นอภ.สันทราย สั่งทุกตำบลเข้มงวดป้องกันระเบิด-ไฟไหม้ ขึ้นอีก

วันพฤหัสบดี ที่ 16 พ.ย.2566 นายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภอสันทราย จ.เชียงใหม่ มี หนังสือสั่งการด่วน ไปทุกตำบลในอำเภอสันทราย มีข้อความดังนี้

เรื่อง มาตรการในการป้องกันมีให้เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่เกิดจากวัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิง

เรียน นายกเทศมนตรีเมืองแม่โจ้ นายกเทศมนตรีตำบล ทุกแห่ง กำนัน ทุกตำบล และผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้าน
สิ่งที่ส่งมาด้วย

สำเนาหนังสือจังหวัดเชียงใหม่ ด่วนที่สุด ที่ ชม 1418.ว 1655
ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566
จำนวน 1ฉบับ
ด้วยอำเภอสันทรายได้รับแจ้งจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า ได้แจ้งกำชับให้นายทะเบียนท้องที่กวดขัน
การปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรการการเก็บรักษาดอกไม้เพลิง และมาตรการด้านความปลอดภัยในการป้องกัน
มีให้เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่เกิดจากวัตถุระเบิดและดอกไม้เพลิง ความละเอียดแจ้งแล้ว


เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ได้เกิดเหตุดอกไม้เพลิงระเบิดขึ้น ณ บริเวณบ้านเลขที่ 60
หมู่ที่ 1 หมู่บ้านมืองขอน ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ 1 คน และก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายและรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อำเภอสันทราย จึงขอให้องค์กรปกครอส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการ ดังนี้



1. ตรวจสอบอาคารสถานที่เก็บ ทำ หรือค้าดอกไม้เพลิงของผู้ได้รับใบอนุญาตทุกราย โดยให้เน้นย้ำ
แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการ/เจ้าของสถานที่ ปฏิบัติตามมาตรการการเก็บรักษาดอกไม้เพลิง ที่เกี่ยวซ้องอย่างเคร่งครัด และหากปรากฏว่าอาคารสถานที่ดังกล่าวอาจเป็นอันตรายแก่ประชาชน ให้พิจารณาสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตจัดการตามความจำเป็น หรือสั่งให้ย้ายสถานที่นั้นเสีย ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490



2. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันกับ
ตำรวจ ในการตรวจตราสถานที่ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยตรวจสอบมิให้มีการลักลอบทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง นำเข้า ค้าจำหน่ายด้วยประการใดๆ ซึ่งวัตถุระเบิด รวมถึงการทำ สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง โดยไม่
จากนายทะเบียนท้องที่ โดยเด็ดขาด และหากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการแจ้งความ ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



3. ทั้งนี้ หากปรากฎเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวขึ้นอีก ถือเป็นความรับผิดชอบของพื้นที่
ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายและการป้องกัน ปราบปรามการกระทำความผิด เพื่อพิจารณามาตรการทางการบริหารและทางวินัยต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น