ราคาทองคำสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ปิดตลาดคืนวันศุกร์ 1,937 ดอลลาร์ ลดลง 20 ดอลลาร์ ตลอดทั้งสัปดาห์ลดลง 54 ดอลลาร์ หรือว่าลดลง 2.7%
หลังจากที่ประธานเฟด และเจ้าหน้าที่เฟด แถลงว่าเฟดอาจจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อแล้วก็ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาไตรมาส 3 ยังแข็งแกร่งอยู่ ถือว่าเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในสัปดาห์ที่แล้ว
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น บอนด์ยิวปรับตัวเพิ่มขึ้น ดอลลาร์อินเด็กซ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 105 จุด ในช่วงต้นสัปดาห์เป็น 106 จุด อายุ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 % อายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะที่4.5%
ส่วนปัจจัยทางด้านเทคนิคเป็นขาลงหลังจากที่กราฟแท่งเทียนจับสัญญาณที่เรียกว่าเป็นอีกา 3 ตัว ก็เป็นการส่งสัญญาณว่าราคาทองคำเป็นขาลงทำให้มีแรงเทขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกองทุน SPDR สัปดาห์ที่แล้วเข้ามาซื้อทองคำเป็นสัปดาห์ที่ 2 แต่ว่าไม่ได้มาก ชื้อที่ 4.9 ตัน
สัปดาห์นี้ประเด็นหลักที่ต้องติดตามมี 2 ประเด็น อัตราเงินเฟ้อสหรัฐแล้วก็ข้อมูลเศรษฐกิจของจีน วันอังคาร สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลข ดัชดีผู้บริโภค หรือว่า ซีพีไอ(CPI) เดือนตุลาคมตลาดประเมินว่าตัวเลขนั้นอาจจะชะลอตัวลง เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 3.7%
ส่วนวันพุธ ตัวเลขดัชนี เดือน ตุลาคม ตลาดประเมินว่าน่าจะชะลอตัวลงแต่ว่าจะต้องติดตามต่อไป แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคเป็นขาลงอยู่แต่ก็ประเมินว่าถ้าเกิดตรงไปแรงน่าจะมีการรีบาวน์ ทางเทคนิคแล้ว แล้วก็ปัจจัยพื้นฐานเองถ้าเกิดตัวเลขเงินเฟ้อของอเมริกาเริ่มชะลอตัวลงในเดือนตุลาคมน่าจะเป็นปัจจัยหนุนทองคำได้
ทองคำแนวรับ 1,933 ดอลลาร์ และ 1,922 ดอลลาร์
แนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ และ 1,960 ดอลลาร์
อ่านข่าวเพิ่มเติม : ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566
สำหรับราคาทองแท่งขายออกของสมาคมวันเสาร์ 33,100 บาทลดลง 100 บาท
แนวรับ 33,000 บาท และ 32,850 บาท
แนวต้าน 33,200 บาท และ 33,300 บาท
สำหรับคำแนะนำการลงทุนของแท่ง ถ้ามีอยู่ก็ขายออกไปถ้าเกิดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นก็เป็นจังหวะที่ให้เราขายออกไปก่อนดีกว่า
ส่วนโกลด์ฟิวเจอร์แนะนำเปิดช็อตที่ประมาณ 1,960 ดอลลาร์ คัทลอส 1,970 ดอลลาร์
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์เปิดฝั่งขาย 1,980 ดอลลาร์ คัทลอส 1,990 ดอลลาร์
สำหรับเงินบาทสัปดาห์ที่แล้วกลายเป็นกลับมาอ่อนค่าลง 50 สตางค์ ก็ช่วยหนุนราคาทองแท่งให้กลับมายืนเหนือ 33,000 บาทได้ หลังจากที่เงินดอลลาร์เนี่ยแข็งค่าขึ้นก็เลยเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง
เงินบาทคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 35 บาท 60 สตางค์ ถึงประมาณ 36 บาท 10 สตางค์
ส่วนยูเอสดีฟิวเจอร์คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35 บาท 45 สตางค์ ถึงประมาณ 35 บาท 90 สตางค์
เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงทิศทางการลงทุนในยูเอสดีฟิวเจอร์ก็ปรับตัวลงเข้าซื้อได้ ประมาณแนวรับที่ 35 บาท 45 สตางค์ เข้าซื้อได้
ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการลงทุน
เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ
ร่วมแสดงความคิดเห็น