เปิดตัว ฟิล์มปิดหน้าถาดจากเม็ดพลาสติกชีวภาพ

เอ็มเทค สวทช. เปิดตัว ‘ฟิล์มปิดหน้าถาดจากเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ’

‘มูลนิธิโครงการหลวง’ นำร่องใช้จริงบรรจุเมนูผักสลัดพร้อมทาน ผู้บริโภคได้ 2 ต่อ‘กินผักสดดีต่อสุขภาพ-หนุนบรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อโลก’
เอ็มเทค สวทช. โชว์ความเชี่ยวชาญการวิจัยด้านวัสดุศาสตร์ เปิดตัว ‘ฟิล์มปิดหน้าถาดจากเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ’ มีจุดเด่นที่ ฟิล์มบางใส ต้านทานการเกิดฝ้า ช่วยยืดอายุสินค้าผักสลัดให้คงสภาพสดใหม่ในชั้นวางจำหน่ายจากเดิม 3 วัน เป็น 5 วัน ด้านมูลนิธิโครงการหลวง นำร่องใช้ฟิล์มกับบรรจุภัณฑ์ ‘เมนูผักสลัดพร้อมทาน’ ในร้านค้าโครงการหลวง ถูกใจผู้บริโภคสายเฮลธ์ตี้ ได้ถึง 2 ต่อ ได้กินผักสดปลอดภัยดีต่อสุขภาพ และสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


 
วันที่ 6 สิงหาคม 2565 ณ บริเวณโซน เซ็นทรัล คอร์ต (Central Court) ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ : ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) แถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรม ‘ฟิล์มปิดหน้าถาดจากเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ’ เริ่มต้นด้วยกันเพื่อเราเพื่อโลก โดยมี พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ศ.ดร.อาภาณี เหลืองนฤมิตชัย ประธานอนุกรรมการแผนงานกลุ่มพลังงาน เคมีและวัสดุชีวภาพ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และนายเดชบดินทร์ เหรียญทรัพย์ดี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าว ซึ่งภายในงานมีการเปิดตัว ฟิล์มปิดหน้าถาดจากเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพที่นำไปบรรจุผักสลัดพร้อมทานของมูลนิธิโครงการหลวง วางจำหน่ายให้ประชาชนที่เข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียม สินค้าผลผลิตทางการเกษตร ที่ปลูกโดยชาวเขาบนพื้นที่สูงภายในงานโครงการหลวง 53 (Royal Project 53) ซึ่งมูลนิธิโครงการหลวงและพันธมิตรจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-14 สิงหาคม 2565 นี้

พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง ได้กล่าวเปิดการแถลงข่าว โดยมีใจความว่า รูปแบบการพัฒนาทางเลือกพืชทดแทนฝิ่นของมูลนิธิโครงการหลวง ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่า เป็นรูปแบบการปฏิบัติที่ดีที่ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมในการสร้างความอยู่ดีกินดีของประชาชนบนพื้นที่สูง เกิดผลิตผลมากมายภายใต้การผลิตตามมาตรฐานอาหารปลอดภัย เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคชาวไทย และแบบอย่างโครงการหลวงโมเดลยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
ปัจจุบันเกษตรกรบนพื้นที่สูงเลิกการปลูกฝิ่นหันมาประกอบอาชีพการเกษตร ด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้ระบบมาตรฐานอาหารปลอดภัย จึงทำให้ผลผลิตโครงการหลวงเป็นผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค

ความร่วมมือที่มูลนิธิโครงการหลวง ได้รับจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) โดยงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ในการประยุกต์ใช้นวัตกรรม “ฟิล์มปิดหน้าถาดจากเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ” บนถาดสลัดของโครงการหลวง จึงเป็นการต่อยอดการวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากประโยชน์ในการคงไว้ซึ่งคุณภาพของผลผลิต ยังเกิดประโยชน์ในมิติของสิ่งแวดล้อม ถือเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การดำเนินงานของมูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งให้ความสำคัญกับการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการต่อยอดนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาผลิตผลและผลิตภัณฑ์คุณภาพ สร้างความพึงพอใจแก่ผู้บริโภค และยังสนับสนุนนโยบายของประเทศอีกด้วย

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า  สวทช. ในฐานะหน่วยงานขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาของประเทศ โดยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Economy Green Model) เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังนำงานวิจัยและนวัตกรรมควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน จึงเกิดเป็นความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ไปสู่ความสำเร็จในการวิจัยพัฒนา กระทั่งเป็นการเปิดตัวนวัตกรรมฟิล์มปิดหน้าถาดจากเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ในครั้งนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น