1196

จีนแถลงประณามการเยือนไต้หวันของ “แนนซี” อย่างรุนแรง

3 ส.ค.65 Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย แถลงการณ์ของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2565 นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกาได้เดินทางเยือนไต้หวันของประเทศจีน โดยไม่สนใจการคัดต้านอย่างรุนแรงและการแสดงท่าทีอย่างจริงจังของฝ่ายจีน ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนหลักการประเทศจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ ทั้ง 3 ฉบับอย่างร้ายแรง เป็นการบ่อนทำลายรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯอย่างร้ายแรง เป็นการรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศจีนอย่างร้ายแรง เป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรง และก็เป็นการส่งสัญญาณผิดพลาดอย่างร้ายแรงไปยังกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน สำหรับเรื่องนี้ ฝ่ายจีนคัดต้านอย่างเด็ดขาดและขอประณามอย่างรุนแรง ได้แสดงท่าทีอย่างจริงจังและประท้วงอย่างรุนแรงต่อฝ่ายสหรัฐฯ ในโลกนี้มีแค่ประเทศจีนเดียว ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนที่แบ่งแยกไม่ได้ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงแต่รัฐบาลเดียวที่สามารถเป็นตัวแทนของทั่วประเทศจีน มติ 2758 ของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1971 ได้มีการรับรองในเรื่องนี้อย่างชัดเจน นับตั้งแต่การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1949 เป็นต้นมา มีทั้งหมด 181 ประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศจีนบนพื้นฐานหลักการประเทศจีนเดียว ซึ่งเป็นฉันทามติทั่วไปของประชาคมโลกและหลักการขั้นพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ปัจจุบัน สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันกำลังเผชิญกับความตึงเครียดและความท้าทายที่รุนแรงรอบใหม่ สาเหตุที่แท้จริงก็คือ ทางการไต้หวันและฝ่ายสหรัฐฯได้พยายามเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่อย่างต่อเนื่อง โดย “ใช้ไต้หวันในการควบคุมจีน” บิดเบือนทำลายหลักการประเทศจีนเดียวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการรุกล้ำอธิปไตยของจีนและเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงแห่งชาติของประเทศจีน ยังได้บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นางแนนซี เพโลซี เป็นผู้นำรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯคนปัจจุบัน […]

ดอลลาร์แข็งค่า ท่องเที่ยวเชียงใหม่เตรียมรับอานิสงส์

ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนมิถุนายน 2565 เร่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี เป็นสัญญาณเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นที่ 1.3%MoM อยู่ที่ระดับ 9.1%YoY จากเดิมตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 8.8%YoY หากเทียบกับเดือนก่อนหน้า เงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องเพิ่มแรงกดดันต่อ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า  Fed คงพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย1.00% เนื่องจากเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากสุดในรอบ 40 ปี และนั้นอาจสร้างความวิตกกังวลต่อตลาดได้ ในกรณีที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.00% ตลาดมองว่า Fed มีความวิตกกังวลอย่างมากที่จะไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้ยาแรง แต่นั้นหากจะดำเนินนโยบายอย่างแข็งกร้าวมากขึ้น Fed อาจจะต้องทบทวนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกันถึงแม้ว่า Fed พยายามพลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้ไปสู่ Soft Landing แล้วก็ตามที เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ยังมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค หรือหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกันในช่วงปี 2566 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ในเดือนมิถุนายน ลดลงมาแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นว่าการบริโภคของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะชะลอลง ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในประเทศให้ชะลอลงไปกว่าเดิม สำหรับผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ มีการดำเนินนโยบายการเงินที่เผชิญกับการอ่อนค่าของเงินลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับ Fed ที่อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ยังมีทิศทางแข็งค่า อย่างต่อเนื่องซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยได้ทั้ง 2 ด้าน EIC ประเมินว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค (technical recession) แต่จะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อประเทศไทย เนื่องจากอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ และภาคธุรกิจโดยรวมยังคงขยายตัว  แต่การตึงตัวภาคการผลิต จากปัจจัยต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้น อาจส่งผลต่อผลผลิต […]

สลด!! พบศพผู้อพยพ 46 ราย คาตู้รถบรรทุกในสหรัฐ

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐอเมริกา พบศพผู้อพยพไม่น้อยกว่า 46 คน ในตู้คอนเทนเนอร์ ของรถบรรทุกที่ถูกจอดทิ้งไว้บริเวณชานเมืองซาน แอนโตนิโอ รัฐเท็กซัส ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายแดนสหรัฐ – เม็กซิโก ประมาณ 250 กม. โดยหน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงจุดเกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากภายในตู้คอนเทนเนอร์แช่เย็นของรถบรรทุกที่ถูกจอดทิ้งไว้ ภายในรถคันดังกล่าวไม่พบน้ำดื่ม และไม่มีการเปิดระบบปรับอากาศทิ้งไว้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจำนวน 16 คน โดยเป็นเด็กจำนวน 4 คน ผู้รอดชีวิตทั้งหมดบาดเจ็บจากอากาศโรคลมแดดและอ่อนเพลียจากความร้อน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนระอุในเมือง โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มีอุณหภูมิสูงถึง 39.4 องศาเซลเซียส สำหรับเมืองซาน แอนโตนิโอ ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางหลักของขบวนการค้ามนุษย์ ที่ลักลอบนำผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางเข้ามายังสหรัฐอเมริกา โดยขบวนการค้ามนุษย์มักนิยมลักลอบนำผู้อพยพซ่อนไว้ในรถบรรทุกเดินทางข้ามชายแดนหลายครั้ง โดยเมื่อปี พ.ศ. 2560 ได้เกิดเหตุพบศพผู้อพยพถูกทิ้งจำนวน 10 คน ในรถบรรทุกที่จอดทิ้งไว้ใกล้กับห้างสรรพสินค้า Walmart ทางตอนใต้ของเมือง ภายหลังเหตุการณ์ นายยกเทศมนตรีของเมือง Ron Nirenberg ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น […]