วันที่ 7 ม.ค. 68 หลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มเผชิญกับมลพิษทางอากาศ ฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 หลายอำเภอขยับสูงขึ้นจนเกินค่ามาตรฐาน ( 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ) ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 รายชั่วโมง ในเวลา 11.00 น. พบเกินมาตรฐานทั้งหมด 46 จากทั้งหมด 79 จุดตรวจวัด สูงสุด 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่โรงพยาบาลสันกำแพง อ.สันกำแพง ขณะที่พื้นที่ค่าฝุ่นที่เกินมาตรฐานกระจายอยู่ในอำเภอสันกำแพง อำเภอจอมทอง อำเภอไชยปราการ อำเภอสารภี อำเภอแม่อาย อำเภอเชียงดาว อำเภอหางดง อำเภอฝาง อำเภอสันทราย อำเภอสันป่าตอง อำเภอพร้าว อำเภอแม่แตง อำเภอฮอด อำเภออมก๋อย อำเภอเวียงแหง และอำเภอเมืองเชียงใหม่

สถานการณ์ฝุ่นควันที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายพื้นที่ ทำให้หลายครอบครัวในจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มจัดเตรียมการป้องกันตัวเองจากฝุ่นพิษ ด้วยการจัดเตรียมหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์สำหรับฟอกอากาศในที่พักอาศัยไว้ล่วงหน้า
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ออกมาตรการ เพื่อควบคุมการเผาในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 โดยออกประกาศห้ามเผาเด็ดขาด เว้นแต่จำเป็นและจะต้องลงทะเบียนผ่านระบบ FireD และต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ โดยประกาศคำสั่งนี้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 พฤษภาคม 2568 หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้าน พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ภาค 3 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ 5 กองพล 10 มณฑลทหารบก ให้จัดกำลังที่ไม่ติดภารกิจป้องกันชายแดน เตรียมพร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วในการเข้าดับไฟป่าในแต่ละจังหวัด พร้อมจัดเตรียมอากาศยานและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสนุนการปฏิบัติงานในแต่ละจังหวัดที่เกิดสถานการณ์ไฟป่าขึ้น เพื่อลดปริมาณฝุ่นควันจากการเผาให้ได้มากที่สุด



ร่วมแสดงความคิดเห็น