เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 29 ต.ค.2566 ทาง ร.ต.อ.พสิษฐ์ เถาวัลยา พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.เชียงคำได้รับแจ้งเหตุว่ามีชาวบ้านพลัดตกสระน้ำในสวนลำไยของตัวเองจำนวน 2 ราย บริเวณในพื้นที่บ้านบ่อน้อย ม.4 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา จึงได้ลงพื้นที่เกิดเหตุทันทีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจจุดเชียงคำและเจ้าหน้าที่ ปภ.ของ อบต.อ่างทอง
เมื่อไปถึงเห็นชาวบ้านมุงดูบริเวณรอบ ๆ สระน้ำทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ทำการลงไปงมหาซึ่งใช้เวลาไม่นานจึงสามารถนำร่างของทั้ง 2 รายขึ้นจากฝั่งได้ ทราบชื่อต่อมาคือนายก่ำ (สงวนนามสกุล) อายุ 88 ปี และนางถม (สงวนนามสกุล) อายุ 83 ปี อาศัยอยู่ บ้านบ่อน้อย ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยทั้ง 2 เป็นพ่อและแม่ของนายอุดม ช่างซ่อมรถชื่อดังในพื้นที่ของ ต.อ่างทอง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบร่างกายของทั้ง 2 ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
นายอุดม ได้เล่าว่า ก่อนช่วงเกิดเหตุนั้นพ่อและแม่ของตนได้เดินทางไปที่สวนลำไย เพื่อที่จะตรวจดูความเรียบร้อยของสวน โดยแม่ของตนเองมักชอบไปถางหญ้าข้างสระน้ำเป็นประจำเพราะเห็นว่าช่วงนี้เป็นหน้าฝนและหญ้ามักจะขึ้นสูงอยู่บ่อยครั้ง ส่วนตัวของพ่อนั้นจะชอบไปตกเบ็ดทั้งในสระและรอบ ๆ สวน
ทั้งนี้พอเกิดเรื่องตนจึงรีบไปที่เกิดเหตุทันทีและทางญาติของตนที่ไปด้วยนั้นได้เล่าให้ตนทราบว่าในช่วงเวลาเที่ยงทางพ่อของตนได้มาตามหาแม่เพื่อที่จะเรียกไปทานข้าวเที่ยง แต่พอกลับมาถึงไม่พบตัวจึงคิดว่าหน้าจะกลับไปที่บ้านโดยพ่อของตนจึงได้ขับรถมาที่บ้านแต่ก็ไม่พบตัวของแม่ตนเอง ทั้งนี้จึงได้ขับรถกลับไปที่สวนอีกครั้งและสังเกตรอบ ๆ สระพบว่ามีรองเท้ากระจัดกระจายอยู่ข้างสระจึงคาดว่าแม่ของตนได้ตกลงในสระอย่างแน่นอน หลังจากนั้นพ่อของตนจึงได้กระโดดลงสระที่มีความลึกเกือบ 3 เมตร เพื่อที่จะหาแม่ของตนเอง แต่ต่อมากลับหายไปทั้งคู่ตนจึงเชื่อว่าคงจะจมน้ำไปทั้งคู่อย่างแน่นอน ทั้งนี้พอตนเห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของทั้ง 2 ขึ้นมาได้นั้นตัวเองเข่าแทบทรุดทันทีเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งคู่ได้จากไปแล้ว
ด้านนายสราวุธ กาติ๊บ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้กล่าวเสริมว่า ในอาทิตย์นี้พบว่าชาวบ้านในพื้นที่ของ ต.อ่างทองนั้นจมน้ำเสียชีวิตไปแล้วถึง 3 ศพในเวลาห่างกันคนละวันเท่านั้น ซึ่งตนก็ได้ปรึกษาในเรื่องของการป้องกันเหตุจากทางน้ำและการจัดซื้ออุปกรณ์การค้นหาทางน้ำกับทางนายอนุชา กาติ๊บ นายก อบต.อ่างทอง ว่าเห็นสมควรให้มีเนื่องจากเกิดเหตุบ่อยครั้งในพื้นที่แบบนี้ รวมทั้งต้องมีการประชาสัมพันธ์ถึงบุตรหลานที่จะต้องดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดด้วย ทั้งนี้ในเรื่องของผู้ตายทั้ง 2 ทางญาติไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใดจึงได้มอบร่างของผู้เสียชีวิตให้กับทางญาติเพื่อไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น