อ.สันกำแพง ประชุมประจำเดือน เกษตรอำเภองดเผาตอซังข้าว

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 มกราคม 2563 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ ในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯที่ว่าการอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประชุมประจำเดือน กำนัน ผญบ. มี นายสราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอสันกำแพง เป็นประธาน พร้อม หน.ส่วนราชการต่าง ๆ โดยทาง นายมานิตย์ ซูยกปิน ประธานชมรมกำนัน ผญบ.อ.สันกำแพง ได้นำ กำนัน ผญบ.ผช.สว.แพทย์ประจำตำบลร่วมประชุม 343 คน ทั้ง 10 ตำบล 100 หมู่บ้าน กันอย่างพร้อมเพียบ

จากนั้นทาง พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สันกำแพง ซึ่งมารับตำแหน่งใหม่ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ได้มาแนะตัวให้กำนัน ผญบ.รู้จักอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มพร้อมประวัติการทำงาน ผกก.มาหลายที่ ครั้งสุดท้ายมาจาก สภ.ช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ และยังมี พ.ต.ท.สมศักดิ์ หอมยศ รอง.ผกก.ป.สภ.สันกำแพง มารับตำแหน่งใหม่ จาก สภ.แม่ออน เชียงใหม่ ได้มาแนะตัวด้วย

ต่อมาทางนางแจ่มจันทร์ ล่ามช้าง เกษตรอำเภอสันกำแพง กล่าวว่าทางสำนักงานเกษตรอำเภอสันกำแพง ได้รับจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548 ซึ่งต้องมีการต่อทะเบียน เพื่อแสดงการประกอบการต่อเนื่องทุกปี ตามระยะเวลาที่กำหนด ภายใน 1 – 30 มกราคม 2563 ของทุกปี หากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มใดไม่มาดำเนินการต่อทะเบียนภายในระยะเวลาที่กำหนด วิสาหกิจชุมชนจะถูกถอนชื่อออกจากระบบหรือถูกเพิกถอนทะเบียน สำนักงานเกษตรอำเภอสันกำแพง ขอแจ้งให้ประธานหรือผู้แทนวิสาหกิจชุมชน มาดำเนินการต่อทะเบียน ในระหว่างวันที่ 1 – 30 มกราคม 2563 ณ สำนักงานเกษตรอำเภอสันกำแพง ในวันและเวลาราชการ โดยนำเอกสารสำคัญแนบการต่อทะเบียน  หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนหรือเครือข่าย (ทวช.2) 1สำเนาบัตรประชาชนของผู้ยื่นต่อทะเบียนหนังสือมอบอำนาจให้ทำการแทนบันทึกแจ้งความกรณีหนังสือ ทวช.2 สูญหาย แบบคำขอดำเนินกิจการต่อ (แบบสวช.03 ปรับปรุง 2562)แผนประกอบการสำหรับวิสาหกิจชุมชนแบบแสดงผลการดำเนินงานสำหรับวิสาหกิจชุมชนข้อบังคับ หรือข้อตกลงร่วมกันของสมาชิกแบบจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานฯเอกสารประกอบการยื่นขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษี สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอำเภอสันกำแพง

นอกจากนี้โครงการลดการเผาในพื้นที่การเกษตร หลังการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว เกษตรกรมักทำการเผาฟางข้าว ตอซังข้าว เพื่อความสะดวกในการ ไถเตรียมดินเพื่อการเพาะปลูกพืชใหม่ในฤดูการผลิตต่อไป การเผาจะทำลายอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารในดินการเผาฟางข้าวเหมือนกับการเผาปุ๋ย ทำให้สูญเสียธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์กับพืชโดยทำลายธาตุอาหารหลัก (N-P-K) คิดเป็นมูลค่าเงินได้ถึง 216 บาทต่อไร่ กล่าวคือสูญเสียไนโตรเจน (N) ปริมาณ 6.9 กิโลกรัมต่อไร่ คิดเป็นมูลค่า 79 บาทต่อไร่ ฟอสฟอรัส (P) ปริมาณ 0.8 กิโลกรัมต่อไร่ คิดเป็นมูลค่า 10 บาทต่อไร่ และโพแทสเซียม (K) ปริมาณ 15.6 กิโลกรัมต่อไร่ คิดเป็นมูลค่า 172 บาทต่อไร่

การเผาในพื้นที่เกษตรยังทำลายดินอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดินลดต่ำลง โครงสร้างดินอัดแน่นไม่ร่วนซุยกักเก็บน้ำได้น้อยลงทำลายน้ำในดิน ทำให้ผิวดินมีอุณหภูมิสูงถึง 90 องศาเซสเซียส น้ำในดินระเหยสู่อากาศ ความชื้นในดินลดน้อยลง ทำลายแมลงศัตรูธรรมชาติและจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดินระบบนิเวศของดินไม่สมดุล เกิดการแพร่ระบาดของโรค ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเกษตรกรสามารถสร้างทางเลือกโดยนำเศษวัสดุดังกล่าวทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ เช่น ฟางข้าวและตอซังข้าว เมื่อไม่เผาและทิ้งไว้ในนาหลังการเก็บเกี่ยวก็จะได้ประโยชน์โดยไม่ต้องลงทุน ความร้อนจากแสงอาทิตย์จะทำให้ฟางข้าวกรอบ เนื่องจากความร้อนของแสงแดดช่วงเดือนมกราคม – เมษายน จะร้อนจัดเมื่อถึงเดือนพฤษภาคมฝนตก จะทำให้เกิดน้ำขังในกระทงนา และฟางข้าวและตองซังข้าวจะอ่อนตัว และแช่น้ำกลายเป็นปุ๋ยชีวภาพในกระทงนาเป็นอย่างดี เมื่อเกษตรกรหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรแล้วจะได้สิ่งดี ๆ 5 อย่างคือ อากาศดี สุขภาพดี เศรษฐกิจดี สิ่งแวดล้อมดี และได้ปุ๋ยดีจากธรรมชาติ ใครที่ไม่เข้าใจสอบถามได้ที่ สนง.เกษตรอำเภอสันกำแพงในเวลาราชการทุกเวลา

ร่วมแสดงความคิดเห็น