ปภ. รับมอบอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการตอบโต้ภัยสารเคมีชีวภาพจากสหรัฐอเมริกา
วันนี้ (9 ธ.ค.65) เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุม 1 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานรับมอบอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการตอบโต้ภัยสารเคมีชีวภาพ รังสีหรืออาวุธนิวเคลียร์และอาวุธเคมีที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงจากสหรัฐอเมริกา จาก Mr. David L. Musgrave ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบพื้นที่และสร้างศักยภาพเครือข่าย หน่วยงานด้านการลดภัยคุกคามด้านกลาโหม (Defense Threat Reduction Agency (DTRA ดีทร้า) ประจำกระทรวงกลาโหม สหรัฐอเมริกา โดยมี นาวาอากาศตรีเดวิด เพชรนีไชยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทางอากาศ คณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (JUSMAGTHAI) ผู้บริหาร ปภ. ผู้แทน JUSMAGTHAI และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีรับมอบ

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา สถิติการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยบ่อยครั้งสถานการณ์ได้ลุกลามเป็นอัคคีภัยขนาดใหญ่ สร้างความสูญเสียและเสียหายต่ออาคาร ที่พักอาศัย รวมถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพและระบบนิเวศบริเวณรอบชุมชน ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตระหนักถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยจากสารเคมี วัตถุอันตราย รวมถึงภัยที่ส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ
กรณีที่เกิดภัยเหล่านี้ขึ้นภาครัฐจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรัดกุม ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ความรู้เฉพาะทาง ในการเตรียมความพร้อมรับมือต่อเหตุการณ์ เพื่อควบคุมสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว มีแบบแผน เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินโครงการความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติระหว่างทั้งสองฝ่ายมายาวนานตลอด 15 ปี ผ่านการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้าน การจัดการภาวะฉุกเฉิน การจัดตั้งองค์กรปฏิบัติการจัดการในภาวะฉุกเฉิน ระบบบัญชาการเหตุการณ์ การจัดทำมาตรฐานการปฏิบัติในสถานการณ์ฉุกเฉินและการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์และปรับปรุงระบบเตือนภัยล่วงหน้า

และในวันนี้ นับเป็นอีกหนึ่งการแสดงเจตจำนงในการสนับสนุนภารกิจด้านการบริหารจัดการตอบโต้เหตุฉุกเฉินในประเทศไทย ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติระหว่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและสหรัฐอเมริกาที่ได้ส่งมอบอุปกรณ์เครื่องมือตอบโต้ต่อสารเคมี ชีวภาพ รังสี หรืออาวุธนิวเคลียร์ และอาวุธเคมีที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงกว่า 200 รายการ คิดเป็นมูลค่า 2.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 74 ล้านบาท ให้แก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการจัดฝึกอบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ แก่ภาคีเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานกู้ภัยทั่วประเทศ
เพื่อสร้างแนวทางและวิธีปฏิบัติการตอบโต้และควบคุมอุบัติภัยอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และคำนึงถึงปลอดภัย เพื่อยกระดับการบริหารจัดการตอบโต้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่ง ปภ. มีแผนต่อยอดความร่วมมือเพื่อให้เกิดความยั่งยืนของโครงการต่อไป โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการตอบโต้ภัยจากสารเคมี และอาวุธเคมีที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานภาคีเครือข่ายจะได้นำอุปกรณ์และเครื่องมือไปใช้ปฏิบัติงาน ควบคุมสถานการณ์และระงับเหตุในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติมายาวนานและต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ 2548 ผ่านความร่วมมือที่หลากหลาย ได้แก่ การจัดทำกลไกการประสานความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติระหว่างทหารและพลเรือนอย่างเป็นรูปธรรม การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉิน (Emergency Operating Centre :EOC) การสร้างความรู้ความเข้าใจระบบบัญชาการเหตูการณ์ (Incident Command System :ICS) การจัดทำระเบียบปฏิบัติด้านการจัดการภาวะฉุกเฉิน (Standard Operating Procedure :SOP) การฝึกซ้อมบนโต๊ะเพื่อจัดทำแผนตอบโต้ภัยพิบัติในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง การพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าที่มีความทันสมัยและรวดเร็ว รวมถึงการสนับสนุนความร่วมมือเชิงวิชาการอื่นๆ
นอกจากนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Defense Threat Reduction Agency (DTRA) และคณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (JUSMAGTHAI) ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและทักษะการตอบโต้เหตุฉุกเฉินจากสารเคมีและวัตถุอันตรายแก่เจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (Emergency Response Team (ERT) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานภาคีเครือข่ายรวม 11 หน่วยงานมาโดยตลอด ทั้งในด้านการให้ความช่วยเหลือเชิงวิชาการ การจัดสรรงบประมาณในการจัดฝึกอบรม เก็บและขนย้ายเครื่องมือ อุปกรณ์ สารเคมีและวัตถุอันตราย การฝึกปฏิบัติวางแผนตอบโต้สถานการณ์ ซึ่งนับเป็นความร่วมมือที่แน่นแฟ้นและยาวนานในการมุ่งสร้างมาตรฐานด้านการบริหารจัดการตอบโต้เหตุฉุกเฉินให้มีประสิทิภาพและมาตรฐาน นำไปสู่การลดความสูญเสียและสร้างความปลอดภัยแก่สังคมไทย


ร่วมแสดงความคิดเห็น