เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.65 ณ ภายในพื้นที่ลานกีฬา ของบ้านร่องส้าน ม.8 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้มีการจัดประเพณีปีใหม่ม้งประจำปี 65 ขึ้น หลังจากที่สถานการณ์โควิดพาให้งานถูกงดจัดนานกว่า 2 ปี ทั้งนี้นายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดงานครั้งนี้โดยมีพี่น้องชาติพันธุ์ม้งและสมาชิกสมาคมชาวม้งพะเยาอีกทั้งบ้านร่องส้าน ม.8, ม.20 บ้านประชาพัฒนา ม.21 บ้านประชาภักดี ม.13และบ้านห้วยเดื่อดอยนาง ม.22 ร่วมเดินขบวนอวดความสวยงามของเครื่องแต่งกายและร่วมการเปิดงานครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ในส่วนของบ้านปางค่าเหนือ ม.6 ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา ก็ได้มีการเปิดงานปีใหม่ม้งเช่นกันซึ่งได้มีทางนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.พะเยาและนายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา เขต 3 ร่วมเปิดงานครั้งนี้ด้วย โดยทางผู้นำชุมชนบ้านปางค่าเหนือได้ให้มีการแสดงต้อนรับจำนวน 6 ชุดอีกทั้งกิจกรรมการโยนลูกช่วงและการตำข้าวหรือที่เรียกว่าพิชซ่าม้งให้กับทางผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองทำด้วย
นายธวัช กล่าวว่า หลังจากที่เรื่องของโรคโควิดคลี่คลายลงแล้วนั้นทางพี่น้องชาติพันธุ์ม้งก็ได้มีการจัดงานรื่นเริงกันส่วนใหญ่ โดยเป็นประเพณีปีใหม่ม้งซึ่งจะมีขึ้นในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของช่วงสิ้นปี ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมอย่างหลากหลายซึ่งตนก็ได้ทดลองตำพิชซ่าม้งที่เป็นอาหารในช่วงหน้าหนาวซึ่งเป็นอาหารประจำถิ่นด้วย ทำให้งานดังกล่าวดูสนุกสนานด้วยเพราะพี่น้องม้งส่วนใหญ่ได้มีการแต่งกายในชุดประจำชาติพันธุ์ของตัวเองอย่างสวยงาม ซึ่งชุดที่แต่งกายนั้นจะประยุกต์เปลี่ยนแปลงในทุกปีแต่จุดเด่นนั้นจะอยู่ที่ชุดที่พี่น้องม้งที่สวมใส่ทั้งชายและหญิงส่วนใหญ่นั้นจะเป็นงานสร้างด้วยมือโดยไม่ผ่านเครื่องจักรในการทักทอแม้แต่น้อย ซึ่งทำให้ชุดของพี่น้องม้งนั้นมีราคาที่แพงเป็นอย่างมากอีกทั้งยังดูสวยงามอีกด้วย
ด้านนายนิกร ยะกะจาย นายอำเภอปง ได้กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันประเพณีปีใหม่ม้งนั้นยังมีให้เห็นอยู่ต่อเนื่อง ด้วยเพราะเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานด้วยโดยเมื่อก่อนประเพณีปีใหม่ม้งนั้นจะทำกันภายในหมู่บ้านซึ่งคนข้างนอกน้อยมากที่จะได้เข้ามาเห็นความสวยงามของชาติพันธุ์ม้งนี้ แต่ปัจจุบันหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้านทำให้ชาติพันธุ์ม้งเป็นที่รู้จักจากคนภายนอกมากยิ่งขึ้นด้วยการแต่งกายที่สวยงาม ประเพณีที่ดูแปลกตารวมทั้งกีฬาที่มีเฉพาะของชาติพันธุ์ม้งนอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
ร่วมแสดงความคิดเห็น