จนท.บูรณาการกำลังช่วย 2 ผัวเมียชาวไทย พ้นมือแก๊งโรแมนซ์สแกม ในเขตว้า ประเทศเมียนมา
วันที่ 13 ธ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไทยประสานรับตัว 2 ผัวเมีย กลับจากเมียนมา หลังตกเป็นเหยื่อแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกไปทำงานให้กลุ่มทุนจีน ในพื้นที่เขตว้า ประเทศเมียนมา เผยถูกกังขังบังคับทำงาน 15 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าไม่ได้ตามเป้าต้องจ่ายค่าที่พักอาหารวันละ 1,000 บาท จึงแอบประสานทางการไทยช่วยเหลือ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) สั่งการให้ พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.สส.ท./รองหัวหน้าฝ่ายอำนวยการชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ประสานการปฏิบัติมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ให้ดำเนินการสืบสวนติดตามให้การช่วยเหลือบุคคลสัญชาติไทยถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศเมียนมา ราย น.ส.ขาว (นามสมมุติ) และนายแดง (นามสมมุติ) สามี
ต่อมา พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผกก.ตม.เชียงราย ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.กิตติธร นาคเกลี้ยง รอง ผบก.ตม. เชียงราย และ พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.เชียงราย ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว กระทั่ง ได้ให้การช่วยเหลือ น.ส.ขาว (นามสมมุติ) และนายแดง (นามสมมุติ) สามี กลับมายังประเทศไทย ผ่านช่องทางตรวจอนุญาตสะพานข้ามแม่น้ำสาย แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยได้ดำเนินการตรวจคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรคและดำเนินการตามพิธีการทางศุลกากรโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และได้สัมภาษณ์คัดกรองร่วมกับเจ้าหน้าที่จาก พม.จว.เชียงราย เพื่อดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ในการสอบปากคำ นำชี้สถานที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการสืบสวนขยายผลเครือข่ายขบวนการหลอกลวงคนไทยไปทำงานต่างประเทศ และเครือข่ายลักลอบนำพาบุคคลเข้ามา-ออกไปนอกราชอาณาจักรไว้แล้ว
ปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลังว่า น.ส.ขาว (นามสมมุติ) ถูกนายหน้าคนไทยชื่อ น.ส.เกตุ และ ปุ้ย (อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล) หลอกชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศเมียนมา ในบริษัทของกลุ่มนายทุนคนจีน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ลักษณะการทำงาน จะมีพนักงานทำหน้าที่เป็นแอดมินพูดคุยกับลูกค้าชาวต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าโซนประเทศฝั่งทวีปยุโรป ใช้ภาษาอังกฤษ ในการสื่อสาร มีแอดมินจะมีหน้าที่หาลูกค้า โดยการใช้โปรไฟล์ของผู้หญิงที่มีบุคลิกภาพดี พูดคุยผ่านช่องสนทนาลักษณะสร้างความสัมพันธ์ หลอกให้หลงเชื่อและรักใคร่ชอบพอ จากนั้นจะออกอุบายชักชวนให้ลงทุน ในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิตอล cryptocurrency เมื่อลูกค้าตกลงใจจะลงทุน แอดมินจะส่งข้อมูลต่อให้กับฝ่ายการตลาด เพื่ออธิบายขั้นตอนในการลงทุน ในการหลอกลงทุนแต่ละครั้งจะมียอดขั้นต่ำตั้งแต่ 1,000 ดอลล่าร์ขึ้นไป ทางบริษัทกำหนดเงื่อนไขในการทำงานให้แอดมินแต่ละคน หลอกลวงเหยื่อให้ได้อย่างน้อย 5 คนต่อวัน ในส่วนของราย น.ส.ขาว (นามสมมุติ) และสามี ให้การว่า ตนสามารถส่งข้อมูลเหยื่อให้กับฝ่ายการตลาดได้เฉลี่ยวันละ 2 คน แต่ไม่ทราบว่าลูกค้าที่หลอกลวงได้จะตัดสินใจเข้าลงทุนหรือไม่ อย่างไร ลักษณะการดำเนินกิจการดังกล่าวเข้าข่าย ขบวนการ “ROMANCE SCAM”
เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆแล้วเสร็จ ทางตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย ได้ส่งตัว น.ส.ขาว (นามสมมุติ) และสามี ไปยังศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น