคารับซื้อยังต้องอิงกับโรงสีตามกลไกตลาด

จากการลงพื้นที่พบว่าชาวนาในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองเนื่องจากเกรงว่าราคาข้าวจะตกลงไปมากกว่าตอนนี้  ชาวนาบอกว่าสาเหตุที่ต้องเร่งเก็บเกี่ยวเนื่องจากไม่มั่นใจเรื่องราคา ถ้าราคาถูกกว่านี้จะยิ่งขาดทุนและข้าวก็ถึงเวลาที่จะต้องเก็บเกี่ยวแล้วถ้าเกี่ยวช้ากว่านี้ก็จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพ สภาพอากาศที่แปรปรวนหากเกิดฝนตกลงมาอีกก็จะยิ่งทำให้ผลผลิตเสียหาย

ประเด็นหลักคือราคาไม่แน่นอน เราไม่สามารถคำนวณราคาหรือพยุงราคาหรือประวิงราคาไม่ให้ขึ้นลงได้มันอยู่ที่นายทุนทั้งนั้นอีกอย่างก็คือระยะเวลาเก็บเกี่ยวต้องเกี่ยว แล้วการเปิดจุดรับซื้อไม่ช่วยอะไรเลย จุดรับซื้อเป็นของราชการทำงานในรูปแบบราชการวิธีการซื้อค่อนข้างจะยุ่งยาก พอเยอะวิธีการดังกล่าวก็เป็นข้ออ้างของผู้รับซื้อในการที่จะกดราคาลงมาอีก  โดยเฉพาะข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงราคารับซื้อล่าสุดถ้ามีความชื้น 25% อยู่ที่กิโลกรัมละ 9 บาท 70 สตางค์แต่ถ้าชื้นมากไปกว่านี้ราคาก็จะถูกลงไปอีก ทำให้ชาวนาประสบปัญหาขาดทุนเพราะมีต้นทุนการผลิตสูง

วิธีการแก้ไขหรือว่าทำให้ราคาเพิ่มขึ้นต้องเพิ่มเรื่องของความต้องการในการบริโภคด้วยหรือไม่ ถ้ามีอุปสงค์มากขึ้นความต้องการมากขึ้นก็อาจจะทำให้ราคาข้าวเหนียวปรับสูงขึ้น

แต่ที่ผ่านมาถ้าไปดูตัวเลขของการส่งออกข้าวไปต่างประเทศจริงๆก็ต้องยอมรับว่าเทียบไม่ได้ถ้าเทียบกับข้าวหอมมะลิหรือข้าวสารชนิดอื่นๆ ตัวเลขของปีที่แล้วคิดเป็นสัดส่วนประมาณแค่ 2% กว่าๆ เท่านั้นเอง

ดังนั้นถือว่าเป็นโจทก์ที่สำคัญสำหรับรัฐบาลว่าจะทำอย่างไร ราคาข้าวเหนียวถึงจะเพิ่มสูงขึ้น อาจจะต้องนำไปต่อยอดแปรรูปหรือเปล่าหรือว่ากระตุ้นการบริโภคภายในประเทศด้วยหรือไม่ เพราะจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้ชาวนาบอกว่ารอบฤดูการผลิตรอบหน้าไม่อยากจะปลูกข้าวเหนียวแล้วเพราะว่าปลูกไปก็ราคาตกต่ำมันก็จะมีผลต่อเนื่อง เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นรอบต่อไปหากชาวนาปลูกน้อยลงรอบต่อไปผลผลิตก็จะน้อยลงข้าวเหนียวที่มีอยู่มันก็จะแพงขึ้น และส่งผลกระทบโดยตรงต่อเราซึ่งอยู่ในฐานะของผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

อ่านข่าวเพิ่มเติม :

ทิศทางราคาข้าวตลาดโลก ปี 2023 – 2024 มีความเสี่ยงพุ่งสูง?

ร่วมแสดงความคิดเห็น