สั่งฟัน ดต.ท่องเที่ยว หลังโผล่เก็บส่วย

จเรตำรวจแห่งขาติ สั่งฟัน ดต.ท่องเที่ยว.เก็บส่วย ให้ออกไว้ก่อนเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของ ตร.


จากกรณี วันที่ 7 ก.ค.65 เวลา 19.30 น.ชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ได้ร่วมกันจับกุม ด.ต.ภูวเมศร์ หิรัญวงศ์วราดล ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 และนายมานัส สุขสอง ได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ขณะที่ทั้งสองได้ขับรถยนต์มาตระเวนเก็บส่วยสถานบันเทิงในเขต จ.นนทบุรี โดย ด.ต.ภูวเมศร์ ได้ใช้รถยนต์สายตรวจตำรวจท่องเที่ยวยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ เป็นยานพาหนะในการตระเวนเก็บส่วยนั้น


วันที่ 8 ก.ค.65
กรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว สั่งการให้ตนดำเนินการในเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพราะว่าเป็นการกระทำความผิดอย่างชัดเจนจนถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างมาก โดยในเรื่องนี้จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนเลยว่าหากตำรวจคนใดกระทำผิดกฎหมายเสียเอง ก็จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว จึงได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.สุคุณ พรหมมายน ผบช.ทท. ให้รีบดำเนินการทางวินัยในทันที โดยให้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง โดยไม่ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้มีคำสั่งให้ ด.ต.ภูวเมศร์ ออกจากราชการไว้ก่อนโดยเร็วที่สุด สำหรับในส่วนของการดำเนินคดีอาญานั้น ตนได้กำชับให้ ผบก.ภ.จ.นนทบุรี ลงไปกำกับดูแลการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ให้ดำเนินคดีนี้อย่างรัดกุม รวดเร็วและเป็นธรรม เพื่อให้สังคมเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่ปกป้องตำรวจที่กระทำผิดในลักษณะนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ผบ.ตร.ยังได้สั่งการให้ตนกำชับไปยัง ผบช.ทท. ให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาของ ด.ต.ภูวเมศร์ ที่บกพร่องในการปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา จนทำให้มาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ต้องมีการตรวจสอบการนำรถยนต์สายตรวจตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรถยนต์ของทางราชการมาใช้ในการกระทำผิดนอกเขตพื้นที่รับผิดชอบของ ด.ต.ภูรเมศร์ ด้วยว่าเป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเป็นความบกพร่องของผู้ใด ก็ให้ดำเนินการทางวินัยในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดย พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่าหากพบว่ามีตำรวจนายใดออกนอกแถวไปกระทำผิดในลักษณะนี้อีก จะต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดทุกราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น