ตามหาคนหาย! หนุ่มพึ่งบวชหน้าไฟเสร็จหลอนเจอผีหายตัวจากแคมป์คนงาน

จากกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯลำพูน ได้ระดมค้นหาผู้สูญหายบริเวณลำแม่น้ำกวง บ้านวังไฮ ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน เนื่องจากมีหนุ่มไซต์งานก่อสร้างริมน้ำกวง หายตัวออกจากแคมป์คนงานที่แม่น้ำกวงลำพูน

นางปริญดา อายุ 50 ปี แฟนผู้สูญหาย ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า นายกิตติธัช อายุ 29 ปี ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นายบิวได้เดินทางไปร่วมงานศพคุณตาที่จังหวัดศรีสะเกษบ้านเกิด และได้บวชหน้าไฟให้คุณตา แล้วกลับมาที่ลำพูนวันที่ 8 สิงหาคม 2567 จากนั้นได้ดื่มเหล้ากับเพื่อนที่ไซต์งาน หลังดื่มเหล้าเสร็จได้มีอาการเพี้ยน หลอน และมีอาการเดินไปเดินมาจนเพื่อนในที่ไซต์งานก่อสร้างไม่ได้นอนกันทั้งคืน ตนจึงได้ถามว่าเป็นอะไรเกิดอะไรขึ้น นายบิว จึงเล่าให้ตนว่าเห็นเณรนั่งอยู่ข้างบน และเห็นญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ มาอยู่กับตนที่แคมป์คนงานที่นี่ ตนก็ไม่ได้คิดอะไรคิดแค่ว่าเขาอาจจะเพ้อเหล้า

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 อาการเพ้อของนายบิวยังไม่หายไป เพ้อพนมมือกราบไหว้และบอกกับตนว่าเขาจะไปแล้วนะ แล้วบอกให้ตนดูแลตัวเองดี ๆ และได้สั่งเสียว่า ถ้านายบิวตายไม่ต้องอาบน้ำแล้วนะ เพราะในวันเดียวกันนายบิวได้อาบน้ำแล้ว 3 รอบ นายบิวบอกให้ตนว่าถ้าตายไปเอาใส่โลงศพเลยไม่ให้อาบน้ำให้ และตอนดึกในวันเดียวกัน อาการเพ้อของนายบิวเริ่มออกตัว

สั่นกลัว ตนจึงพานายบิวไปนอน เวลาประมาณเที่ยงคืนนายบิวก็นอนหลับไปแล้ว ตนจึงนอนหลับไปด้วย ต่อมาในเวลา 03.00 น.ของวันที่ 10 สิงหาคม 2567 ตนได้ตื่นมาแต่ไม่เห็นนายบิวแล้ว คงคิดว่าในบิวออกไปปัสสาวะ จึงได้เปิดไฟฉายตามเรียกหาแต่ไม่เจอตัว

ตนจึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อช่วยออกตามหาในตอนเช้า เพราะเจ้าหน้าที่มาถึงพบแค่รอยเท้าประมาณ 4-5 รอย บนริมฝั่งแม่น้ำจนถึงเดินลงน้ำ แต่ตนยังไม่ได้ปักใจเชื่อว่าเป็นรอยเท้าของนายบิวแต่อย่างใด จึงได้โทรสอบถามกับทางญาติ ทางญาติก็บอกไว้นายบิวไม่ได้กลับบ้านที่ศรีสะเกษ ในเวลาต่อมา ทางญาติของนายบิวได้เข้าไปถามหมอดู หมอดูบอกว่านายบิวยังมีชีวิตอยู่

หลังจากนั้นวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พนักงานในไซต์งาน ได้เห็นรองเท้าติดอยู่กับโคลนข้างริมน้ำ จึงเรียกตนไปดูพอตนได้เห็นรองเท้า ตนจึงมั่นใจว่าเป็นรองเท้าของตน เพราะว่านายบิวหารองเท้าของตัวเองไม่เจอ จึงใส่เลยรองเท้าของตนลงไปในน้ำอย่างแน่นอน ตนจึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อทำการค้นหาตัวของนายบิว แต่ก็ไม่พบตัวแต่อย่างใด

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ทางด้านหัวหน้าไซต์งาน ได้ทำพิธีตามความเชื่อได้จุดธูปบอกกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ในไซต์งานได้เริ่มทำก่อการตอกเสาเข็มทำงานปกติ บริเวณแม่น้ำกวง แต่ทำการตอกไม่เข้าเพราะปกติแล้ว พนักงานจะทำงานทุกวันและตอกเสาเข็มได้วันละ 10 เสา แต่วันนี้เสาเข็มที่ตอกลงไปได้เท่าไหร่เลื่อนลงสู่แม่น้ำแม่กวง และตอกไม่ได้เลยสักต้นเลยคาดว่าเป็นอาถรรพ์

ทางด้านแฟนนายบิวยังเชื่อว่านายบิวยังไม่ตาย และถ้านายบิวตายก็ขอให้เจอตัวโดยเร็ววัน ต่อมาได้มีคนมาบอกกับตนว่าได้พบกับนายบิว เดินอยู่ริมถนนในคืนวันเกิดเหตุ แต่ตนบังไม่แน่ใจว่าที่เห็นนั่นเป็นคนหรือเป็นวิญญาน

ชึ่งนายสมคิด ( ผู้เห็นเห็นนายบิวเดินอยู่ริมถนน) ได้เล่าและยืนยันกับว่า ตนได้ขับรถตามทางมาเรื่อย ๆ ออกจากบ้านสวน เพื่อที่จะมารับลูกสาวไปเที่ยวที่ต่างจังหวัด ได้เดินทางมากับภรรยาและลูกชาย พอถึงทางโค้งก่อนถึงบ้านประมาณ 50 เมตร สังเกตุเห็นคนเดินข้างถนนไม่พูดไม่จา ตนคิดว่าเป็นโจรหรือไม่ก็ผู้ร้ายจึงชะลอรถดู แต่ชายคนดังกล่าวไม่ได้หันมามองตนกับครอบครัวเลย ได้แต่เดินหน้าไปตามทาง และตนก็ไม่ได้รู้จักชายคนดังกล่าว และไม่เคยเห็นมาก่อน จึงคิดว่าเป็นคนเสียสติที่ออกมาเดินตอนดึก

วันต่อมา พอจนถึง ตจว. ตนได้เปิดดู โซเชียล และได้พบประกาศตามหาคนหาย ชื่อ นายกิตติธัช อายุ 29 ปี (บิว) ตนจึงรีบแจ้งเบาะแสให้กับทางผู้ใหญ่บ้าน และพอตนกลับจาก ตจว. ตนก็ได้เข้าไปบอกกับ นางปริณดา แฟนของนายบิว ซึ่งระยะทางห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 2 กิโลเมตร

ส่วนทางด้านของ นางปริณดา แฟนนายบิว ให้สัมภาษณ์ในเรื่องที่มีคนเห็นนายบิว กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนยังไม่เชื่อสนิทใจว่าคนที่เดินข้างถนนจะเป็นนายบิว เพราะยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนหรือภาพจากกล้องวงจรปิดแต่อย่างไร ว่านายบิว จะเดินไปจุดนั้น เพราะมีร่องรอยการพบรองเท้าของตนที่นายบิวได้สวมใส่ไปตกอยู่บริเวณริมแม่น้ำที่ไซต์งาน

หากพูดถึงความเชื่อตนคิดว่าอาจเป็นสิ่งลี้ลับ เช่น วิญญาณอาจออกจากร่างไปก่อนก็เป็นไปได้ หรือไม่นายบิวได้เดินออกไปแล้ว เดินวนกลับมาที่เกิดเหตุแล้วจมน้ำลงไป จึงร้องขอเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเข้ามาดำน้ำเพื่อค้นหาตัวของนายบิวสามีของตนอีกสักครั้ง เพราะบริเวณที่เจอรองเท้ามันเป็นวังวนหลายชั้น หรือชาวบ้านเรือกกันว่า “วังจา” ตนคาดว่าถ้านายบิวได้เดินเท้าออกไป อาจตกน้ำและค้างอยู่ในบริเวณนี้ก็เป็นได้ เพราะวันเกิดเหตุมีฝนตกหนักและน้ำไหลแรงมาก

อย่างไรก็ตามตนจึงร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ เข้ามาช่วยเหลืออีกทีในวันถัดไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น