กุ้ยหยาง, 7 ก.ค. (ซินหัว) — ณ ไร่กีวีแห่งหนึ่งในเมืองลิ่วผานสุ่ย มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน “ชาฎา หน่อปันปวน” นักวิจัยหลังปริญญาเอกชาวไทยจากมหาวิทยาลัยกุ้ยโจว กำลังตั้งใจจดบันทึกข้อมูลการแบ่งปันผลประโยชน์ภายใต้โมเดล “รัฐบาล+บริษัท+เกษตรกร+มหาวิทยาลัย”ชาฎาที่เติบโตในพื้นที่ชนบทและเรียนจบปริญญาตรีและปริญญาโทในไทยรู้สึกประทับใจกับโมเดลรัฐบาลเป็นผู้ประสานงาน บริษัทเป็นผู้ออกเงินทุน มหาวิทยาลัยเป็นผู้มอบเทคโนโลยี และชาวบ้านเป็นผู้จัดสรรที่ดิน ซึ่งส่งผลให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน ประสบการณ์ของชาฎาถือเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนของความร่วมมือทางการเกษตรระหว่างจีนกับไทย ซึ่งใช้การแบ่งปันเทคโนโลยี นวัตกรรม และผู้มีความรู้ความสามารถเป็นสะพานเชื่อมโยงส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนตลอดหลายปีที่ผ่านมา ชาฎาเคยเดินทางมาแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) กุ้ยโจว และกว่างตง (กวางตุ้ง) ของจีน ก่อนจะเริ่มต้นทำวิจัยหลังปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยกุ้ยโจวในเดือนธันวาคม 2023 โดยชาฎากล่าวอย่างซื่อตรงว่าหากอยากเพิ่มพูนความรู้ การมาจีนเป็นตัวเลือกที่ดี ณ เขตสาธิตการเกษตรเชิงนิเวศประสิทธิภาพสูงสมัยใหม่ในอำเภอหลงหลี่ของมณฑลกุ้ยโจว เทคโนโลยีควบคุมโรงเรือนอัจฉริยะและกล้องวงจรปิดสำหรับเฝ้าติดตามแบบเรียลไทม์ ทำให้เขตสาธิตฯ สามารถเพาะปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีและบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งนี้สร้างความประทับใจแก่ชาฎาอย่างมาก การแลกเปลี่ยนบุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถได้เพิ่มพลังขับเคลื่อนความร่วมมือทางการเกษตรระหว่างจีนกับไทย โดยนักศึกษาชาวไทยมาจีนพร้อมปัญหาทางการเกษตรในท้องถิ่นของตนเอง และสามารถแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้นผ่านการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ เมื่อเดือนมิถุนายน นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิต 15 คน ได้เยือนคณะเกษตรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยกุ้ยโจวเพื่อเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน ระยะ 2 เดือน ซึ่งประกอบด้วยการปฏิบัติงานร่วมกันในห้องปฏิบัติการ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การวิจัยภาคสนาม รวมถึงเรียนรู้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น การปรับปรุงพันธุ์พืช และการควบคุมศัตรูพืชโดยชีววิธี […]
ร่วมแสดงความคิดเห็น